ผู้โดยสารรถไฟใต้ดิน (Subway) ในลอส แอนเจลิส และฮอลลีวูด กำลังจะได้ใช้บริการตู้รถไฟใหม่ในเร็วๆ นี้ หลังจากที่เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท แอลเอเมโทร ได้รับตู้รถไฟใต้ดินใหม่จำนวน 64 ตู้ ที่สั่งทำจากประเทศจีนตั้งแต่ปี 2016 เพื่อทดแทนตู้เก่าในเส้นทาง บี ไลน์ (สายสีแดง) และดีไลน์ (สีม่วง) โดยแอลเอ เมโทร แถลงว่าจะสามารถเปลี่ยนตู้รถไฟใต้ดินใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 6-8 เดือนนับจากนี้

ตู้โดยสารรถไฟใต้ดินรุ่นใหม่ เรียกว่า HR4000 cars ทำจากสเตนเลส สตีล ยาว 75 ฟุต กว้าง 10.2 ฟุต และสูง 12.3 ฟุต แต่ละตู้มี 41 ที่นั่ง โดยที่นั่งด้านหนึ่งจะหันข้าง (side-facing seating) แทนที่จะหันไปด้านหน้ารถทั้งหมดเหมือนรถรุ่นเก่า เพื่อให้มีที่สำหรับยืนมากขึ้น จึงสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุด 246 คน

นอกจากนี้ แต่ละตู้จะมีทางเดินเชื่อมต่อกัน เพื่อให้ผู้โดยสารเดินเลือกที่นั่งระหว่างตู้รถได้อย่างสะดวก  ซึ่งข่าวบอกว่าทั้งผังที่นั่งและทางเดินเชื่อมระหว่างตู้รถดังกล่าวนี้ เป็นระบบที่ใช้อย่างแพร่หลายในเมืองที่การขนส่งสาธารณะได้รับความนิยมอย่างสูง เช่นนิวยอร์ก และลอนดอน เป็นต้น

นอกจากนี้ ในแต่ละตู้ จะมี ยูเอสบี พอร์ท (สำหรับชาร์จโทรศัพท์และแล็ปท็อป) จำนวน 12 พอร์ทเพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้โดยสารด้วย

ข่าวบอกว่าการปรับปรุงรถไฟใต้ดินของแอลเอเมโทร ครั้งนี้ สอดคล้องกับการที่ลอส แอนเจลิส จะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ในปี 2028 หรืออีกห้าปีข้างหน้า ซึ่งบริการรถไฟใต้ดินจะต้องรับหน้าที่ขนส่งมวลชนจำนวนมหาศาล

นอกจากนี้ การที่ผู้โดยสารสามารถเดินข้ามตู้โดยสาร  ซึ่งจะมี 6 ตู้ต่อขบวน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดประตูฉุกเฉิน (emergency doors) เหมือนปัจจุบันนี้ นอกจากจะทำให้ผู้โดยสารสามารถเลือกที่นั่งที่ดีที่สุดได้แล้ว ยังสามารถสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้มีมากขึ้น เพราะผู้โดยสารสามารถหลบเลี่ยงผู้โดยสารที่น่ารำคาญ หรือเหตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจต่างๆ ได้อย่างสะดวกมากขึ้น

ทั้งนี้ ตู้รถไฟใต้ดินสาย บี และ ดี ที่ใช้ในปัจจุบันนั้น มีอายุระหว่าง 20-30 ปี จึงอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรม อีกทั้งเป็นรถที่ใช้เทคโนโลยีของยุค 70s-90s ดังนั้นการหาอะไหล่มาทดแทนจึงทำได้ยาก และใช้เวลานานมาก.