อเมริกาและแคลิฟอร์เนีย
90%ของ “ปลาน้ำจืด” ในแคลิฟอร์เนีย มีพยาธิยั้วเยี้ย

แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างปลาน้ำจืดจากแหล่งน้ำในแคลิฟอร์เนียใต้ มี “พยาธิ” ที่อาจเป็นอันตรายกับมนุษย์ หากนำมาบริโภคผิดวิธี

ผลวิจัยของสถาบันสมุทรศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตซานดิเอโก้ (UC San Diego) ตีพิมพ์ในวารสารโรคติดเชื้อ (the Journal of Infectious Diseases) เดือนมิถุนายน 2025 บอกว่ามีการตรวจพบพยาธิใบไม้ (trematodes) สองสายพันธุ์ในกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างปลาน้ำจืด ที่จับได้จากแหล่งน้ำในแคลิฟอร์เนียใต้

โดยพยาธิตัวแบนชนิดนี้ หากเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย น้ำหนักลด และอ่อนเพลีย นอกจากนี้ ในบางกรณี พยาธิชนิดนี้อาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือหัวใจวายได้

ไรอัน แฮชชิงเกอร์ หัวหน้าทีมวิจัยฯ ระบุว่าโดยปกติแล้ว ชาวอเมริกันจะไม่คิดถึงพยาธิเวลากินปลาน้ำจืด เพราะไม่เคยมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน อีกทั้งเมื่อมีการพบผู้ป่วยจากพยาธิชนิดนี้ในอเมริกา เกือบทั้งหมดเป็นผู้ป่วยที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ

ผลวิจัยชี้ด้วยว่า พยาธิใบไม้ที่พบในปลาน้ำจืดในแคลิฟอร์เนียทั้งสองสายพันธุ์ คือ Haplorchis pumilio และ Centrocestus formosanus นั้น เคยก่อปัญหาให้กับประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในภูมิภาคที่ประชาชนนิยมกินปลาและสัตว์น้ำจืดแบบดิบๆ หรือกระทั่งผักสดที่ไม่ผ่านการล้างทำความสะอาดให้ดี ก็สามารถเป็นพาหนะของตัวอ่อนพยาธิชนิดนี้ได้

หัวหน้าทีมวิจัยเชื่อว่า พยาธิใบไม้กระจายเข้ามาในอเมริกากับหอยเจดีย์ (red-rimmed melania หรือ Malaysian trumpet snail) ซึ่งเป็นพาหะของพยาธิได้หลายชนิด โดยถูกนำเข้ามาในฐานะหอยสำหรับเลี้ยงในตู้ปลา ก่อนจะพบหอยน้ำจืดชนิดนี้ในแหล่งน้ำของ ริเวอร์ไซด์ เคาน์ตี้ ครั้งแรกเมื่อปี 1972 และปัจจุบันนี้ พบหอยชนิดนี้ในแหล่งน้ำทุกประเภท ตั้งแต่คูคลอง ลำธาร แม่น้ำ อ่างเก็บน้ำจนถึงทะเลสาบ ในแทบทุกเคาน์ตี้ของแคลิฟอร์เนีย 

ไรอัน แฮชชิงเกอร์ หัวหน้าทีมวิจัยฯ บอกว่าได้เริ่มตรวจตัวอย่างปลาน้ำจืด รวมถึงปลาที่นิยมรับประทาน เช่น largemouth bass และ bluegill ฯลฯ จากแหล่งตกปลาที่ได้รับความนิยมห้าแห่งของซานดิเอโก้ เคาน์ตี้ คือ Miramar, Murray, Lower Otay, San Vicente reservoirs และ Chollas Lake ตั้งแต่ปี 2023 และพบพยาธิใบไม้ถึง 93 เปอร์เซ็นต์ของปลาที่จับได้ โดยปลาบางตัว นักวิจัยพบว่ามีพยาธินับพันตัว

โดยพยาธิใบไม้สายพันธ์แรกนั้น พบในแหล่งน้ำทั้งห้าแห่ง ส่วนชนิดที่สอง (C. formosanus) พบในแหล่งน้ำสองแห่ง โดยพบในตัวอย่างปลาที่จับได้ถึง 91 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ดี พบพยาธิทั้งสองสายพันธ์เฉพาะที่ฐานของครีบและในเหงือก เพราะพยาธิไม่สามารถเจาะเข้าไปในกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) ของปลาได้ ดังนั้น หากปรุงเนื้อปลาให้สุกทั่วถึง ก็ถือว่าปลอดภัยจากพยาธิใบไม้ได้

แต่หากเป็นการกินเนื้อปลาดิบๆ ข้อมูลของสำนักงานอาหารและยา หรือเอฟดีเอ บอกว่าให้นำเนื้อปลาไปแช่แข็งเสียก่อน เพราะความเย็นระดับจุดเยือกแข็ง ทำให้พยาธิตาย 

กระนั้นก็ดี ความเย็นจัดไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคอันตรายได้ทุกชนิด ดังนั้นการปรุงให้สุกจึงเป็นวิธีรับประทานเนื้อปลา โดยเฉพาะปลาน้ำจืดที่สำนักงานอาหารและยา แนะนำ

นอกจากนี้ รายงานผลวิจัยของยูซี ซานดิเอโก้ ยังบอกด้วยว่า ชาวอเมริกันยังมีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีบริโภคปลาน้ำจืด ที่จับจากแหล่งน้ำธรรมชาติน้อยมาก 

“ส่วนหนึ่งของการศึกษา คือนักวิจัยได้สำรวจวิดีโอบนยูทูป เกี่ยวกับการตกปลาน้ำจืด 125 วิดีโอ รวมยอดวิวมากกว่า 5 ล้านครั้ง พบว่า 65 เปอร์เซ็นต์ของวิดีโอเปล่านี้ ไม่พูดถึงวิธีที่ถูกต้องในการปรุงเนื้อปลาที่ตกขึ้นมาได้ หรือพูดถึงการนำเนื้อปลาไปแช่แข็ง ก่อนนำมารับประทานดิบๆ เลย” ผลวิจัยระบุ.





 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
631
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข