วันที่ 1 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ นโยบายใหม่ของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ ชื่อ Pre-Arraignment Release Protocols จะมีผลบังคับใช้ถาวร ตามคำสั่ง (ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม) ของศาลซูพีเรีย โดยนโยบายที่รู้จักกันในชื่อ zero bail (ไม่มีการวางเงินประกันตัว) ฉบับนี้ กำหนดให้เจ้าหน้าที่พิจารณาปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมจาก “ความเสี่ยง” ของสาธารณะชนหรือเหยื่อ มากกว่าความสามารถในการจ่ายเงินประกันตัวของผู้ถูกจับกุม ซึ่งจะมีผลให้ผู้ต้องหาในคดีเล็กๆ หรือคดีที่ไม่มีการใช้ความรุนแรง ได้รับการปล่อยตัว ณ สถานที่ถูกจับกุม หลังจากรับทราบข้อหาและกำหนดขึ้นศาล โดยไม่ต้องมีการประกันตัวใดๆ

ส่วนผู้ถูกจับกุมในคดีที่ “ซีเรียส” ขึ้นมาอีกระดับนั้น นโยบายนี้ระบุว่าจะให้อยู่ในดุลพินิจของผู้พิพากษา (magistrate) ที่จะหาข้อตกลงเกี่ยวกับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้เงิน ที่เหมาะสมกับผู้ต้องหาแต่ละราย

โดยนโยบายที่เรียกว่า book and release (แจ้งข้อหาแล้วปล่อย) นี้ ผู้พิพากษา ซาแมนต้า แจสส์เนอร์ บอกว่าเป็นการป้องกันการเลือกปฏิบัติกับคนจน “เพราะความสามารถในการจ่ายเงินประกันก้อนโต ไม่ควรนำมาใช้เป็นหลักพิจารณาว่าบุคคล ซึ่งยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ (presumed innocent) ควรติดคุกเพื่อรอการพิจารณาคดี หรือได้รับการปล่อยตัว”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไมเคิล มัวร์ หัวหน้าสำนักงานของเมืองลอส แอนเจลิส (แอลเอพีดี) ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ 26 กันยายน 2023 ว่านโยบาย “ไม่มีการประตัว” หรือ zero bail ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการต่อสู้กับอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกลดทอนลง และทำให้สาธารณะชนตกอยู่ในอันตราย

“ผู้บังคับใช้กฎหมายไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ระบุไว้ในนโยบายแจ้งข้อหาผู้ทำผิดกฎหมาย แล้วปล่อยตัวไป เพราะนั้นแทบไม่ได้ทำให้เกิดความยับยั้งชั่งใจกับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีอาชญากรรมร้ายแรงหลายๆ แบบเลย”

หัวหน้าตำรวจแอลเอ บอกด้วยว่าทางสำนักงานฯ ได้ขอร้องต่อศาลว่าอย่าบังคับให้ปล่อยผู้ต้องหาที่ทำให้สังคมอยู่ในความเสี่ยง รวมถึงกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

โดยปัญหาอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงคดีลักขโมยในร้านค้าปลีก ทุบร้านค้าแล้วบุกเข้าไปขโมย ขโมยเครื่องกรองไอเสียใต้รถยนต์ หรือการยกพวกเข้าไปขโมยสินค้าในร้านแบรนด์เนม ฯลฯ นั้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเป็นผลมาจากระบบแจ้งข้อหาแล้วปล่อย เพราะคนร้ายจะได้รับการปล่อยตัวทันที หากไม่มีการทำร้ายร่างกาย หรือใช้อาวุธร้ายแรงต่างๆ เข้าร่วม และผู้ต้องหาเหล่านี้มักจะไม่ไปปรากฎตัวในศาลตามนัดหมาย เป็นเหตุให้ต้องมีการออกหมายจับ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแอลเอพีดี ซึ่งมีกำลังจำกัด ต้องออกตามจับบุคคลตามหมายจับ ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณมากมายมหาศาล จนมีผลกระทบกับการทำงานรักษาความสงบเรียบร้อยอื่นๆ.