ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เริ่มต้นเคมเปญหาเสียง “Keep America Great” ของเขาสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 2020 แล้วที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เมื่อวันอังคารที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวต่อหน้ากลุ่มผู้สนับสนุนประมาณ 20,000 คนที่แอมเวย์ เซ็นเตอร์ ว่า ผมยังให้ความสำคัญกับนโยบาย “อเมริกามาก่อน” เสมอ และผมมั่นใจว่าทั่วโลกกำลังอิจฉาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ดังนั้น การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 ผมต้องการสร้างประวัติศาสตร์แห่งชัยชนะอีกครั้ง และผมต้องการปิดจ็อบอย่างเสร็จสมบูรณ์ โดยการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2
ผู้นำสหรัฐยังกล่าวด้วยว่า “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานด้านเศรษฐกิจ สงครามการค้า และนโยบายต่อต้านผู้อพยพ ที่พวกเราทำมาตลอด 2 ปี จะช่วยจูงใจและดึงดูดฐานคะแนนเสียงมาสู่พรรครีพับลิกัน รวมถึงกลุ่มผู้ใช้แรงงานสายกลางให้กลับมาโหวตเลือกผมเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง”
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังคงใช้ “ผู้อพยพ” หรือ immigrants เป็นเครื่องมือในการหาเสียงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างภาพให้กลุ่มคนเหล่านี้คือศัตรู ที่กำลังทำร้ายประเทศอเมริกา โดยโจมตีพรรคเดโมแครตว่า เป็นคนเปิดพรมแดนเพื่อให้เหล่า “เอเลี่ยน” เข้าประเทศเพื่อเป็นฐานเสียงของตนเอง ซึ่งเป็นการทรยศต่อชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นแนวทางการหาเสียงแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้เมื่อการเลือกตั้งปี 2016 อีกทั้งยังคงกล่าวโจมตีนางฮิลลารี คลินตัน “คู่ปรับเก่า” ของเขาเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ในกรณี “อีเมล์” อย่างเมามันเหมือนเดิมอีกด้วย
ขณะที่ รายงานระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ จะพิจารณาแต่งตั้ง “ไมค์ เพนซ์” ให้เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในสมัยที่ 2 อีกครั้ง ด้วยผลงานครั้งที่ผ่านๆ มา ถือว่านายไมค์ เพนซ์ ค่อนข้างประสานงานและสนับสนุนนโยบายของนายทรัมป์อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ โพลจากหลายสำนัก ระบุตรงกันว่า หากดูความเป็นไปได้แบบ “รัฐต่อรัฐ” นายทรัมป์ ยังมีคะแนนนิยมตามหลัง “โจ ไบเดน” ผู้สมัครตัวเก็งจากพรรคเดโมแครต ซึ่งได้ชูนโยบายนำสหรัฐกลับคืนสู่ความสงบและนุ่มนวล เช่นเดียวกับในยุคของ “บารัก โอบามา” อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ ซึ่งนายไบเดน เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นรองประธานาธิบดีในสมัยนั้น
การเปิดตัวเคมเปญหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 ของประธานาธิบดีทรัมป์ครั้งนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักการเมืองฝั่งเดโมแครตอย่างรุนแรงว่ากำลังพยายามแบ่งแยกประเทศออกเป็นสองฝั่ง ขณะที่ เบอร์นี่ แซนเดอร์ส หนึ่งในผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ระบุว่าเคมเปญของทรัมป์ไม่ได้แตะต้อง หรือใส่ใจประเด็นสำคัญ เช่นความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเลย
ขณะที่ โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีในสมัยของบารัก โอบาม่า กล่าวในงานเลี้ยงหาทุนสนับสนุนเขาที่นิวยอร์คว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 มีความสำคัญยิ่ง เพราะ “ความประพฤติของผู้นำสหรัฐฯ ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา กำลังทำพื้นฐานของความเป็นอเมริกัน ถูกสั่นคลอน.