บีบีซีไทยรายงานข่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยไม่อนุมัติวีซ่าให้แก่ น.ส.น้ำผึ้ง ปัญญา เพื่อเดินทางเข้าสหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันโครงการทางวิทยาศาสตร์
เจ้าหน้าที่กงสุลได้ระบุไว้ในใบที่แนบมากับหนังสือเดินทางว่า สาเหตุที่ไม่ได้รับอนุมติวีซ่า เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับวีซ่าชั่วคราวภายใต้มาตรา 214(b) ตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติสหรัฐฯ ซึ่งระบุไว้ว่า ผู้ยื่นจะต้องแสดงหลักฐานว่ามีความผูกพันอย่างมากกับประเทศที่อาศัยอยู่หรือบ้านเกิดของตน
นายสุรพงษ์ กองจันทึก อดีตประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวกับบีบีซีไทยว่า นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธการออกวีซ่าให้คนไร้สัญชาติที่อยู่ในไทยและเป็นตัวแทนของไทยในการเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ
"อยากให้สถานทูตสหรัฐฯในไทยทบทวนเรื่องราวเหล่านี้ เพราะที่ผ่านมาสหรัฐฯ ยังส่งเสริมเรื่องของสิทธิมนุษยชนในการแก้ไขปัญหาเรื่องเด็กไร้สัญชาติ รายงานค้ามนุษย์ก็ย้ำให้ไทยแก้ไขเรื่องเด็กไร้สัญชาติ ซึ่งไทยก็ดำเนินเรื่องนี้ตลอดมาด้วยดี" นายสุรพงษ์ กล่าว
นายโรเบิร์ต โพสต์ ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อมวลชนและวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ฝ่ายสถานทูตไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลรายบุคคลได้ เนื่องจากเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว แต่สามารถให้หลักประกันว่าแต่ละกรณีได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ทั้งนี้ กฎหมายของสหรัฐฯ กำหนดให้ผู้ยื่นขอวีซ่าแบบ non-immigrant แต่ละคนต้องแสดงให้สหรัฐฯ เห็นถึงความผูกพันทางด้านสังคมและเศรษฐกิจของตัวเองกับประเทศใดประเทศหนึ่งนอกสหรัฐฯ เพื่อให้มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับวีซ่า
"ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวสำหรับผู้สมัครขอวีซ่า โดยเฉพาะผู้สมัครขอวีซ่าที่ไร้สัญชาติ ซึ่งเราจะพิจารณาเป็นกรณีไป" นายโพสต์ กล่าว "ในอดีตเราเคยออกวีซ่าให้บุคคลไร้สัญชาติในไทยมาก่อนในบางกรณี ซึ่งผู้สมัครค่อนข้างเสียเปรียบในการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันกับประเทศนอกสหรัฐฯ"
นายโพสต์กล่าวว่า สหรัฐฯ เป็นห่วงเกี่ยวกับปัญหาคนไร้สัญชาติที่มีอยู่ทั่วโลก และทางสหรัฐฯ ทำงานกับประเทศต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาคนไร้สัญชาติ และพยายามหาวิธีแก้ไขที่ยั่งยืน โดยเฉพาะผู้ที่ไร้สัญชาติ 480,000 คนในไทย
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ถึงแม้ว่า น.ส.น้ำผึ้งจะไม่ได้ถือสัญชาติไทย แต่ถือว่าเป็นราษฎรไทย เพราะรัฐได้จัดทำบัตรประจำตัวและบันทึกรายการบุคคลเข้าในระบบทะเบียนราษฎรของรัฐไทยแล้ว และมีนโยบายให้คนเหล่านี้อยู่อาศัยในประเทศไทยได้ถาวร
ตามข้อมูลประกาศสำนักทะเบียนกลาง กระทรวงมหาดไทย ตามหลักฐานการขึ้นทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค. ปี 2560 ในจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรไทยที่มีมากว่า 66.1 ล้านคน มีบุคคลที่ไม่ได้มีสัญชาติไทยถึง 875,814 คน
น.ส.น้ำผึ้ง และพ่อและแม่ของเธอซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ ก็เป็นส่วนหนึ่งในจำนวนคนเหล่านั้น ซึ่งถือบัตรประจำตัวประชาชนที่ขึ้นต้นด้วยเลข 0 หรือ 9 ซึ่งเป็นบัตรของบุคคลไร้สถานะทางทะเบียน นั่นคือ ไม่ปรากฏว่าบุคคลนั้นมีสัญชาติใดเลย การถือบัตรนี้ถือว่าอยู่ในกระบวนการขึ้นทะเบียนเพื่อรอการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลในการขอสัญชาติ
เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว น.ส.น้ำผึ้งได้ยื่นขอสัญชาติที่ อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอน
"เราแค่ไร้สัญชาติ ไม่ได้ไร้รัฐ เป็นราษฎรของไทย" น.ส.น้ำผึ้ง กล่าวกับบีบีซีไทยทางโทรศัพท์
ทั้งนี้ น.ส.น้ำผึ้ง ซึ่งเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จ.เชียงราย ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยเพื่อไปแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ในงาน Intel International Science and Engineering Fair 2019 ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซน่า ระหว่างวันที่ 12-17 พ.ค.
"เป็นความรู้สึกที่เสียใจมากเพราะที่หนูตั้งใจมาทั้งหมดเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ" น.ส.น้ำผึ้ง กล่าว
เหตุการณ์ของ น.ส.น้ำผึ้งเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่เมื่อวันที่ 6 พ.ค. น.ส.ยลฤดี ปิยะทัต หรือ "น้องพลอย" ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ตนเป็นเด็กไร้สัญชาติที่อาศัยอยู่ใน จ.ระนอง ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศไทยแข่งขันโครงการ Genius Olympiad ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17 มิ.ย. ที่นิวยอร์ก แต่เนื่องจากเธอเป็นบุคคลไร้สัญชาติ จึงไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้เพราะไม่มีเอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าว
ต่อกรณีนี้ นายสุรพงษ์ระบุว่า แม้ว่าจะได้รับเอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าวแล้วแต่ก็น่าจะมีปัญหาเรื่องวีซ่า เนื่องจาก น.ส.น้ำผึ้งถูกปฏิเสธมาแล้วเพราะไม่มีหลักฐานความเป็นราษฎรไทย.
.
.