สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้มอบหมายให้ทนายส่วนตัวยื่นฟ้องรัฐแคลิฟอร์เนียว กรณีออกกฎหมายบังคับให้ผู้สมัครประธานาธิบดีที่จะลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งไพรแมรี ต้องเปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีย้อนหลัง 5 ปี
เอกสารคำฟ้องที่ทนาย ทรัมป์ ยื่นต่อศาลส่วนกลางในเมืองซาคราเมนโตระบุว่า กฎหมายใหม่ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “ขัดต่อรัฐธรรมนูญ” เพราะเป็นการตั้งกฎเกณฑ์ใหม่ที่ผิดกฎหมายว่าด้วยสิทธิ์ของบุคคลในการลงสมัครประธานาธิบดี
คำฟ้องยังระบุด้วยว่า ผู้ออกกฎหมายนี้มีเจตนากลั่นแกล้งทรัมป์ เนื่องจากไม่พอใจแนวคิดทางการเมืองของเขา ซึ่งถือเป็นการละเมิดบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมฉบับที่ 1 (First Amendment) ที่รับรองสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของพลเมือง
ก่อนหน้านี้ องค์กรด้านกฎหมายสายอนุรักษนิยม Judicial Watch ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก็ได้เป็นตัวแทนผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 4 คนของรัฐแคลิฟอร์เนียยื่นคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่พรรครีพับลิกันก็ได้ยื่นฟ้องเช่นกัน
กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ผู้สมัครประธานาธิบดีทุกคนต้องเปิดเผยข้อมูลการยื่นเสียภาษีย้อนหลัง 5 ปี จึงจะมีชื่ออยู่ในบัตรเลือกตั้งของรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งมีประชากรหนาแน่นที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติของรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งพรรคเดโมแครตกุมเสียงส่วนใหญ่ และถูกส่งให้ เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ลงนามประกาศใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทรัมป์ ปฏิเสธที่จะเผยข้อมูลการเสียภาษีย้อนหลังตั้งแต่ตอนที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ซึ่งเป็นการแหวกธรรมเนียมที่ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถือปฏิบัติกันมาหลายสิบปี
เดือนที่แล้ว คณะกรรมาธิการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Committee on Ways and Means) ได้ยื่นฟ้องกระทรวงการคลังเพื่อบังคับให้ส่งมอบข้อมูลการเสียภาษีของ ทรัมป์
พรรคเดโมแครตต้องการให้ ทรัมป์ เปิดเผยข้อมูลการเสียภาษี เพื่อตรวจสอบว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการเป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจควบคู่กับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหรือไม่.