ยูดังในซานฟรานฯ หยุดสอนภาษาจีน
แอลเอไทมส์ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2019 ว่า ซานฟรานซิสโก สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ หรือ SFSU ประกาศยุติความร่วมมือ 14 ปีกับสถาบันขงจื้อ (the Confucius Institute) ในการเปิดสอนภาษาจีนให้กับนักศึกษาของสถาบัน เพราะแรงกดดันจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
โดย SFSU เป็นสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ แห่งที่ 13 ที่ประกาศตัดสัมพันธ์กับสถาบันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศจีน
ข่าวบอกว่า ท่าทีของมหาวิทยาลัยดังแห่งนี้ เป็นไปตามกฎหมายชื่อ The National Defense Authorization Act ซึ่งผ่านคองเกรสเมื่อปี 2018 และมีผลบังคับใช้ในปีนี้ โดยกฎหมายฉบับนี้ห้ามไม่ให้รัฐบาลกลาง โดยกระทรวงกลาโหม สนับสนุนโครงการเร่งด่วนของรัฐบาลจีนที่ทุนสนับสนุนการเรียนการสอนภาษาจีนกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในอเมริกา ผ่านสถาบันขงจื้อ โดยกระทรวงกลาโหมได้ออกประกาศเตือนสถาบันการศึกษาต่างๆ ว่า การร่วมงานกับสถาบันขงจื้อ หรือ โปรแกรมสอนภาษาอื่นๆ ที่สนับสนุนโดยรัฐบาลจีน อาจทำให้สถาบันนั้นๆ เสี่ยงต่อการถูกครอบงำ หรือถูกจารกรรมข้อมูลได้ง่าย
ทั้งนี้ สถาบันขงจื้อ หรือ Confucius Institute เป็นองค์กรการศึกษาสาธารณะ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการของประเทศจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมจีนไปทั่วโลก โดยแอลเอไทมส์ บอกด้วยว่าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีสถาบันขงจือที่ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในอเมริกาถึง 105 แห่งก่อนจะลดเหลือประมาณ 90 แห่งในปัจจุบัน และว่านอกจากสหรัฐฯ แล้ว รัฐบาลของประเทศแคนาดา ฝรั่งเศส และสวีเดน ต่างก็มีความพยายามที่จะยุติความร่วมมือกับสถาบันขงจือกับสถาบันการศึกษาของประเทศตนเองเช่นกัน.
|
ลูกค้าประปาแอลเอ อาจได้ “รีฟันด์” รอบสอง
เอบีซี รายงานข่าวเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีโอกาสเป็นไปได้สูง ที่การประปาและไฟฟ้าของนครลอส แอนเจลิส (LADWP) จะต้องจ่ายเงินคืน (fefund) อีกประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมให้ลูกค้าที่ถูกส่งบิลเรียกเก็บสูงเกินจริง อันเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในปี 2013
โดยความผิดพลาดครั้งนั้น ทำให้มีการฟ้องร้องหมู่ (class-action) กับการประปาฯ และเทศบาลนครลอส แอนเจลิส ซึ่งลงเอยโดยการที่การประปาฯ และเทศบาล ตกลงยอมความด้วยการคืนเงิน หรือให้เครดิตผู้เดือดร้อน รวมเป็นเงิน 67 ล้านดอลลาร์
แต่ขณะนี้ ข่าวบอกว่ามีทนายความชุดใหม่เข้ามาดูแลคดี และเห็นว่าข้อตกลงยอมความ ซึ่งร่างโดยสำนักงานอัยการของเทศบาลนั้น จำเป็นต้องนำกลับไปร่างใหม่ โดยกลุ่มทนายความชุดนี้เชื่อว่าความเสียหายที่บรรดาลูกความของพวกตนสมควรได้รับการชดใช้นั้น มีมูลค่ามากกว่าข้อตกลงเดิม “หลายล้าน” รวมถึงต้องมีมาตรการสำหรับป้องกันไม่ให้เกิดเหตุผิดพลาดขึ้นอีกในอนาคตด้วย
ข่าวบอกว่าสาเหตุที่ทำให้คดีนี้ถูกรื้อขึ้นขึ้นมาอีกรอบ เพราะทนายความในทีมของไมค์ ฟิวเออร์ อัยการของนครลอส แอนเจลิส ซึ่งทำคดีให้กับเทศบาลและการประปาฯ มีข้อขัดแย้งกับคดี เพราะทำหน้าที่เป็นทนายความให้กับลูกค้าของการประปาฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในคดีนี้ด้วย
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ บุกเข้าค้นสำนักงานใหญ่ของการประปาฯ และสำนักงานอัยการของเทศบาลเมืองแอลเอ ซึ่งแม้จะไม่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าเป็นผลมาจากการฟ้องร้องและการยอมความที่อาจจะมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น.
|
เปิดตัว “แรดขาวน้อย” ผลพวงจาก”ผสมเทียม”
ซานดิเอโก้ ซู ซาฟารีปาร์ค แถลงข่าวเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2019 ถึงความสำเร็จของการผสมเทียมแรดขาวใต้ (southern white rhino) เป็นครั้งแรกในอเมริกาใต้ โดยลูกแรดขาวตัวแรกที่เกิดจากการผสมเทียม มีน้ำหนัก 125 ปอนด์
โดยขณะนี้ เจ้าแรดน้อย ที่รอการตั้งชื่อ และแม่ “วิคตอเรีย” ซึ่งได้รับการผสมเทียมเมื่อเดือนมีนาคม 2018 อยู่ระหว่างในช่วงพักฟื้นก่อนจะนำออกแสดงต่อสายตาของสาธารณชน
ทางซานดิเอโก้ ซู แถลงว่าความสำเร็จในการผสมเทียมแรดขาวใต้ เป็นก้าวสำคัญในการฟื้นคืนพันธุกรรมให้แก่แรดขาวเหนือ ซึ่งเหลืออยู่โลกเพียง 2 ตัวในสถานอนุรักษ์พันธ์สัตว์ของเคนยา อีกทั้งเป็นตัวเมียทั้งคู่อีกด้วย
แม้ว่าแรดจะเป็นสัตว์ที่มีศัตรูน้อย เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่ แต่ความเชื่อของมนุษย์ว่านอแรดมีสรรพคุณทางยา ทำให้มีการลักลอบล่าแรดอย่างรุนแรงในช่วง 1970s-80s จนแรดในอูกานดา สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ซูดาน และชาด ลดจำนวนลงอย่างมหาศาล และในช่วงปลายยุค 1990s ถึงต้นยุค 2000s ที่เกิดสงครามในคองโก ก็มีผลให้แรดเสียชีวิตกว่า 30 ตัว ก่อนที่จะมีการประกาศว่า แรดขาวเหนือได้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติเมื่อปี 2008.
|