แคลิฟฯ เตรียมแบนใบเสร็จกระดาษ

ใบเสร็จ (receipt) กำลังจะกลายเป็น “อดีต” สำหรับผู้บริโภคในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพราะมีการเสนอร่างกฎหมาย เอบี 161 เข้าสู่การพิจารณาของสภารัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 25 มีนาคม โดยผู้นำเสนอคือ ส.ส. ฟิลล์ ทิง (เดโมแครต ซานฟรานซิสโก) บอกว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการลดปริมาณขยะกระดาษ เพราะใบเสร็จ โดยเฉพาะใบเสร็จของบางธุรกิจที่มาพร้อมกับคูปอง เช่นร้าน CVS ได้กลายเป็น “เรื่องขบขัน” บนโซเชียลมีเดียมานาน เพราะแม้จะซื้อของเพียงไม่กี่รายการ แต่ใบเสร็จมักจะยาวเหยียดเสมอ

หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบตามขั้นตอนและมีผลบังคับได้จริง แคลิฟอร์เนียจะเป็นรัฐแรกของประเทศอเมริกา ที่มีกฎหมายแบบนี้

ร่างกฎหมาย เอบี 161 ใช้หลักการเดียวกับกฎหมายหลอดดูดพลาสติกของรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีผลบังคับใช้ไปแล้ว นั่นคือห้ามไม่ให้ธุรกิจมอบใบเสร็จให้ลูกค้าหากไม่มีการร้องขอ แต่จะส่งใบเสร็จทางออนไลน์แทน (electronic receipts)

ข่าวบอกว่าหากผ่านเป็นกฎหมายออกมาจริงๆ ธุรกิจในแคลิฟอร์เนียจะมีเวลาจนถึงปี 2022 ในการนำระบบ electronic rceipts เข้ามาใช้ในร้าน โดยจะอนุญาตให้ใช้ใบเสร็จกระดาษเฉพาะในกรณีที่ลูกค้าเรียกร้องเท่านั้น โดยธุรกิจที่ฝ่าฝืนจะได้รับการตักเตือนสองครั้งก่อนที่จะถูกปรับวันละ 25 ดอลลาร์ แต่ค่าปรับตลอดทั้งปีของแต่ละธุรกิจจะต้องไม่เกิน 300 ดอลลาร์

อย่างไรก็ดี กฎหมายจะยกเว้นให้กับธุรกิจขนาดเล็กที่รับเฉพาะเงินสด ซึ่งจะต้องมีรายรับต่ำกว่าปีละหนึ่งล้านดอลลาร์

แม้จะได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ รวมถึงคณะกรรมการด้านทรัพยากรธรรมชาติของสภารัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ลงมติสนับสนุน 6-3 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ก็ตาม แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้ก็ถูกต่อต้านโดยกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ เช่นสภาหอการค้ารัฐแคลิฟอร์เนีย, สมาคมผู้ประกอบการร้านของชำแห่งแคลิฟอร์เนีย และสมาคมร้านอาหารแห่งแคลิฟอร์เนีย ที่แสดงความเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวควรเกิดจากความสมัครใจของธุรกิจมากกว่าการบังคับโดยรัฐบาล อีกทั้งยังมีความห่วงใยเรื่องการขโมยของออกจากร้าน เพราะหากไม่ใบเสร็จเป็นสิ่งพิสูจน์ ก็จะทำให้ยุ่งยากในการตรวจสอบ

ขณะนี้ กฎหมาย เอบี 161 กำลังอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการด้านความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองผู้บริโภค ของสภาผู้แทนราษฎรรัฐแคิลฟอร์เนีย (the Assembly Privacy and Consumer Protection Committee).



นักวิ่งจากเคนย่า คว้าแชมป์ “แอลเอมาราธาน”

อลิสช่า บาร์โน่ นักวิ่งปอดเหล็กจากเคนย่า คว้าแชมป์ “แอลเอ มาราธอน” ครั้งที่ 34 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง 11 นาที และ 46 นาที ถือเป็นชัยชนะครั้งที่สองของเขาในรอบสามปี

ส่วนฝ่ายหญิงนั่น เอสเคล เมอราชี จากเอธิโอเปีย เป็นผู้คว้าแชมป์ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 24 นาที และ 12 วินาที ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของนักวิ่งผู้หญิง

โดยแชมเปี้ยนทั้งสองคน จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 23,000 ดอลลาร์

แอลเอ มาราธอน ระยะทาง 26.2 ไมล์ จากสนาม ดอจเจอร์ สเตเดี้ยม ถึงซานตามอนิก้า เพียร์ เป็นรายการวิ่งมาราธอนระดับโลก โดยปีนี้มีผู้แข่งขันจากทั่วโลกเกือบ 24,000 คน.


