แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองแอลเอ เตรียมรับค่าแรงเพิ่มชั่วโมงละ 5 ดอลลาร์ ต่อเนื่องกันสี่เดือน หลังสภาเมืองผ่านเทศบัญญัติ “ฮีโร่เพย์” เชื่อมีผลบังคับใช้อีกไม่เกินสองสัปดาห์
ลอส แอนเจลิส ผ่านเทศบัญญัติ “ฮีโร่เพย์” บังคับตลาดใหญ่ๆ จ่ายค่าแรงพนักงานเพิ่ม ช.ม.ละ 5 ดอลลาร์ในช่วงวิกฤตโควิด-19 หลังจากที่หลายๆ เมืองเช่นซีแอตเติล, โอ๊กแลนด์, ซานโฮเซ่ และลองบีช รมถึง แอลเอ เคาน์ตี้ ได้ผ่านกฎหมายและมีผลบังคับใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว
โดยแอลเอไทมส์ รายงานข่าวว่า สภาเมืองแอลเอ ลงมติเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 14 ต่อ 1 กับเทศบัญญัติที่มีผลให้ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ (larger grocery stores) และร้านขายยา (drugstores) ต้องจ่ายค่าแรงให้คนงานเพิ่มขึ้นอีกชั่วโมงละ 5 ดอลลาร์ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 120 วัน
สภาเมืองแอลเอ ให้เหตุผลของการผ่านญัตติเรื่องนี้ว่า เป็นเพราะพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายยาขนาดใหญ่ มีความเสี่ยงสูงกับการทำงานในช่วงวิกฤตโควิด-19 และสมควรได้รับเงินชดเชยความเสี่ยงดังกล่าว
ทั้งนี หลังจากร่างเทศบัญญัติฮีโร่เพย์ผ่านความเห็นชอบของสภาเมืองแอลเอ แล้ว ฝ่ายกฎหมายของสภาเมืองฯ จะต้องร่างเทศบัญญัติฉบับสมบูรณ์ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาเมืองฯ อีกครั้งในสัปดาห์หน้า หากผ่านความเห็นชอบอีกครั้ง และได้รับการลงนามโดยนายกเทศมนตรี ก็จะมีผลบังคับใช้โดยทันที
แอลเอไทมส์ อ้างรายงานของสถาบันบรูคกิ้ง (the Brookings Institution) ที่ระบุว่าผลประกอบการของซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ไม่มีผลกระทบในช่วงเกิดโรคระบาด นอกจากนี้ ผลกำไรของเชนซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่สามแห่ง คือ วอลมาร์ท, โครเกอร์ และอัลเบิร์ทสัน เพิ่มขึ้นรวมกันถึง 6.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 เปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปี 2019 เท่ากับเพิ่มขึ้น 98 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี ผลการวิเคราะห์ของเทศบาลเมืองแอลเอ เอง กลับพบว่าธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตมีผลประกอบการดีขึ้นในช่วงแรกๆ ที่เกิดวิกฤตโควิด-19 เท่านั้น เพราะเมื่อผู้บริโภคหายตื่นตระหนกก็เลิกกักตุนสินค้า อีกทั้งมีการจับจ่ายน้อยลง เพราะสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มฝืดเคือง นอกจากนี้ ผลวิเคราะห์ของเทศบาลเมืองแอลเอ ยังบอกด้วยว่าธุรกิจร้านของชำ เป็นธุรกิจที่มีผลกำไรน้อย และเตือนว่าหากเทศบาลบังคับให้ธุรกิจต้องรับภาระมากไป ก็อาจจะทำให้เกิดการปิดร้านและเลย์ออฟ ลูกจ้างตามมา
เช่นเดียวกับสมาคมผู้ประกอบการร้านของชำแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (The California Grocers Assn.) ที่ได้เคลื่อนไหวคัดค้านคำสั่งและเทศบัญญัต “ฮีโร่เพย์” ของซิตี้ และเคาน์ตี้ ทั่วแคลิฟอร์เนีย รวมถึงได้ยื่นฟ้องศาลให้ระงับกฎหมายฉบับนี้ในแทบทุกแห่งที่มีการประกาศใช้ โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้ผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากเกินกว่าจะรับได้ และหากบังคับใช้จริงๆ ก็จะมีผลให้ซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งต้องปิดกิจการ ซึ่งจะมีผลกระทบกับพนักงาน และผู้บริโภคอย่างรุนแรง
ข่าวบอกด้วยว่า ซูเปอร์มาร์เก็ต โครเกอร์ (Kroger) ในลองบีช มีแผนจะปิดซูเปอร์มาร์เก็ตถึงสองสาขา หลังจากที่เทศบาลเมืองลองบีช ผ่านเทศบัญญัติฮีโร่เพย์ ให้จ่ายค่าแรงพนักงานเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 4 ดอลลาร์ เมื่อเดือนที่ผ่านมา.