อเมริกาและแคลิฟอร์เนีย
บทความหน้าสาม : รวมวาทะ ’เหยียดผิว’ ของประธานาธิบดีทรัมป์





ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เรียกเสียงครหาว่าเหยียดเชื้อชาติอีกรอบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากกล่าวโจมตี 4 ส.ส.หญิงผิวสีจากพรรคเดโมแครต กับกลุ่มผู้สนับสนุน โดยบอกกับพวกเธอว่า มาจากประเทศไหนก็ให้กลับไปที่นั่น


“กลับไปซ่อมประเทศที่พังทลายอย่างสิ้นเชิงและอาชญากรรมระบาดรุนแรงที่พวกคุณจากมา” ทรัมป์ประกาศ

จากนั้นก็มีข้อความผ่านทางทวิตออกมาอีกสองสามข้อความ เช่น “เป็นเรื่องน่าสนใจที่ได้เห็นกลุ่มคองเกรสวูเม่นหัวก้าวหน้าของเดโมแครต ซึ่งดั้งเดิมแล้วมาจากประเทศที่ระบบการปกครองล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เอาจริงเอาจังกับการบอกพวกเราชาวอเมริกันว่าควรบริหารประเทศอย่างไร”

และรุ่งขึ้น เขาประกาศย้ำที่ทำเนียบขาวว่า เขาไม่ได้เหยียดผิว แต่นักการเมืองหญิงผิวสีที่เขาขับไล่ เป็นพวก “ชังชาติ”

“ถ้าคุณเกลียดประเทศของเรานัก ถ้าอยู่ที่นี่แล้วคุณไม่มีความสุข คุณสามารถออกไปได้เลย” ทรัมป์กล่าว และย้ำว่า “ถ้าคุณไม่มีความสุขในสหรัฐอย่างที่พวกคุณคร่ำครวญมาตลอด ง่ายๆ เลย คุณก็ออกไปสิ คุณสามารถออกไปได้ ตอนนี้เลย ผมไม่แน่ใจว่าจะมีใครคิดถึงพวกเธอไหม”

แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธว่าไม่ใช่คนเหยียดผิว แต่ความพยายามในการแบ่งแยก “คนอเมริกันผิวขาว” ออกมาจากอเมริกันเชื้อสายอื่นๆ ของเขา ก็คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาแล้วเมื่อปี 2016 และคงจะเป็นเครื่องมือสำคัญของการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในปีหน้าด้วย

กลายเป็นว่าเขาเป็นผู้นำคนแรก ที่ปลุกกระแส “เหยียดผิว” ที่เคยเข้มข้นอยู่ในสายเลือดของอเมริกันขาวในยุคทาส ความรู้สึกที่กลายเป็นเรื่องต้องห้ามในปัจจุบัน ให้กลับมา “ลอยตัว” อีกครั้ง

ดังนั้น จะปฏิเสธเช่นไรว่าเขาไม่ได้เหยียดผิว ก็คงจะฟังไม่ขึ้น ในเมื่อพฤติกรรม และวาทะในอดีตผู้นำสหรัฐฯ คนนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้ดี

ดีขนาดที่บางกลุ่มออกมาแสดงความไม่เข้าใจว่า ในเมื่อแสดงออก “ชัดขนาดนี้” แถมได้ใจจากอเมริกันผิวขาว (ใจดำ) มากขนาดนี้.... เขาจะดัดจริตปฏิเสธอีกทำไม

กรุงเทพธุรกิจ ได้รวบรวมเอาวาทะของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่อให้เห็นถึงความคิดเหยียดผิวชังพันธุ์ของเขาตั้งแต่ก่อนจะประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2016 เริ่มจากการออกมาโจมตีภูมิหลังความเป็นอเมริกันผิวดำของประธานาธิบดีบารัก โอบามา แบบต่อเนื่องยาวนาน เพื่อสร้างความแคลงใจให้กับชาวอเมริกันว่าประธานาธิบดีผู้มีถิ่นกำเนิดในรัฐฮาวายรายนี้ ไม่ได้เกิดในสหรัฐฯ

ปี 2011 ทรัมป์กล่าวว่า “จริงๆ แล้วโอบามาเป็นมุสลิม” อีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกเขาว่าร้ายเป็นประจำ

นโยบายสำคัญอันหนึ่งในช่วงหาเสียงคือการปราบปรามคนเข้าเมือง ในการหาเสียงหลายเวทีเขากล่าวกับผู้สนับสนุนว่าผู้อพยพจากเพื่อนบ้านเม็กซิโกเป็น “พวกลักลอบค้ายาเสพติดและนักข่มขืน”

