เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2019 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนจะออกคำสั่งฉุกเฉิน ห้ามเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max 8 และ 737 Max 9 และเครื่องบินที่เกี่ยวข้องกับตระกูลดังกล่าวขึ้นบินในสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวด้วยว่า เขาได้หารือเรื่องนี้กับประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโบอิ้ง, รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐ และผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนสหรัฐ (FAA) ซึ่งทุกฝ่ายต่างก็เห็นพ้องกับเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน ET 302 ได้เดินทางออกจากสนามบินนานาชาติแอดดิส อะบาบา เมื่อเวลา 08.38 น.ของวันอาทิตย์ เพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงไนโรบี เมืองหลวงของประเทศเคนยา แต่เครื่องบินตกหลังจากขึ้นบินได้เพียง 6 นาที
อุบัติเหตุดังกล่าวนับเป็นโศกนาฎกรรมร้ายแรงครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นที่ขายดีที่สุดของโบอิ้ง หลังจากที่เครื่องบินรุ่นดังกล่าวของสายการบินไลอ้อนแอร์ ได้เกิดอุบัติเหตุตกลงนอกชายฝั่งอินโดนีเซียในเดือนตุตลาคม ปีที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 189 ราย
ท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้ ถือว่าเกิดขึ้นช้ากว่านานาชาติ ที่เริ่มทยอยสั่งห้ามเครื่องบิน Boeing 737 Max 8 บินขึ้นเหนือน่านฟ้าของตัวเองเป็นการชั่วคราว แทบจะทันทีหลังเครื่อ Boeing 737 Max 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนตก
โดยก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวัน สำนักงานการบินพลเรือนสหรัฐ (FAA) ออกมาแถลงว่ายังไม่มีเหตุผลที่ระงับการให้บริการเครื่องบิน Boeing 737 Max 8 แม้อุบัติเหตุเครื่องบินตก 2 ครั้งที่ผ่านมาเกิดจากเครื่องบินรุ่นดังกล่าวก็ตาม
ซึ่งแถลงการของ FAA ที่มีขึ้นท่ามกลางความกังวลเพิ่มขึ้นด้านความปลอดภัย หลังจากเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้งที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบิน Boeing 737 Max 8 ในระยะเวลาเพียง 5 เดือน ทำให้ FAA ถูกตำหนิอย่างรุนแรง ขณะที่มีข่าวบางกระแสโยงใยความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับเดนนิส มุยเลนเบิร์ก ผู้บริหารของโบอิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกันอีกด้วย
โดยประเทศออสเตรเลียประกาศสั่งห้าม Boeing 737 Max 8 บินขึ้นเหนือน่านฟ้าชั่วคราว ส่งผลให้เที่ยวบินของ SilkAir และ Fiji Airways ที่ใช้บริการเครื่องบินรุ่นดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง สายการบิน GOL Airlines ของบราซิลเองก็สั่งระงับการใช้เครื่องบินรุ่น Max 8 ทั้ง 7 ลำชั่วคราวแล้ว
จีนก็มีคำสั่งยุติการใช้เครื่องบิน Boeing 737 Max 8 ทั้ง 96 ลำในช่วงเวลานี้ ซึ่งโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นมีชาวจีนถึง 8 คนโดยสารเที่ยวบินของ Ethiopian Airlines ส่งผลให้ทางการจีนขอปรึกษากับคณะกรรมการการบินของสหรัฐฯ และ Boeing ก่อนตัดสินใจว่าจะมีมติยกเลิกคำสั่งห้ามดังกล่าวเมื่อใด
และเมื่อวันพุธที่ 13 มีนาคม รัฐบาลอินเดียตัดสินใจยุติการใช้เครื่องบิน Boeing 737 MAX 8 ในประเทศทั้งหมด โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในทันที จนกว่าจะมีการปรับแก้เครื่องยนตร์อย่างเหมาะสม ซึ่งในขณะนี้ทางการอินเดียกำลังตรวจสอบเพื่อสร้างหลักประกันถึงความปลอดภัยในการดำเนินงาน"
ส่วนฮ่องกงและเวียดนาม ซึ่งยังไม่มีสายการบินใดใช้เครื่องบินรุ่นนี้ ก็เตรียมประกาศปิดน่านฟ้าเพื่อห้ามไม่ให้เครื่องบิน Boeing 737 Max บินผ่าน
นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานและสายการบินในสิงคโปร์, หมู่เกาะเคย์แมน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เม็กซิโก, โอมาน, สิงคโปร์, แอฟริกาใต้, เกาหลีใต้, ตุรกี, ไอซ์แลนด์ และนิวซีแลนด์ ออกมาแสดงท่าทีเป็นห่วง หลังเกิดโศกนาฏกรรมคร้งนี้
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่ามูลค่าตลาดของบริษัทโบอิ้งทรุดตัวลง 2.66 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุเครื่องบิน Boeing 737 Max 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ตกลงเมื่อวันอาทิตย์ โดยราคาหุ้นโบอิ้งดิ่งลง 11% จากระดับ 422.54 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ สู่ระดับ 375.41 ดอลลาร์ขณะปิดตลาดวานนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในวันนี้
การดิ่งลงของราคาหุ้น ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทโบอิ้งร่วงลงจากระดับ 2.387 แสนล้านดอลลาร์ในวันจันทร์ สู่ระดับ 2.121 แสนล้านดอลลาร์ในวันอังคาร.