พระสุธรรม ฐิตธัมโม หรือพระสุธรรม นทีทอง อดีตแกนนำของ กปปส.ที่หันหลังให้กับทางโลกอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ปี 2014 ได้กระทำภารกิจ “เดินธุดงค์ข้ามประเทศอเมริกา” เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาและสันติภาคโลก รวมระยะทางมากกว่า 3,000 ไมล์ สำเร็จลุล่วงลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2019 ท่ามกลางเสียงอนุโมทนาสาธุของชาวไทย ชาวลาว และผู้คนนานาชาติในนิวยอร์ค ที่มากันมาร่วมเป็นกำลังใจจำนวนมาก
ทั้งนี้ พระสุธรรม ฐิตธัมโม เริ่มออกเดินธุดงค์จากฝั่งตะวันออกของอเมริกา หรือฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ริมทะเลเมืองซานตามอนิก้า รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2019 ถึงริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ท่าเรือเฟอร์รี่ อ่าวนิวยอร์ค ในวันที่ 30 มิถุนายน 2019 โดยใช้เส้นทางถนนหมายเลข 66 ซึ่งเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ ในฐานะถนนหลวงสายแรกของสหรัฐฯ ที่พาดผ่านตะวันออกสู่ตะวันตกเชื่อมต่อระหว่างรัฐเป็นเส้นทางหลัก รวมเวลาในการเดินทางข้ามประเทศทั้งสิ้น 121 วัน
วีโอเอ รายงานข่าวว่า เส้นทางในวันสุดท้ายของพระสุธรรม นทีทอง เริ่มต้นจากสะพานจอร์จ วอชิงตัน มุ่งหน้าไปที่อาคารสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ หรือ UN ผ่านจัตุรัสไทม์สแควร์ ต่อด้วยอนุสรณ์สถานเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยา และเดินทางไปที่ศาลาว่าการนครนิวยอร์ค ก่อนจะสิ้นสุดที่ท่าเรือเฟอร์รีในช่วงบ่าย โดยบรรยากาศตลอดทั้งวันที่มหานครนิวยอร์ค มีคนไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจกัน และมีชาวไทยหลายสิบคนร่วมเดินกับพระสุธรรมในระยะ 1 กิโลเมตรสุดท้ายของการธุดงค์เพื่อสันติภาพในครั้งนี้
ทางนายนิพนธ์ เพ็ชรพรประภาส กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ค บอกว่า ชาวนิวยอร์คเกาะติดเส้นทางแห่งสันติภาพของพระสุธรรม ซึ่งเมื่อทราบว่าพระสุธรรมจะมาถึงนิวยอร์ค ก็ได้เตรียมการดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับพระสุธรรมตลอดเส้นทาง รวมทั้งมีส่วนหนึ่งที่ไปร่วมเดินกับพระสุธรรมในหลักไมล์สุดท้ายในนครนิวยอร์คด้วย
สำหรับจุดหมายปลายทางสุดท้าย ของการเดินทางรณรงค์เพื่อสันติภาพกว่า 3,000 ไมล์ ข้ามอเมริกา ของพระสุธรรม คือเกาะลิเบอร์ตี้ ใจกลางอ่าวนิวยอร์ค ที่ตั้งของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty)
ทั้งนี้ พระสุธรรม ฐิตธัมโม จะเดินทางกลับมายังนครลอส แอนเจลิส ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยจะออกบิณฑบาตรร่วมกับพระสงฆ์ไทยในลอส แอนเจลิส และเมืองใกล้เคียง ที่หน้าไทยแลนด์พลาซ่า ถนนฮอลลีวูด ในเช้าวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม และจะร่วมให้สัมภาษณ์รายการ “เก้าอี้รับแขก” ของสยามทาวน์ทีวี เพื่อบอกเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตตลอด 121 วันแห่งการธุดงค์ข้ามอเมริกาอย่างละเอียดด้วย.
.
.