“พวกเขาขนยา ก่ออาชญากรรม ข่มขืน ส่วนบางคนผมว่าน่าจะเป็นคนดี” นี่คือสิ่งที่ทรัมป์พูดตอนหาเสียง และเมื่อได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว เขาก็ปกป้องนโยบายพรมแดนของตนด้วยคำพูดแบบเดียวกัน

“คุณคงไม่เชื่อว่าคนพวกนี้เลวแค่ไหน พวกนี้ไม่ใช่คน เป็นสัตว์”ทรัมป์กล่าวถึงผู้อพยพ

ไม่เพียงเท่านั้น  ทรัมป์ยังโหมกระแสห้ามมุสลิมเข้าประเทศ ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2015 เขาเคยอ้างผิดๆ ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ 9/11 ในนิวยอร์ก ชาวมุสลิมเป็นพันๆคนในนิวเจอร์ซีดีใจกันใหญ่

ระหว่างหาเสียงปี 2016 เขากล่าวหาพ่อแม่ของ ร.อ.ฮูมายัน ข่าน ทหารสหรัฐที่ถูกสังหารในอิรัก หลังถูกพ่อของข่านวิจารณ์

“ถ้าคุณดูภรรยาของเขาที่ยืนอยู่ตรงนั้น เธอไม่พูดอะไรเลย บางทีเธออาจไม่ได้รับอนุญาตให้พูดอะไรเลยก็ได้ คุณก็รู้” ทรัมป์กล่าว

ตอนหาเสียงเขาประกาศว่าจะห้ามมุสลิมทุกคนเข้าประเทศ เมื่อชนะเลือกตั้งเขาก็ห้ามประชาชนจากหลายประเทศมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐ พร้อมลดจำนวนผู้ลี้ภัยโดยเฉพาะจากซีเรีย

ตอนประชุมทำเนียบขาวเป็นการส่วนตัวในเดือนมกราคม 2018 ทรัมป์พูดชัดว่า ชอบผู้อพยพจากประเทศผิวขาวแถบยุโรปตะวันตกมากกว่า

“ทำไมเราต้องรับคนจากประเทศกากๆ เข้ามาอยู่สหรัฐด้วย”ผู้นำสหรัฐตั้งคำถาม หมายถึงประเทศแอฟริกา เฮติ และเอลซัลวาดอร์

 “ทำไมเราต้องรับคนเฮติเพิ่ม ไล่ไปเลย ทำไมเราไม่รับเพิ่มจากประเทศอย่างนอร์เวย์”

เดือนสิวหาคม 2017 กลุ่มนิยมสิทธิพิเศษของคนผิวขาว นีโอนาซี และต่อต้านยิวรวมตัวกันที่เมืองชาร์ลอตส์วิล รัฐเวอร์จิเนีย กลุ่มต้านก็รวมตัวกันด้วย สุดท้ายเกิดเหตุปะทะกัน สมาชิกนีโอนาซีคนหนึ่งจงใจขับรถพุ่งเข้าใส่กลุ่มต้าน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 29 คน

ทรัมป์ถูกวิจารณ์ว่าตอบสนองเหตุการณ์ล่าช้า และยังเลี่ยงที่จะกล่าวโทษพวกชาตินิยมผิวขาว แถลงการณ์ครั้งแรกระบุ

“ขอประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดต่อการแสดงความเกลียดชัง ความดันทุรัง และความรุนแรงจากหลายๆ ฝ่าย”

ปีเดียวกันนั้นรัฐเท็กซัสและเปอร์โตริโกถูกเฮอร์ริเคนถล่มหลายลูกจนเสียหายหนัก แต่ทรัมป์มีทัศนะต่อการให้งบฯ ฉุกเฉินระหว่างสองพื้นที่นี้แตกต่างกัน

“เท็กซัส วันนี้เราอยู่กับคุณ พรุ่งนี้เราอยู่กับคุณ และเราจะอยู่กับคุณทุกวันนับจากนี้ เพื่อฟื้นฟู ซ่อมแซม สร้างบ้านให้ใหม่” ทรัมป์ทวีตข้อความในเดือนกันยาน 2017

แต่กับเปอร์โตริโก เขาทวิตว่า “นักการเมืองท้องถิ่นทุกคนดีแต่บ่น แล้วก็ขอเงินเพิ่ม พวกนี้ไร้ความสามารถสิ้นดี ใช้เงินแบบโง่ๆ ไม่ก็โกง เอาแต่ได้จากสหรัฐ”

จะยังมีใครเถียงแทนประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน อีกไหมว่าเขาไม่เหยียดผิว...

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข