เมื่อบ่ายวันที่ 19 มีนาคม 2019 นายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้จัดแถลงข่าวผลการใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ของหน่วยเลือกตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ณ บ้านพักกงสุลใหญ่ฯ

จากเอกสารข่าวสารสนเทศ ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้แจกจ่ายในวันดังกล่าว ระบุว่าจากจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอาณาของสถานกงสุลใหญ่ฯ จำนวน 5,668 คนนั้น มีผู้ส่งซองบัตรเลือกตั้งกลับมาถึงสถานกงสุลใหญ่ฯ ภายในกำหนดเวลา 5,027 คน คิดเป็นร้อยละ 88.69 ของจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ฯ

โดยบัตรเลือกตั้งเหล่านี้ ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เริ่มส่งกลับประเทศไทยโดยใช้ถุงเมล์การทูตพิเศษ ไปแล้วหนึ่งรอบ จำนวน 4,838 ซอง มีกำหนดถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 20 มีนาคม สวนรอบที่สองอีก 189 ซอง จะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 22 มีนาคม (เวลาประเทศไทย)

นายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส กล่าวว่าสัดส่วนของผู้ใช้สิทธิ์จำนวนร้อยละ 88.69 นั้น ตนรู้สึกพอใจ แม้ว่าจะไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม

“ให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์คงจะยากครับ เพราะเราได้รับการสอบถามเข้ามาเยอะเลยว่าเมล์ไปถึงช้า” กงสุลใหญ่ฯ มังกร ประทุมแก้ว กล่าว

ในส่วนของปัจจัยที่ทำให้ไปรษณีย์ล่าช้า หรือถูกตีกลับนั้น กงสุลใหญ่ฯ มังกร ประทุมแก้ว กล่าวว่ามีทั้งที่เกิดจากความผิดพลาดของเว็บไซต์ ทำให้ที่อยู่ของผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ฯ ผิดพลาด หรือไม่ครบถ้วน หรือบางกรณีเกิดจากผู้ลงทะเบียนกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วนเอง และอีกบางส่วน เกิดจากความล่าช้า หรือผิดพลาดของไปรษณีย์เอง เช่นกรณีซองเอกสารเลือกตั้งถูกตีกลับ ทั้งที่จ่าหน้าซองครบถ้วนและถูกต้องทุกอย่าง

รองกงสุลใหญ่ฯ โกศล สถิตธรรมจิตร กล่าวเสริมว่าในส่วนของความผิดพลาดที่เกิดจากระบบการลงทะเบียนฯ ออนไลน์นั้น ทานสถานกงสุลใหญ่ฯ กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งให้ทางกระทรวงมหาดไทยและ กกต. รับทราบ เพื่อทำการแก้ไขต่อไป

“เรื่องไปรษณีย์ล่าช้านั้น มีคนถามว่าทำไมเราถึงไม่ใช้ไปรษณีย์ลงทะเบียน ขอเรียนว่าอยากใช้ แต่ด้วยงบประมาณแล้วมันใช้ไม่ได้จริงๆ ของเราปีนี้เกือบๆ หกพันคนนี่ ถ้าใช้ไปรษณีย์ลงทะเบียนเฉพาะค่าไปรษณีย์นี่ตก 30,000 เหรียญ คิดว่าคงไม่ไหว ก็ต้องขออภัยจริงๆ” รองกงสุลใหญ่ฯ กล่าว

รองกงสุลใหญ่ฯ บอกด้วยว่า การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของสถานกงสุลใหญ่ฯ แอลเอ ครั้งนี้ มีซองบัตรถูกตีกลับมาประมาณ 30 ซอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อเจ้าของบัตรเลือกตั้งทุกคน

“เราพยายามทุกอย่าง อย่างมีอยู่ห้าคน ที่ลงทะเบียนด้วยตัวเอง แล้วจังหวะนั้นระบบขัดข้อง ปรากฎว่าลงทะเบียนสำเร็จ แต่ไม่มีที่อยู่ เราเลือกตั้งทางไปรษณีย์เท่านั้น เราจะส่งให้เขายังไง ผมก็ออกพีอาร์มาขอให้เขาติดต่อกลับ และทำทุกวิถีทาง สุดท้ายเอาชื่อเขาเสิร์ชหาบัตรประชาชน แล้วเอาเลขบัตรประชาชนไปเสิร์ชในฐานข้อมูลคนเคยมาทำหนังสือเดินทางกับเรา ย้อนหลังหลับไปห้าปี เจอสี่คน อีกคนไม่เจอ ไปเจอญาติที่เมืองไทย เราโทรไปหาญาติเมืองไทยเพื่อขอที่อยู่เขาที่นี่ เราทำทุกอย่างเพราะห้าคนนี้ เรารู้ว่าเขาตั้งใจ และเขาลงทะเบียนถูก เพียงแต่ว่าระบบมันเกิดปัญหาขึ้นมาในตอนเขาลงทะเบียน” รองกงสุลใหญ่ฯ กล่าว

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใดก็ตาม รองกงสุลใหญ่ฯ กล่าวว่าสามารถแจ้งเหตุที่ไม่สามารถมาใช้สิทธิ์ได้ภายในเวลาสองปี ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เสียสิทธิทางการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด.