ในสองสามเดือนที่ผ่านมา ผมได้รับคำถามจากหลายท่านเกี่ยวกับการแต่งงานเพศเดียวกัน ดังนั้นในวันนี้ผมจะกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อให้ทุกท่านได้หายสงสัยกัน
คำนิยามของการแต่งงานของรัฐบาลกลาง
ในวันที่ 26 มิถุนายน 2013 ศาลสูงสุดสหรัฐได้ทบทวนกรณี เคสของ Windsor v. United States โดยในมาตราที่ 3 ที่เรียกว่า “Defense of Marriage Act” (DOMA) ซึ่งรัฐบาลระบุว่า “การแต่งงาน” และ “คู่สมรส” ที่เป็นสถานภาพการสมรสระหว่างชายและหญิงนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ DOMA ซึ่งลงนามเป็นกฎหมายในวันที่ 21 กันยายน 1996 โดยประธานาธิบดีคลินตันได้มีคำสั่งว่าการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันควรได้รับการปฏิบัติแตกต่างจากการแต่งงานคนละเพศ เพราะคู่รักแบบเพศเดียวกันนั้นไม่เข้ากับคำนิยามของรัฐในเรื่องคู่รักที่สามารถแต่งงานได้ ผลของการทบทวนในมาตราที่ 3 คือ เป็นการแบ่งแยกในเรื่องการแต่งงาน เพราะว่าคู่รักที่เป็นเพศเดียวกันนั้นถูกริดรอนในเรื่องสิทธิ์ความสำคัญในเรื่องต่างๆ รวมถึง ผลประโยชน์ด้านประกันสังคม (Social Security) ด้านอิมมิเกรชั่น หรือการลากิจสำหรับครอบครัว ลาป่วย ลาคลอดต่างๆ สำหรับการทำงานในเรื่องเคส Windsor v. United States ศาลสูงสุดสหรัฐยืนยันว่าคู่สมรสทุกคู่ ทั้งเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกัน ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐจะได้แต่งงานกันและสามารถได้รับสิทธิ์การคุ้มครองต่างๆ นั้น ที่เคยถูกปฏิเสธภายใต้กฎหมาย DOMA
การได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านอิมมิเกรชั่น
คู่รักที่เป็นเพศเดียวกัน
ถ้าคุณเป็นผู้ถือสัญชาติอเมริกันหรือเป็นผู้ถือใบเขียวและมีคู่รักเป็นคนต่างด้าวที่เป็นเพศเดียวกัน คุณสามารถเป็นสปอนเซอร์แอพพลายใบเขียวให้คู่ของคุณได้ หลังจากหารือกันในคดีเคส Winsor v. United States ประธานาธิบดีโอบามาได้มีคำสั่งถึงหน่วยงานของรัฐบาลเพื่อย้ำถึงการตัดสินใจของศาลสูงสุด และให้สิทธิประโยชน์แก่คู่สมรสเพศเดียวกันที่แต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นคุณจึงสามารถแอพพลายใบเขียวให้คู่สมรสคุณได้ และคู่สมรสคุณสามารถเข้ามายังสหรัฐด้วยการสมัครวีซ่าถาวร หรือการปรับสถานภาพได้โดยพิจารณาจากกฎหมายอิมมิเกรชั่น และจะไม่ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลเพราะเป็นเพศเดียวกัน
คู่หมั้นที่เป็นเพศเดียวกัน
ไม่เพียงแต่สิทธิประโยชน์ด้านอิมมิเกรชั่นจะเกิดขึ้นกับคู่สมรสที่เป็นเพศเดียวกันเท่านั้น คู่หมั้นที่เป็นเพศเดียวกันก็จะได้รับสิทธิประโยชน์นั้นด้วย หากข้อกำหนดด้านอิมมิเกรชั่นอื่นๆ ผ่านเกณฑ์ คู่หมั้นที่เป็นเพศเดียวกันนั้นก็จะสามารถพาคู่หมั้นของคุณเข้ามาแต่งงานในสหรัฐได้ ดั้งนั้นหากท่านใดกำลังมองหาวิธีที่จะพาคู่หมั้นที่เป็นเพศเดียวกันในเมืองไทยของคุณมาแล้วล่ะก็ คุณสามารถทำได้เลย กรุณาโทรมาที่สำนักงานของเราเพื่อขอรายละเอียดในเรื่องนี้นะครับ
