เมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ท่านอิสินธร สอนไว อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจอร์แดน และอดีตกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้กลับมาร่วมงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 9 แล้วบอกกับสยามทาวน์ยูเอส ถึงความยิ่งใหญ่ตระการตาของงานที่ได้เห็นว่า “ดีใจมาก” แต่ไม่ได้แปลกใจอะไร

ท่านบอกว่า ท่านเชื่อมั่นในพลังสามัคคีของคนไทยในนครลอส แอนเจลิส มาตั้งแต่งานไทยนิวเยียร์เดย์ฯ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อเก้าปีก่อนหน้านั้น ท่านเชื่อมั่นว่าพวกเรามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะธำรงรักษางานวัฒนธรรมกลางแจ้ง ที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดนอกราชอาณาจักรไทย ณ กลางเมืองฮอลลีวูด แห่งนี้ให้ยืนยง และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ได้...

ท่านบอกด้วยว่า “ปลื้มใจเหลือเกิน” ที่ได้กลับมาเห็นความเติบโตของงานในปีนี้ ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นทั้งในแง่ของปริมาณผู้คนที่หลั่งไหลมาร่วมงานจนแน่นขนัดตลอดวัน หรือในแง่ของพื้นที่จัดงาน ที่ขยายออกไปจนเต็มความยาวเกือบครึ่งไมล์ของไทยทาวน์ คือระหว่างเวสเทิร์นจนถึงนอร์มังดี และในแง่ของกิจกรรมในงาน ที่อัดแน่นตั้งแต่เช้ายันเย็น

ก็สมควรที่ท่านจะ “ปลื้มใจ” ด้วยว่าท่านมีบทบาทอย่างมากในการผลักดันให้เกิดงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล” ขึ้นเป็นครั้งแรก

ก่อนหน้านั้น องค์กรชุมชนหลักๆ ของไทย ทั้งศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน ของคุณนงเยาว์ วรานนท์, ศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ของคุณชัญชนิฐ มาร์เทอเรล และศูนย์ศิลปวัฒนธรมไทยเพื่อชุมชน ของ อ.วิบูลย์ วันประสาท ฯลฯ ได้จัดกิจกรรมกลางกันปีละครั้งสองครั้ง บางครั้งก็มีการปิดถนนฮอลลีวูด ในไทยทาวน์ด้วย เช่นงานเทศกาลอาหารไทย วันสุขภาพชุมชน และวันวัฒนธรรมธรรม ฯลฯ

แต่จุดเริ่มต้นจริงๆ ของงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล” นั้น ค้นข้อมูลจากข่าวเก่าๆ บนเว็บไซต์ของสยามทาวน์ยูเอส พบว่ามีขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2003 หลังจากเสร็จสิ้นงาน “ไทยทาวน์เฟสติวัล ครั้งที่หนึ่ง”

งานไทยทาวน์เฟสติวัล ที่ปิดถนนฮอลลีวูดประมาณหนึ่งช่วงถนน (หนึ่งบล็อค) บริเวณหน้าไทยแลนด์พลาซ่า เกิดขึ้นจากการร่วมมือของบรรดาผู้ประกอบการค้าในไทยทาวน์ มีคุณนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ขณะยังเป็นผู้บริหารร้านขนมไทย เป็นแกนนำ ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมชาวไทย หรือไทยซีดีซี มีวัตถุประสงค์เพื่อ “ไฮไลต์” ไทยทาวน์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่ชาวต่างชาติ หากจำกันได้ งานปีนั้นมี โจนัส และคริสตี้ สองนักร้องลูกทุ่งชื่อดังจากเมืองไทยมาร่วมโชว์ตัวด้วย

คราวนั้น ท่านอิสินธร สอนไว ได้ให้สัมภาษณ์สยามทาวน์ยูเอสถึง “แนวคิด” ของท่านหลังเสร็จงานไทยทาวน์เฟสติวัล ว่าอยากจะให้ทุกๆ องค์กรที่แยกย้ายกันจัดงานเผยแพร่วัฒนธรรมของตนเอง หันมาผนึกกำลังจัดงานร่วมกันเป็นงานเดียว เพื่อให้ได้ผลที่เป็นรูปธรรมชัดเจนมากกว่า

ซึ่งหลังจากแนวคิดดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับการตอบรับในแง่บวก กระทั่งมีการจัดตั้ง “คณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์” ชุดแรก เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2004

ท่านอิสินธร สอนไว ได้ให้สัมภาษณ์เราถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2004 หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ประจำปี 2004 ว่า...

