สำนักงานสาธารณสุขของแอลเอ เคาน์ตี แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2022 ว่าตัวเลขการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ลดต่ำลงจนเหลือเพียง 89 รายต่อประชากร 100,000 คน (ตัวเลขวันที่ 22 กันยายน) ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ หรือ low ตามมาตรฐานของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ทำให้ทางสำนักงานได้ประกาศยกเลิกคำสั่งบังคับใส่หน้ากากอนามัยขณะใช้บริกาขนส่งมวลชน และอยู่ในสถานีขนส่ง โดยให้มีผลในทันที
ข่าวบอกว่า ลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ เป็นเคาน์ตี้สุดท้ายของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ประกาศยกเลิกมาตรการบังคับใส่หน้ากากขณะใช้บริการขนส่งมวลชน โดยก่อนหน้านี้ สำนักงานสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์ ก็ได้ประกาศยกเลิกมาตรการนี้เช่นกัน โดยมีผลในวันศุกร์ที่ 23 กันยายนเช่นกัน
โดยการยกเลิกคำสั่งบังคับใส่หน้ากากอนามัยของรัฐแคลิฟอร์เนียนั้น รวมถึงสถานกักกันประเภทต่างๆ, ที่พักคนไร้บ้านและบ้านพักฉุกเฉินประเภทต่างๆ รวมถึงศูนย์หลบร้อน (cooling centers) ด้วย
โดยสำนักงานสาธารณสุขของแอลเอ เคาน์ตี้ บอกด้วยว่า ถึงจะไม่บังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยขณะใช้บริการขนส่งมวลชนแล้ว แต่ทางสำนักงานฯ ก็ยังคง “แนะนำอย่างจริงจัง” ให้ใส่หน้ากากอนามัยต่อไป รวมถึงบอกว่าอาจจะกลับมาบังคับใช้มาตรการนี้อีกครั้งหากตัวเลขผู้ติดเชื้อขยับสูงกว่า 100 รายต่อประชากร 100,000 คน
ในส่วนของการใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ภายในอาคาร หรือในบริเวณที่มีคนพลุกพล่าน ที่สำนักงานสาธารณสุขของ แอลเอ เคาน์ตี้ เคย “แนะนำอย่างจริงจัง” นั้น ล่าสุด ทางสำนักงานฯ ได้ประกาศยกเลิกเช่นกัน โดยบอกให้อยู่ดุลพินิจของแต่ละคน (individual preference)
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้นับจากวันศุกร์ที่ 23 กันยายน การใส่หน้ากากอนามัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังจำเป็นเฉพาะขณะอยู่ในโรงพยาบาลหรือหน่วยงานการแพทย์และสาธารณสุขต่างๆ, ศูนย์ฟื้นฟูหรือดูแลผู้ป่วยระยะยาว และที่พักคนชรา เท่านั้น
โดยเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 22 กันยายนนั้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 1,666 ราย ทำให้ตัวเลขสะสมทั้งหมดของแอลเอ อยู่ที่ 3,444,630 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อีก 12 ราย ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมทั้งหมดอยู่ที่ 33,519 ราย
ส่วนจำนวนผู้ป่วย (ที่มีเชื้อโควิด-19) ในโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วแอลเอ เคาน์ตี้ ณ วันพฤหัสฯ ที่ 22 กันยายน ลดลงเหลือ 551 ราย (จาก 573 รายเมื่อวันพุธที่ 21 กันยายน) เป็นผู้ป่วยไอซียู 77 คน (ลดลงจาก 83 คนเมื่อวันพุธ) โดย 43 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยเหล่านี้ เข้ารับการรักษาเพราะอาการป่วยจากโควิด-19 ส่วนที่เหลือคือผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยสาเหตุอื่น และพบว่ามีเชื้อโควิด-19 ในภายหลัง.