ระหว่างการให้สัมภาษณ์รายการเก้าอี้รับแขก ของสยามทาวน์ทีวี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตจักร บุญ-หลง ได้กล่าวว่า การเดินทางกลับมาเยือนนครลอส แอนเจลิส ครั้งนี้ ห่างจากช่วงเวลาที่ตนอยู่ในตำแหน่งกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ถึง 13 ปี จึงรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผู้คน โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้นำชุมชนในช่วงนั้นที่หลายๆ ท่านได้วางมือ เพราะมีอายุมากขึ้น และมอบหมายภาระหน้าที่ให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทเป็นผู้นำชุมชนแทน ถือว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี
“ผมคิดว่ามันเป็นความเสียสละสำหรับใครก็ตามที่จะมาทำหน้าที่แบบนี้ ซึ่งก็ต้องขอบคุณพี่ๆ คนรุ่นเก่าที่ได้กรุณาเสียสละ ทำให้ชุมชนไทยเราเข้มแข็งเป็นที่ยอมรับอยู่ในสังคมอเมริกา เมื่อถึงเวลาก็ต้องมีน้องๆ รุ่นใหม่เข้ามา ซึ่งก็ได้ยินว่าคุณจีน่า ปรีชา และคุณตัน พัฒนะ เป็นกำลังสำคัญ ก็อยากให้กำลังใจ ในการทำหน้าที่นี้ ผมเห็นว่าท่านทั้งสองและทีมงานจะต้องเหน็ดเหนื่อย ต้องเสียสละ ต้องทุ่มเท แต่เราไม่ได้ทำให้ใครอื่น เราทำให้ชุมชนไทยของเราเข้มแข็ง เพื่อลูกหลานของเรา”
อดีตกงสุลใหญ่ฯ ซึ่งเดินทางมาลอส แอนเจลิส เพื่อเยี่ยมเยือนชุมชนไทย และเยี่ยมนายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส คนปัจจุบัน ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ให้คำแนะนำกับผู้นำชุมชนไทยรุ่นใหม่ต่อไปว่า ขอให้เข้าหารุ่นพี่ ที่เคยทำงานเพื่อสังคมมาก่อน
“เรามีตัวอย่างมาแล้วจากพี่ๆ ทั้งหลายที่ได้ร่วมกันทำมา ได้ทำผลงานไว้อย่างดี ก็เชื่อว่าคนรุ่นใหม่ก็สามารถที่จะสานต่อสิ่งเหล่านี้ให้กับชุมชนไทยได้ เพียงอย่างเดียวคือต้องนึกถึงสิ่งที่คนรุ่นเก่าได้ทำ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพราะว่าชุมชนไทยเราก็มีลักษณะของเขาเอง ไม่ใช่แบบ one size fits all เพราะฉะนั้นก็ต้องเรียนปรึกษารุ่นเก่าว่าที่ผ่านมาทำอะไรกันยังไง ขณะเดียวกันเรามีไอเดียใหม่ๆ ของคนรุ่นใหม่ก็เสริมเข้าไป ก็จะได้ทำให้ชุมชนไทยของเราเจริญเติบโต เข้มแข็งขึ้นมาเรื่อยๆ”
อดีตกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ระหว่างปี 2006-2009 บอกด้วยว่า การทำงานเพื่อชุมชน ย่อมหนีไม่พ้นแรงเสียดทานจากคนที่ไม่เข้าใจ จึงขอให้ผู้นำชุมชนรุ่นใหม่มีความอดทนให้มาก
“ไม่มีใครหรอกถ้าจะทำงานเพื่อส่วนรวมแล้วจะได้เดินบนถนนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ นอกจากจะมีความเสียสละแล้ว เหนื่อยแล้ว ยังมีความท้อแท้อยู่ แต่เราก็ต้องอดทนกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เพราะว่าเราจะทำงานใหญ่ เป้าหมายของเราคือความเข้มแข็งของชุมชนไทยในอนาคต เราก็ต้องพร้อมที่จะรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์”
เอกอัครราชทูตสามประเทศ คืออิสราเอล นอร์เวย์ และพม่า กล่าวแนะนำถึงวิธีลดแรงเสียดทานของการทำงาน ว่า จะต้องมีการปรับความเข้าใจกัน
“ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่คุยกันได้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์มาจากไหนก็ไปหา แล้วไปอธิบายให้ฟังซะว่าทำไมเราต้องทำแบบนี้ ถ้าฟังกันรู้เรื่องแล้วมีอะไรถามก่อนได้ไหม ก่อนที่จะวิจารณ์ เหมือนกับสมัยผมมาใหม่ๆ แล้วเชิญสื่อมวลชนมาพูดคุยกันว่าผมมารับใช้ชุมชนนะ ขออย่างเดียว มีอะไรถามผมก่อน แล้วผมจะชี้แจง”
และในช่วงท้ายของรายการ เอกอัครราชทูตจักร บุญ-หลง กล่าวว่าตนมีความผูกพันกับชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส แน่นแฟ้น เพราะเคยปฏิบัติงานที่นี่ถึง 3 ปี 3 เดือน และ 3 วัน จึงเห็นชัดถึงความมุ่งมั่นและความเป็นปึกแผ่นของชุมชน เห็นความเสียสละของผู้นำชุมชน แม้จะครบวาระต้องเดินทางไปทำงานที่อื่นก็ยังคงติดตามข่าวและเฝ้ามองความงดงาม ความรุ่งเรือง ความเข้มแข็งของชุมชนไทยที่นี่อยู่ต่อเนื่อง ตนจึงดีใจมากที่ได้เห็นคนรุ่นใหม่เข้ามารับช่วงต่อ เพื่อลูกหลาน เพื่อประเทศไทย
“เพราะว่าเราทำเพื่อลูกหลานของเรา เราทำเพื่อชุมชนไทยให้เจริญเติบโตต่อไปในอนาคต อยากเห็นความเป็นปึกแผ่น อยากให้คนในพื้นที่ที่นี่เขายอมรับความเป็นไทย ความเป็นชุมชนไทย เราจะได้ไม่น้อยหน้าใคร ไม่เสียโอกาสให้กับชุมชนต่างชาติอื่นๆ” อดีตกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส กล่าว
ขณะที่คุณกมลรัตน์ บุญ-หลง ภริยา ได้ฝากถึงผู้นำชุมชนรุ่นใหม่ ให้มีความมุ่งมั่น อย่าท้อถอย
“ถ้าเราทำอะไรแล้วมีปัยหาก็อย่าท้อถอย อย่าเสียจริตตกไป เพราะเราทำงาน ถึงมีปัญหาก็ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้ นึกถึงพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว เช่นกรณีเรื่องปิดทองหลังพระ ก็จะเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ดี”
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายการเก้าอี้รับแขก ตอนเอกอัครราชทูตจักร บุญ-หลง และภริยา กมลรัตน์ บุญ-หลง ได้ทางยูทูปแชลแนลของ Siamtownus.
.
.