 “การจัดไทยนิวเยียร์เดย์ฯ นั้น เกิดขึ้นได้จากการรวบรวมความคิดเห็นของบุคคลหลายๆ ฝ่าย บางฝ่ายบอกว่าการจัดงานแต่ละครั้ง บางทีคนน้อย สามพันสี่พันห้าพันคน ถ้าเทียบกับงบประมาณที่เราเสียไปแล้ว มันอาจไม่คุ้ม บางคนบอกว่าไม่อยากให้มีการปิดถนนบ่อย บางคนบอกว่าแหม! ทำไมงานเราไม่เหมือนงานของคนจีนเขา แน่นอนงานคนจีนเขาใหญ่เพราะคนเขาเยอะมาก ด้วยเหตุนี้ก็ค่อยๆ รวบรวมกันมา ทดลองคุยกันก่อน กับอาจารย์วิบูลย์ วันประสาท (ผู้อำนวยการศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยเพื่อชุมชน) กับคุณแชนซี่ (คุณชัญชนิฐ มาร์เทอเรล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทย) คุยกับคุณนงเยาว์ วรานนท์ (ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน) กลุ่มที่เคยจัดเป็นเมนหลักๆ ในที่สุดก็ออกมามีความเห็นคล้ายกัน ก็เลยบอกว่าลองดูดีไหม จัดให้มันยิ่งใหญ่ไปเลย”

และงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่หนึ่ง ก็ถือกำเนิดขึ้นในปีนั้น โดยคณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ท่านอิสินทร สอนไว ในฐานะเป็น “กาวใจ” เชื่อมทุกฝ่ายเข้าด้วยกันได้สำเร็จ รับตำแหน่งเป็นประธานจัดงานคนแรก...
         
โดยตัวเลขผู้มาร่วมงาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ประจำปี 2004 มีการประเมินโดยบริษัทซึ่งดูแลในส่วนของประชาสัมพันธ์ว่าสูงกว่า 40,000 คน
         
งานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ที่ดำเนินต่อเนื่องมาทุกปีนั้น แม้จะสับเปลี่ยนคณะกรรมการจัดงานฯ แต่เป้าประสงค์ของงานก็คล้ายๆ กัน เช่น เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของคนไทยให้เป็นที่รู้จัก เพื่อความสามัคคี ความเข้าใจอันดีซึ่งกันและกัน, เพื่อส่งเสริมภาพพจน์ที่ดีของประเทศไทย เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องของประเทศไทยให้แพร่หลาย อันจะส่งผลประโยชน์ในด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยโดยภาพรวม, เป็นการประชาสัมพันธ์ให้ต่างชาติได้รู้จัก “ไทยทาวน์” ซึ่งเป็นถิ่นที่มีธุรกิจของคนไทยรวมตัวกันอยู่หนาแน่น ฯลฯ
         
นอกจากนี้ การรวมตัวของคนไทยในนครลอส แอนเจลิส เพื่อจัดงานวัฒนธรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่บนถนนฮอลลีวูด ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของเมืองลอส แอนเจลิส เช่นนี้ ยังเป็นการแสดงให้ภาครัฐ ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับรัฐแคลิฟอร์เนียได้เห็นถึงพลัง และการดำรงอยู่อย่างเป็นปึกแผ่นของพวกเราที่นี่... อันจะนำมาซึ่งความ “เกรงใจ” ของนักการเมืองในระดับต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาของการเลือกตั้ง... เป็นการเพิ่มอำนาจต่อรอง รวมถึงโอกาสที่ดีขึ้นในการขอรับสวัสดิการหรืองบประมาณต่างๆ จากรัฐบาล เพื่อนำมาพัฒนาชุมชนไทย...
         
และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือว่า การจัดงานแสดงวัฒนธรรมของไทยเราอย่างยิ่งใหญ่แบบนี้ ถือเป็นการเผยแพร่เกียรติภูมิของพวกเราที่เป็นเพียง “ชนกลุ่มน้อย” ในประเทศนี้ ทำให้พวกเรา “ได้หน้า” ได้ภาคภูมิใจกับการอวดอารยธรรมอันลุ่มลึกที่ถ่ายทอดกันมาแต่โบราณกาลให้แก่ชาวอเมริกันเจ้าบ้านได้เห็นอีกด้วย...
         
ความสำคัญของงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ดังที่ว่ามานี้ ค่อยๆ พิสูจน์ตัวเองต่อเนื่องมาถึง 12 ปี คือจนถึงปี 2015 ก็มีการ “เว้นวรรค” ไปสองปี คือปี 2016 และ 2017

ปีแรกจำเป็นต้องเว้นวรรค เพราะกระแสความไม่แน่นอนหลังเกิดการก่อวินาศกรรมที่ซานเบิร์นนาดิโน่  บวกกับปัญหาเรื่องงบประมาณ เนื่องจากสัญญาสนับสนุนของสปอนเซอร์รายใหญ่หมดลง ส่วนปีต่อมา เว้นวรรคเพราะเกิดความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของพสกนิกรไทยทั่วโลก ทำให้การจัดงานรื่นเริงขนาดใหญ่ของชุมชนไทยในแอลเอ ดูเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