เรียกคืน “อะโวคาโด้” แคลิฟอร์เนีย

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม บริษัท เฮนรี อะโวคาโด้ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลอะโวคาโด้ยักษ์ใหญ่ของแคลิฟอร์เนีย ประกาศเรียกคืนสินค้าของตัวเอง เพราะมีความเป็นไปได้สูงว่าผลอะโวคาโด้จากแคลิฟอร์เนีย อาจปนเปื้อนเชื้อลิสทีเรีย ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นโรคที่อันตรายมาก โดยเฉพาะสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ

โดยอะโวคาโด้ที่มีปัญหานั้น บริษัทเฮนรี ระบุว่าเป็นแบบที่วางขายให้ลูกค้าหยิบเองตามซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านของชำในอริโซน่า, แคลิฟอร์เนีย, ฟลอริด้า, นิวแฮมป์เชียร์, นอร์ธ คาโรไลน่า และวิสคอนซิน โดยทุกลูกจะมีสติ๊กเกอร์ Bravocado ติดเอาไว้บนผล รวมถึงอะโวคาโด้แบบปลอดสารเคมีของบริษัทเฮรี่ฯ ที่จะมีสติ๊กเกอร์คำว่า “organic” และ “California” ติดอยู่บนผลด้วย

บริษัทเฮนรี ระบุว่าอะโวคาโด้ที่มีปัญหาเหล่านี้ถูกเก็บออกจากตลาดแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่หากผู้บริโภคมีอะโวคาโด ที่มีปัญหาอยู่ที่บ้าน ให้นำไปคืนได้จากร้านค้าที่ซื้อมาได้โดยไม่ต้องมีใบเสร็จ

บริษัทเฮนรีฯ ย้ำว่าผลอะโวคาโด้ที่มีปัญหาคืออะโวคาโด้ของแคลิฟอร์เนีย ส่วนอะโวคาโด้ที่บริษัทเฮนรีฯ นำเข้าจากแม็กซิโก ยังคงวางจำหน่ายและสามารถบริโภคได้ตามปกติ

หากมีคำถามเกี่ยวกับการเรียกคืนอะโวคาโด้ครั้งนี้ ติดต่อบริษัทเฮนรี่ อะโวคาโด้ ได้ที่ 760-745-6632 ต่อ 132 หรือเว็บไซต์ www.henryavocado.com/media.


จอด ฮ. กลางทุ่งป็อปปีแลงแคสเตอร์

เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์แคลิฟอร์เนียป็อปปี้ของแอนติโลป แวลเล่ย์ ประกาศว่าเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อมีหนุ่มสาวขับเฮลิคอปเตอร์มาจอดกลางทุ่งดอกไม้สีส้ม ที่กำลังบานสะพรั่งในเมืองแลนแคสเตอร์ จากนั้นก็ลงมาชมดอกไม้ประจำรัฐแคลิฟอร์เนียด้วยทีท่าสบายใจ

“เราไม่คิดเลยว่า จะต้องมีการประกาศให้ชัดเจนเลยว่าการนำเฮลิคอปเตอร์มาจอดกลางทุ่งดอกไม้ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย... เราคิดผิดไป” เฟสบุ๊กของศูนย์อนุรักษ์ฯ ระบุ พร้อมกับแฮชแท็กซ์ #Don’tDoomTheBloom (อย่าทำลายดอกไม้)

ข้อมูลบนเฟสบุ๊กของศูนย์อนุรักษ์ฯ บอกต่อไปว่าเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปใกล้ ทั้งสองก็รีบวิ่งกลับไปที่เฮลิคอปเตอร์ และบินขึ้นไป

อย่างไรก็ดี ไม่มีการระบุชัดเจนว่าเหตุการณ์ประหลาดนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเมื่อในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะเป็นช่วงที่ดอกแคลิฟอร์เนียป็อปปี้ กำลังบานเต็มที่

ข่าวบอกว่าด้วยว่า ผู้รับผิดชอบจุดชมดอกไม้ที่เกิดปรากฎการณ์ซูเปอร์บลูมทุกแห่ง กำลังพยายามรับมือกับปัญหาที่ตามมากับจำนวนนักท่องเที่ยจำนวนมาก ทั้งปัญหารถติดและปัญหาการเหยียบย่ำหรือเด็ดดอกไม้ โดยเฉพาะที่วอล์คเกอร์ แคนย่อน ในเมืองเลค เอลซีนอร์ ซึ่งปริมาณนักท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ที่มากกว่า 1.5 แสนคน ทำให้เกิดปัญหารถติดรุงแรง จนต้องมีการปิดถนน และจัดรถรับส่ง (ชัตเตอร์) ระหว่างจุดจอดรถกับทุ่งดอกไม้ในช่วงสุดสัปดาห์.