เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2019 ที่ผ่านมา ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประกาศใน US Federal Register หรือบันทึกของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อรับรองว่าประเทศไทยได้คืนสู่ระบอบการปกครองประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่งแล้ว
โดยประกาศซึ่งลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไมค์ ปอมเปโอ ระบุสั้นๆ แต่เพียงว่า “ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ผลจากการยกเลิกความช่วยเหลือต่อรัฐบาลของประเทศไทย รัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง ได้เข้าบริหารประเทศแล้ว”
โดยคำรับรองที่ประกาศในเฟดเดอรัล รีจีสเตอร์ ซึ่งถือเป็นประกาศอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐฯ ฉบับดังกล่าวนี้ มีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม ศกนี้
เว็บไซต์ Coconuts Bangkok ระบุว่า การประกาศรับรองอย่างเป็นทางการดังกล่าว ถือว่าเป็นไปตามกฎหมายของสหรัฐฯ ก่อนที่สหรัฐฯ จะสานต่อสัมพันธ์ทางการทูตและการทหารแบบสมบูรณ์แบบกับประเทศไทยอีกครั้ง และว่าท่าทีของสหรัฐฯ ครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของหลายฝ่าย ทั้งในประทรวงการต่างประเทศ กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน และผู้เชี่ยวชาญนโยบายต่างประเทศ โดยกลุ่มคนเหล่านี้เห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ที่จะรับรองการเลือกตั้งของไทย ซึ่งกฎเกณฑ์ต่างๆ ถูกเบี่ยงเบนเพื่อประโยชน์ของอดีตหัวหน้า คสช.
นอกจากนี้ ข่าวยังชี้ด้วยว่า ในเวลาเดียวกันกับที่คำประกาศรับรองของ ไมค์ ปอมเปเป ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ กองทัพสหรัฐฯ ก็ได้ประกาศว่าประเทศไทยตกลงท่ีจะซื้อรถหุ้มเกราะ 60 คัน มูลค่า 175 ล้านดอลลาร์ หรือ 5.4 พันล้านบาท
อนึ่ง เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอให้ ไมเคิล จอร์จ เดอซอมเบร นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจระหว่างประเทศ ดำรงตำแห่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ซึ่งเว้นว่างมาเกือบปีหลังจากการพ้นตำแหน่งของ เกลน ที เดวีส์.
โดยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าว บีบีซี่นิวส์ ได้วิเคราะห์ว่าการเยือนประเทศไทยแบบทวิภาคีของ ไมค์ ปอมเปโอ ระหว่างการร่วมประชุมอาเซียนระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคมนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความจำเป็นทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในการกระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองและความมั่นคงเพื่อสร้างดุลยภาพกับจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และว่าสหรัฐฯ มุ่งหวังจะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือได้ทั้งความสัมพันธ์โดยเฉพาะทางการทหารที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นหลังจากที่ปล่อยให้ไทยเข้าใกล้จีนมากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา และเป็นการเพิ่มพูนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในเวลาเดียวกัน
โดยไมค์ ปอมเปโอ มีกำหนดจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อประชุมกับกลุ่มอาเซียนและกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขงตอนล่าง (Lower Mekong Initiative-LMI) กับประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งประกอบด้วยกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนามและไทย นอกจากนี้แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังจะได้หารือทวิภาคีกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย และปาฐกถาเรื่องบทบาททางเศรษฐกิจของอเมริกันในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกด้วย.