ข่าวคนไทยในอเมริกา
วันที่ทีมเด็กไทยซานฟรานปะทะแข้งกับอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย

โดย ยงยุทธ สังขโกวิท

ในโอกาสที่อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ภายใต้การนำของ  น.อ.อ. ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน มาท่องเทียวในสหรัฐอเมริกา และมีโปรแกรมลงแข่งขันฟุตบอล กับทีมเด็กไทยซานฟรานซิสโก ในวันพุธที่ 30 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา และมีกำหนดพบกับทีม VIP ที่นครลอสแอลเจลิส ในวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ เช่นกัน 


จากการที่ผมมีโอกาสได้ พบปะกับบรรดาอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยในอดีต มีความรู้สึกว่า นักฟุตบอลรุ่นผม อาจจะอยู่ในวัยกว่า 70  กันแล้ว  ต่างก็แยกย้าย “หายหัว”  กันไปหมด  ลดน้อยลงตามวันเวลา   แต่มีอีกพวกหนึ่ง  (วัย 45-65 plus) ยังมีความสัมพันธ์ แน่นแฟ้น  ไม่สำคัญว่า แต่ละท่านเคยลงแข่งขันให้กับสโมสรต้นสังกัด  ต่อสู้กันมามากมายเพียงใด  

 

งานชิ้นสำคัญที่พวกเราชาวซานฟรานให้การต้อนรับคณะอดีตทีมชาติไทย มาแข่งขันกับทีมเด็กไทยซานฟราน อาจจะนับได้ว่า เป็นครั้งแรกที่มีขึ้นก็เป็นได้ รวมทั้งยังมีโอกาส ได้พบปะกับนักฟุตบอลที่สร้างชื่อเสียงและมีความสำเร็จในชีวิตการทำงาน เป็นตัวอย่างให้กับอนุชนรุ่นหลัง


เชื่อว่าหลายท่านคงเคยแต่ได้ยินชื่อเสียง และสถิติที่ถูกบันทึกของหัวหน้าคณะชุดนี้ คือ  น.อ.อ. ปียะพงษ์ ผิวอ่อน  ท่านนี้สังกัดสโมสรทหารอากาศ  รับใช้อยู่ในทีมชาติไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2524 – 2540  รวมเป็นเวลากว่า 17 ปี ทำสถิติยิงประตูสูงสุดของทีมชาติไทยได้ 103 ประตู  ลงเล่นในนามทีมชาติไทย 33  นัด  ชนะเลิศในนามทีมชาติไทย  King’s Cup  5 สมัย และ  Sea Games 5 สมัย  ไปร่วมทีมให้กับสโมสร Lucky Gold Star  เกาหลีใต้ และ สโมสรปาหัง มาเลเซีย  ผ่านการอบรมเป็นผู้ฝึกสอนฟุตบอลระดับชาติ A License และอื่นๆอีกมากมาย  ยังมีภาระ หน้าที่ พิธีกรข่าว และในปัจจุบันยังรับหน้าที่  Toyota Ambassador ของไทยพรีเมียร์ลีก  อีกด้วย


ขณะเดียวกันนี้ ขอถือโอกาสนำข่าวดีที่ “ทีมเด็กไทยซานฟราน”  ภายใต้การนำของคุณเล็ก-ธงชัย ชัยชนะ  ผ่านการพิจารณา และได้รับอนุมัติให้เป็น  “Non-Profit Organization”  อย่างเป็นทางการ  ผู้สนับสนุน สามารถหักค่าใช้จ่าย นำไปหักภาษีรายได้แบบถูกกฏหมายตอนสิ้นปี 


