แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : กลุ่มผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงอันตรายต่อโควิด-19 แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม รวมถึงกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว เช่นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต, โรคอ้วน ฯลฯ สามารถขอฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ได้แล้ว
สัปดาห์ที่ผ่านมา นางชัญชนิฐ มาร์เทอเรล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ได้แจ้งมายังสยามทาวน์ยูเอส ถึงการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ไทยทาวน์ (บริเวณหน้าสถานีรถไฟใต้ดิน มุมถนนฮอลลีวูดและเวสเทิร์น) ทุกวันจันทร์ และวันพฤหัสฯ ระหว่างเวลา 13.00-19.00 น. โดยจะมีวัคซีนให้บริการทั้งสามชนิด คือวัคซีนของไฟเซอร์, โมเดอร์น่า และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อันเป็นบริการที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และผู้ประสงค์จะใช้บริการ สามารถเดินเข้าไปใช้บริการโดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้า
นอกจากจะให้บริการสำหรับผู้ประสงค์จะรับการฉีดวัคซีนตามปกติแล้ว ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางศูนย์ฯ ยังให้บริการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (immunocompromised) ด้วย
“ตอนนี้ทางซีดีซี (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค) แนะนำให้คนที่มีระบบภูมิคุ้มกันบอกพร่องมาฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ทั้งของไฟเซอร์ และของโมเดอร์น่า เรียกว่าเป็น 3rd shots เพราะเขาศึกษามาแล้วว่า คนที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ร่างกายจะไม่มีการสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเพียงพอหลังจากได้รับการฉีดเพียงสองโดส” นางชัญชนิฐ มาร์เทอเรล กล่าว
โดยการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 สำหรับผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องนั้น ซีดีซีแนะนำเฉพาะผู้ที่ได้รับวัคซีนสองโดสแรกของไฟเซอร์ และโมเดอร์น่าเท่านั้น แต่ไม่มีการแนะนำให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพียงโดสเดียวของจอห์นสันฯ เข้ารับการฉีดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
โดยซีดีซี ได้ระบุว่า ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้แก่ผู้ที่ป่วยโรคมะเร็ง, ผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะและต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน, ผ่านการเปลี่ยนสเต็มเซลล์ (stem cell transplant) ภายในเวลา 2 ปี หรือยังต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน, ผู้ป่วยด้วยโรคภูมิคุ้มกันระดับปานกลางและระดับร้ายแรง (เช่น DiGeorge syndrome, Wiskott-Aldrich syndrome), ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ที่ใช้ยา corticosteroids หรือยาอื่นๆ ที่มีฤทธิในการกดภูมิคุ้มกันในร่างกาย
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่มีผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคปอดและระบบทางเดินหายใจ โรคตับ และโรคอ้วน แม้จะไม่ได้ระบุเอาไว้ในคำแนะนำของ ซีดีซี แต่คุณชัญชนิฐ มาร์เทอเรล ให้ข้อมูลว่าสามารถขอรับการฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ได้เช่นกัน เพียงแต่จะต้องมีหนังสือรับรองตัวเอง (self-attestation form) ของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ มาด้วยเท่านั้น
“ถ้าไม่มีใบรับรองแพทย์นะคะ ก็สามารถเซ็นชื่อในใบรับรองที่ทางเคาน์ตี้ทำขึ้นได้เลย ถ้ามีใบรับรองนี้ ไปฉีดที่ไหนก็ได้ในแอลเอ เคาน์ตี้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจะปฏิเสธได้ค่ะ” ผ.อ.ศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ระบุ
ทั้งนี้ แบบฟอร์มรับรองตัวเอง หรือ self-attestation form ของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ มีการจัดทำขึ้นทั้งภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ อีกหลายภาษา (แต่ยังไม่มีภาษาไทย) สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ http://publichealth.lacounty.gov/acd/ncorona2019/vaccine/hcwsignup/ (คลิกที่ Dose for Immunocompromised ที่เมนูทางซ้ายมือ) และสามารถตรวจสอบรายชื่อศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอลเอ เคาน์ตี้ ได้จากเว็บไซต์แห่งนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ นางชัญชนิฐ มาร์เรอเรล ยังเปิดเผยด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน เป็นต้นไป ประชาชนทุกคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์โดสที่ 2 มาครบ 8 เดือน สามารถรับการฉีดโดสที่ 3 ซึ่งเรียกว่า “บูสเตอร์ ช็อต” ได้ แต่สำหรับผู้ฉีดวัคซีนของโมเดอร์น่า นั้น ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (เอฟดีเอ) จะอนุมัติให้มีการฉีดบูสเตอร์ช็อต เมื่อใด
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงนัดหมายการฉีดวัคซีนล่วงหน้ากับทางศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ได้ที่ cares@thaicdc.org, ada@thaicdc.org หรือโทรศัพท์หมายเลข 323-468-2555.