กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันอังคารที่ 26 มีนาคม ว่า แพทริก ชานาแฮน รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ลงนามคำสั่งอนุมัติงบประมาณก้อนแรก 1,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับสร้างรั้วและกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ตามคำประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้ว
โดยงบประมาณส่วนนี้ ข่าวบอกว่าเป็นไปตามคำร้องขอของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ที่ต้องการให้กระทรวงกลาโหมก่อสร้างรั้วหรือกำแพงสูง 5.5 เมตรเป็นระยะทางเกือบ 60 ไมล์, ก่อสร้างและบูรณะถนน และติดตั้งไฟส่องสว่างบริเวนชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ตามคำประกาศภาวะฉุกเฉินของประธานาธิบดีทรัมป์
แถลงการณ์ของเพนตากอน กล่าวด้วยว่า ชานาแฮนได้ทำบันทึกส่งถึงเคิร์สเตน นีลเซ็น รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ แจ้งว่า เพนตากอนได้มอบหมายให้กองบัญชาการทหารช่างแห่งกองทัพบกเริ่มแผนการและจัดสรรงบประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดน
รักษาการรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งมีกำหนดเข้าให้การปกป้องร่างกฎหมายงบประมาณของเพนตากอนต่อสภาคองเกรสในวันอังคาร อ้างกฎหมายระดับประเทศฉบับหนึ่ง ที่ให้อำนาจเพนตากอนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้ตลอดพรมแดนของสหรัฐ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลาง
นอกเหนือจากงบก้อนแรกที่ดึงจากเพนตากอนแล้ว ทำเนียบขาวส่งสัญญาณด้วยว่าจะผันงบอีกราว 6,000 ล้านดอลลาร์จากงบของกองทัพ แต่ยังไม่ระบุว่าจะดึงจากโครงการใด
วิธีการดึงงบประมาณด้านกลาโหมมาใช้เพื่อสร้างกำแพงโดยอาศัยคำสั่งประธานาธิบดีที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ทำให้ทรัมป์โดนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากพรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกันของเขาเอง ซึ่งเตือนว่าเป็นการใช้อำนาจประธานาธิบดีโดยมิชอบและสร้างแบบอย่างที่อันตราย
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่าภายในกองทัพก็มีความเคลือบแคลง ตามเอกสารที่หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลีสไทมส์ได้รับเผยว่า ผู้บัญชาการกองกำลังนาวิกโยธินได้กล่าวเตือนไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การวางกำลังตามแนวชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโกนั้นก่อ "ความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้" ต่อกำลังพล
บันทึกที่พลเอกโรเบิร์ต เนลเลอร์ ส่งถึงชานาแฮนและริชาร์ด สเปนเซอร์ อธิบดีกระทรวงทหารเรือ ระบุว่า เขาถูกบังคับให้ต้องยกเลิกหรือลดการฝึกทหารใน 5 ประเทศ และคำประกาศนี้ยังหมายถึงกองกำลังนาวิกโยธินของเขาไม่สามารถบูรณะซ่อมแซมฐานทัพหลายแห่งที่ได้รับความเสียหายเพราะพายุเฮอริเคนในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจีย
คำประกาศของทรัมป์ยังถูกรัฐบาลของ 16 มลรัฐยื่นคัดค้านต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนที่แล้ว โดยระบุว่าคำสั่งของทรัมป์ขัดแย้งกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการออกกฎหมายและการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย คำฟ้องยังตั้งคำถามต่อคำนิยามของทรัมป์ ที่ระบุว่าการข้ามชายแดนอย่างผิดกฎหมายถือเป็นภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ทั้งที่ข้อมูลของรัฐบาลเองขัดแย้งกับคำกล่าวนี้
หากการยื่นคัดค้านของมลรัฐเหล่านี้ได้ผล คดีนี้จะถูกส่งไปยังศาลฎีกา ซึ่งจะสร้างแบบอย่างของการประจันหน้ากันเรื่องหลักการแบ่งแยกอำนาจตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ.
.
.
.