การแต่งงานเพศเดียวกันนั้นถูกกฎหมายในทุกๆ รัฐหรือไม่
การแต่งงานนี้ไม่ถูกกฎหมายในทุกรัฐนะครับ แม้ว่าการตัดสินของศาลสูงสุดในมาตราที่ 3 ของ DOMA นี้จะอนุมัติให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้ แต่ศาลไม่ได้แตะต้องมาตราที่ 2 ที่กล่าวว่า ต้องเกิดจากความยินยอมของกฎหมายในแต่ละรัฐด้วย ว่าจะให้การแต่งงานเพศเดียวกันนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ในขณะนี้มี 36 รัฐที่การแต่งงานนี้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึง District of Columbia และ ชนเผ่าพื้นเมืองของอเมริกาอีก 22 เผ่า ดังนั้น หากคุณจะเป็นสปอนเซอร์ให้คู่สมรสของคุณในการแอพพลายใบเขียว คุณจะต้องแต่งงานกันในรัฐที่การแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันนั้นถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน ไม่จำเป็นว่าคุณจะอาศัยอยู่ที่รัฐนั้นหรือไม่ คุณเพียงแต่งงานให้ถูกกฎหมายในรัฐนั้นๆ โดยกฎหมายของสถานที่แต่งงานนั้นจะกำหนดว่าการแต่งงานถูกต้องตามวัตถุประสงค์ด้านอิมมิเกรชั่นหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอาศัยอยู่ในรัฐที่การแต่งงานเพศเดียวกันนั้นไม่ถูกต้องตามกฏหมาย คุณและคู่สมรสสามารถเดินทางมาที่แคลิฟอร์เนียเพื่อแต่งงานที่นี่ แล้วกลับไปยังรัฐของคุณเพื่อแอพพลายใบเขียวที่นั่นได้ เพราะที่รัฐแคลิฟอร์เนียการแต่งงานเพศเดียวกันนั้นถูกกฎหมาย และสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านอิมมิเกรชั่น คือแอพพลายใบเขียวได้นั่นเอง การแต่งงานนั้นจะได้สิทธิประโยชน์ด้านอิมมิเกรชั่นไม่ว่าคุณอาศัยอยู่ที่ไหนตอนที่ส่งเรื่องเข้าไป หากคุณปฏิบัติตามข้อกำหนดของแต่ละรัฐที่คุณต้องการจะแต่งงาน
ผมหวังว่าหัวข้อในสัปดาห์นี้คงจะช่วยไขข้อข้องใจของท่านที่กำลังจะแต่งงานกับคู่รักเพศเดียวกันและสิทธิประโยชน์ในด้านอิมมิเกรชั่นนะครับ
ถ้าคุณมีคำถามใดๆที่ต้องการที่จะได้รับการตอบในบทความในอนาคตหรือถ้า อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ กฏหมายทั่วไป Immigration, Business, Property, และอื่นๆ โปรดติดต่อส่งอีเมลมาที่:JC4LAW@HOTMAIL.COM โทรเข้าออฟฟิสได้ที่เบอร์ (818) 846-5639 หรือสายไทยที่ (818) 505-4921 หรือท่านสามารถเข้าไปที่ website ของเราได้นะครับ มีทั้งภาษาไทย และ อังกฤษที่ : WWW.JC4LAW.COM หรือติดต่อได้ที่ FACEBOOK at: https://www.facebook.com/ThaiAttorney
Disclaimer: The information contained herein have been prepared for informational purposes only and are not to be considered legal advice unless otherwise specified. If you have a specific question regarding your personal case, please contact the Law Offices of Joseph Chitmongran for a full consultation.