เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม บีบีซี รายงานข่าวว่า ทำเนียบขาวส่งจดหมายอย่างเป็นทางการ ถึงผู้นำพรรคเดโมแครต เพื่อปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในการไต่สวนตามกระบวนการถอดถอน (อิมพีชเมนต์) โดนัลด์ ทรัมป์ พ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยชี้ว่า ‘ไร้หลักฐาน’ และ ‘ไม่มีผลบังคับตามรัฐธรรมนูญ’
ข่าวบอกว่าจดหมายความยาว 8 หน้ากระดาษ ลงนามโดยนายแพต ซิโปลโลนี ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ส่งถึงนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะกรรมการของพรรคเดโมแครตอีก 3 คน ระบุด้วยว่า กระบวนการเริ่มต้นไต่สวนในการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์พ้นตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ไม่ได้ผ่านการลงมติโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของประเทศชาติ ซึ่งจะทำให้การไต่สวนอิมพีชเมนต์ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่มีผลบังคับตามรัฐธรรมนูญ
ทำเนียบขาวชี้ว่า การไต่สวนอิมพีชเมนต์อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ 3 คนก่อน คือ แอนดรูว์ จอห์นสัน, ริชาร์ด นิกสัน และบิล คลินตัน ล้วนแต่ผ่านการโหวต ลงมติโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น ซึ่งสมควรที่จะต้องปฏิบัติต่อการเริ่มการไต่สวนอิมพีชเมนต์ประธานาธิบดีทรัมป์เช่นกัน
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำโดยพรรคเดโมแครต กำลังสอบสวนในข้อกล่าวหาของทรัมป์ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ กดดันให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ช่วยสอบสวนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวเต็งของพรรคเดโมแครตในการชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยหน้า หลังจากมีผู้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ต่อมาในวันเดียวกัน รอยเตอร์ รายงานข่าวว่า โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตันแทนพรรคเดโมแครตลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องเป็นครั้งแรกให้ถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุทรัมป์ทรยศชาติและละเมิดสัตย์ปฏิญานตนตอนที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
"เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญของเรา, ประชาธิปไตยของเราและคุณธรรมพื้นฐานของเรา เขาควรถูกถอดถอน" อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯบอกกับผู้สนับสนุน ณ เวทีหาเสียงที่นิวแฮมป์เชียร์ หลังจากถูกทรัมป์กล่าวหาซ้ำๆโดยปราศจากหลักฐานว่าคอรัปชัน "เขายิงใส่รัฐธรรมนูญจนเป็นรูพรุน และเราไม่อาจปล่อยให้เขาลอยนวลไปได้" ไบเดนระบุ
ทั้งนี้ ไบเดน เป็นตัวเต็งที่กำลังต่อสู้อย่างสูสีกับวุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน ในการเบียดแย่งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 กับ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน
ความคิดเห็นดังกล่าวถือเป็นท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นของไบเดน เนื่องจากที่ผ่านๆมา แม้มีการเปิดโปงว่า ทรัมป์ ได้ร้องขอโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ขุดคุ้ยข้อมูลที่อาจให้ร้ายเขาและลูกชาย แต่สมาชิกระดับอาวุโสของเดโมแครตรายนี้กลับดูอดทนอดกลั้นมากกว่าผู้สมัครชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวคนอื่นๆด้วยซ้ำ
ท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นของไบเดน มีขึ้นหลังจากทำเนียบขาวประกาศว่าจะไม่ให้ความร่วมมือกับกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ที่นำโดยเหล่าแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว "เขาเชื่อว่าทั่วทั้งรัฐบาลสหรัฐฯสามารถทุจริตได้เพื่อความต้องการทางการเมืองส่วนตัวของเขา" ไบเดนกล่าว
"เขายังถึงขั้นตั้งใจครอบงำสภาคองเกรส ใช้เงินช่วยเหลือต่างชาติเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับความต้องการทางการเมืองส่วนตัว" เขากล่าว อ้างถึงคำกล่าวหาที่ว่า ทรัมป์ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ขู่ระงับการช่วยเหลือด้านการทหารกับยูเครนระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับ เซเลนสกี ถ้าไม่ทำตามคำร้องขอที่ขอให้สืบสวนพ่อลูกไบเดน.