สถานีข่าว KIRO7 ในคัลล์แมน เคาน์ตี รัฐอลาบาม่า รายงานข่าวเมื่อวันที่ 16 กันยายน ถึงเรื่องราวของ แจ็คสัน แมทธิว ฮอลล์ วัย 26 ปี ชาวเมืองเลซี่ส สปริง รัฐอลาบาม่า ที่ถูกตั้งข้อหาอาญาเกี่ยวกับการทำร้ายทางเพศเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหลายกระทงในช่วงปลายปี 2014 และต้นปี 2015 แต่ได้หนีประกันออกนอกประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าขณะนี้เขาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย โดยใช้ชื่อปลอม

การหลบหนีของผู้ต้องหาคดีข่มขืนเด็กหญิงวัยเพียงห้าขวบคนนี้ ไม่เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง กระทั่งเกิดมีข่าวที่เกี่ยวข้องกับเขาขึ้นในประเทศไทย หลังจากที่ครอบครัวของผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ชื่อว่า นิตยา หรือหนึ่ง พลสีพิม (Polseepim) ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอหายตัวไป ระหว่างพาชาวอเมริกัน ชื่อ ไทเลอร์ สมิธ ไปทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่จังหวัดระยอง ก่อนที่เรื่องราวจะชัดเจนขึ้นว่า ชาวอเมริกันชื่อ ไทเลอร์ สมิธ นั้น แท้จริงคือ แจ็คสัน แมทธิว ฮอลล์ ผู้ต้องหาคดีทำร้ายทางเพศเด็กที่กำลังอยู่ระหว่างหลบหนีคดี อีกทั้งมีการสันนิษฐานว่า นิตยา พลสีพิมพ์ อาจจะช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนีคดีหลบหนี

จากนั้นไม่นาน สามีของ นิตยา พลสีพิม เป็นนักบินชาวแอฟริกาใต้ ชื่อ ดารอน เบียดคาร์ ก็ได้ปรากฎตัวเป็นข่าวขึ้นมา โดยเขาเข้าแจ้งความที่จังหวัดสระบุรี เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2017 ถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของภรรยา โดยทราบจากข่าวว่าอาจจะอยู่กับผู้ต้องหาหลบหนีคดีจากอเมริกา ซึ่งตนเองเกรงว่าภรรยาอาจจะไม่ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวก็เงียบหายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มีข่าวปรากฎทางเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ที่อ้างว่า นิตยา พลสีพิม ได้ติดต่อกับญาติแล้ว บอกว่าไม่ได้หลบหนีไปกับ แจ็คสัน แมทธิว ฮอลล์ แต่มีปัญหากับสามีนักบินชาวแอฟริกาใต้  (ซึ่งข่าวบางกระแสบอกว่าเป็นอดีตสามี) และต้องการอยู่เงียบๆ เพียงลำพัง

จากกระแสข่าวที่ปรากฎในประเทศไทยนั้น ดูเหมือนจะถูกเพ่งความสนใจไปที่การหายตัวไปของ นางนิตยา พลสีพิม หรือความเกี่ยวข้องของเธอกับผู้ต้องหาชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าขณะนี้มี “บุคคลอันตราย” กำลังหลบหนีคดีอยู่ในประเทศไทย และอาจทำร้ายเด็กไทยอยู่นั้น กลับไม่ได้รับความสนใจมากนัก และก่อนที่ข่าวจะเงียบหายไป หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้รายงานข่าวเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2017 ว่าผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พล.ต.ต. ไตรศูล เนียมทรัพย์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ทำให้ทราบว่าตำรวจระยองไม่ทราบข้อมูลเรื่องนี้ แต่กำชับให้ฝ่ายสืบสวนเฝ้าดูเรื่องนี้อยู่ ขณะที่ทางด้านตำรวจ จ.สระบุรี ที่รับแจ้งความคนหาย ก็ได้นำภาพถ่ายนางนิตยา ออกตามหาตัว แต่ก็ยังไม่พบเช่นกัน

หลังจากที่เรื่องนี้กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งโดยสื่อมวลชนท้องถิ่นของอลาบาม่า ดารอน เบียดคาร์ ก็ได้นำมาแชร์ต่อบนเฟซบุ๊กของเขา รวมถึงบอกด้วยว่า “เพิ่งได้รับแจ้งจากตำรวจ ที่เชื่อว่า เขา (แจ็คสัน แมทธิว ฮอลล์) อาจเอาสำเนาเอกสารของครูคนอื่นมาใช้” และว่าชื่อเต็มของเจ้าของเอกสารดังกล่าวคือ ไทเลอร์ โดรัน สมิธ

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ เดอะ คัลล์แมน ไทมส์ ของคัลล์แมน เคาน์ตี อลาบาม่า ก็ได้นำเสนอเรื่องราวของผู้ต้องหาอันตรายที่เชื่อว่ากำลังหลบหนีคดีอยู่ในเมืองไทยเช่นกัน โดยบอกว่า แจ็คสัน แมทธิว ฮอลล์ เดินทางออกนอกประเทศโดยใช้หนังสือเดินทางของเพื่อน

หนังสือพิมพ์ท้องทิ้นของคัลล์แมน เคาน์ตี บอกด้วยว่า แจ็คสัน แมทธิว ฮอลล์ ถูกตั้งข้อหาอาญาร้ายแรง (first-degree rape and first-degree sodomy) โดยอัยการของ คัลล์แมน เคาน์ตี เมื่อเดือนพฤศจิกายน  2014 โดยบอกว่า “เหยื่อ” ข่มขืน คือเด็กหญิงวัยเพียงห้าขวบ เป็นลูกสาวของ “เพื่อนหญิง” ของเขา

ข่าวบอกด้วยว่า แจ็คสัน แมทธิว ฮอลล์ ได้รับการประกันตัวออกมา และในเดือนเมษายน 2015 เขาก็ถูกอัยการของ มอร์เก้น เคาน์ตี ตั้งข้อหาอาญาสถานเบาข้อหาอนาจาร (อวดอวัยวะเพศให้พนักงานส่งของหญิง) และในเดือนมิถุนายน ปีเดียวกัน เขาถูกอัยการของ เมดิสัน เคาน์ตี้ ตั้งข้อหาอาญาร้ายแรง ฐานทำร้ายร่างกายเด็ก (Child Abuse) โดยการลงมือทุบตีอย่างแรง

ซึ่งระหว่างการจับกุมครั้งสุดท้ายนี้ เจ้าหน้าที่เชอรีฟของ คัลล์แมน เคาน์ตี ต้องใช้เวลาเกลี่ยกล่อม แจ็คสัน แมทธิว ฮอลล์ อยู่นาน เพราะเขาเปิดประตูบ้านพร้อมกับปืนในมือ แต่สุดท้ายก็ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวโดยไม่มีเหตุร้ายแรงใดๆ

อย่างไรก็ตาม ข่าวจากสื่อมวลชนท้องถิ่นในรัฐอลาบาม่าทุกฉบับที่นำเสนอข่าวนี้ บอกเหมือนกันว่าไม่มีข้อมูลหลังจากการจับกุมตัวครั้งสุดท้าย ว่าทำไมจึงได้รับอนุญาตให้ประกันตัว หรือได้รับการประกันตัวออกมาเมื่อไหร่ โดยผู้ช่วยอัยการของคัลล์แมน เคาน์ตี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า แจ็คสัน แมทธิว ฮอลล์ ได้แกล้งทำเป็นเสียชีวิต (faked death) เพื่อหลบหนีข้อหา แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดอื่นใดมากกว่านี้.