งาน “ไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล กลับมาอีกเป็นครั้งที่ 13 เมื่อปีที่แล้ว โดยมีคุณศรีวงศ์ อาญาสิทธิ กลับมาทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการจัดงานอีกครั้ง พร้อมหน้าด้วยคณะกรรมกรรมการที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ต้นเกือบครบถ้วน เสริมด้วย “คนรุ่นใหม่” เขามารับหน้าที่สำคัญๆ อีกหลายต่อหลายคน
       
คงจะเป็นเพราะว่า คณะกรรมการจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ได้พิสูจน์ถึง “คุณค่า” และผลประโยชน์ที่ส่งต่อไปอย่างทั่วถึง ทั้งกับชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส และประเทศไทยโดยภาพรวม ทำให้กลับกลับมาหลังจากเว้นวรรคไปสองปี ไม่ “หนักหนา” อย่างที่หลายคนคาดคิด เพราะมีสปอนเซอร์รายใหญ่ เช่น เบียร์สิงห์ บริษัท Wealth Financial Life, บริษัทคมคม, บีบีแคร์ ฯลฯ ยื่นมือเข้ามาสนับสนุนกันเต็มที่..​.

เช่นเดียวกับภาครัฐ เช่นสถานกงสุลใหญ่ ​ณ นครลอส แอนเจลิส ในสมัยท่าน ธานี แสงรัตน์ ยังเข้ามามีส่วนร่วมด้วยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกับขบวนพาเหรดวัฒนธรรมไทย ที่เห็นได้ชัดว่า “ยิ่งใหญ่” ตระการตากว่าปีที่ผ่านๆ มาหลายเท่า

ความร่วมมือร่วมใจ และแรงสนับสนุนที่คณะกรรมการจัดงานได้รับ ทำให้งานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 13 ประจำปี 2018 ได้รับการประเมินจากสำนักงานดับเพลิงของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ ว่ามีผู้ร่วมงานไม่ต่ำกว่าสี่แสนคน!!!!

โดยหลังจบงานในช่วงเย็นของวันที่ 22 เมษายน ปีที่แล้ว นายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ประธานคณะกรรมการจัดงานฝ่ายมวยไทยและฝายประสานงานกับเทศบาลนครลอส แอนเจลิส เปิดเผย ว่า เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดับเพลิง ได้เอาเอกสารมาให้ตนเซ็นรับรองว่า ตัวเลขประเมินของผู้คนที่มาร่วมงานในปีนี้ตลอดวันสูงถึงสี่แสนคน

“ผมถามว่าเขาดูจากอะไร เขาบอกว่าเขาสุ่มจากพื้นที่ในหลายๆ จุด ตลอดวัน บอกว่าคนเข้าๆ ออกๆ ตลอดวันไม่น้อยกว่านี้... ซึ่งสี่แสนคนนี่สูงมาก ถือว่าเพิ่มขึ้นมาสองเท่าเลยจากตัวเลขเดิม คือสองแสน ที่เขาเคยประเมินเอาไว้”

นายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง กล่าวว่าการประเมินตัวเลขผู้มาร่วมงานดังกล่าว เป็นไปเพื่อให้หน่วยงานดับเพลิงสามารถตรวจสอบแบบฟอร์มขออนุญาตปิดถนนในปีต่อๆ ไป ว่ามีการจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภค เช่นห้องน้ำเคลื่อนที่ อ่างล้างมือ ถังขยะ ฯลฯ เพียงพอกับจำนวนผู้มาร่วมงานหรือไม่ รวมตลอดถึงจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่พยาบาลและรถพยาบาล ฯลฯ ด้วย

“พอเขาบอกตัวเลขมาก เราก็ดีใจนะครับ เพราะไหนๆ ก็เหนื่อยกันมาเป็นเดือนๆ แล้ว ทำงานแล้วมีคนมาเยอะ พวกเราก็ดีใจ แต่ก็นั่นแหละ ตัวเลขนี้จะทำให้ต้นทุนการจัดงานปีหน้าเพิ่มขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะเดิมเขาประเมินว่างานเรามีคนมาแค่สองแสนคน” นายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง กล่าว

และงานไทยนิวเยียร์เดย์​ สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 14 ซึ่งจะเกิดขึ้นเต็มพื้นที่กว่าครึ่งไมล์ของถนนฮอลลีวูด ช่วงที่เป็นไทยทาวน์ของนครลอส แอนเจลิส อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2019 นี้ เราเชื่อว่าจะเป็นงานใหญ่ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเหมือนปีที่ผ่านมา และสามารถเป็นบทพิสูจน์พลังความสามัคคีของพวกเราชาวไทยในลอส แอนเจลิส ที่สามารถผนึกกำลังกันฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างสวยงามอีกครั้ง
        
 เป็นพลังสามัคคีของพวกเราคนไทยในแอลเอ ที่ท่านอิสินธร สอนไว มองเห็นตั้งแต่เมื่อ 16 ปีที่แล้ว...