ด้วยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน นับตั้งแต่ คุณโอ๋  -จินดา และคุณไพโรจน์ รัตนะเถลิงศักดิ์  ทีมฟุตบอลเด็กไทยซานฟราน ภายใต้การนำของ คุณเล็ก-ธงชัย ชัยชนะ คุณนิว-ลลิตา สุขสำราญ แห่งร้านโอชา คุณบาสและน้องนารถ แห่งร้าน What The Cluck  และอีกหลายๆท่าน ร่วมมือ ร่วมใจ จัดการต้อนรับ ให้เกียรติกับ ทีมอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย  ซึ่งช่วงหนึ่งในชีวิตได้ทุ่มเทหลายอย่าง เพื่อความสำเร็จให้กับประเทศชาติ  ทุกท่านเหล่านี้เป็นรากฐานให้กับวงการกีฬาฟุตบอลไทยสืบต่อเนื่อง  ให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และต้องการได้รับความสำเร็จเช่นเดียว หรือดีกว่ารุ่นพี่ๆ เมื่อเติบโตขึ้น


เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปแบบ “มิตรภาพ”  อันเนื่องมาจากความแตกต่างของนักฟุตบอลทั้งสองฝ่าย ในด้านอายุ มากกว่าเท่าตัว  จึงจำเป็นต้องวางระบบให้การแข่งขันนี้ จบลงด้วยการที่  “ทุกคน” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านที่มาเยือน  สามารถเดินออกจากสนามแข่งขันด้วยตนเอง  ได้ตกลงว่าจะลงเล่น 20  นาฑี  รวม 3 ช่วงเวลา  พัก 15-20  นาฑี ตามความต้องการ สามารถเปลี่ยนตัวได้ตลอดระยะเวลาการแข่งขัน  


ข้อตกลงอีกอย่างหนึ่งได้แจ้งให้ทั้งสองฝ่ายทราบก่อนการแข่งขัน   ไม่ว่าประตู ได้-เสียของแต่ละฝ่ายเป็นไปในรูปใด   เมื่อจบการแข่งขันทั้งสามช่วงเวลา  จะมีการโชว์ penalty shootout  ฝ่ายละ 5 คน ตามระบบที่ FIFA คิดค้น แต่ยังไม่นำมาใช้อย่างเป็นทางการ  จึงถือโอกาสนำมาใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ เป็นครั้งแรก  ทำให้หลายคนต้องสงสัย แต่เราก็ทำกันได้


ระบบ shootout ที่อ้างถึงพอที่จะเข้าใจได้ตามแบบการยิงตามลำดับของฝ่าย   A BB AA BB AA B  รวมฝ่ายละ 5 คน  อาจจะกำหนดไว้ใช้ ให้เป็นตัวอย่างกับอนาคตของพวกเรา นำจำนวนประตูมารวมกับผลการแข่งขัน แล้วแต่จะตกลงกันอย่างไร 


 หลังจากการแข่งขัน และ การยิงที่จุดโทษเสร็จสิ้นลง คิดว่าคงจะหมดภาระแล้ว  แต่ยังมีแฟนบอลต้องการเห็นฝีเท้าของ “เพชณฆาตหน้าหยก”  ก็จัดให้ “ตามคำขอ” และเป็นการปิดฉากการแข่งขันอันประทับใจของทุกฝ่ายในวันนั้น


ในโอกาสที่ให้เกียรติผมลงตัดสินบอลนัดนี้  ผมต้องการ “ขอบคุณทุกท่าน”  ที่ให้ความร่วมมืออย่างดีจากทั้งสองทีม  ทุกท่านลงเล่นฟุตบอลตามความไฝ่ฝัน  ใช้ความสามารถเล่นตามกฏกติกา  ไม่มีความต้องการให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บ  ขอโทษและให้อภัยกับการพลาดพลั้งหากมีขึ้น รวมทั้งความผิดพลาดของกรรมการผู้ตัดสิน  ขณะมัวแต่มองดูท้องฟ้าว่า เมื่อไรฝนจะตก ลงมาช่วยให้การแข่งขันจบลงซักที  (ตามสภาพของ สว.)   ได้เห็นฝ่าย “ทีมชาติ” ล้มลง ก็คิดว่าคงจะถูกอีกฝ่ายหนึ่งทำอะไรบางอย่าง ได้เป่าทำโทษ และให้ฝ่าย “ทีมชาติ” ได้บอล แต่ยินเสียง “พรึมพรำ” ออกมา  ผมได้เข้าไปถามท่านนั้นและยอมรับว่า “เขาสดุดพื้นสนาม ล้มลงด้วยตนเอง”  ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนให้ฝ่าย “ทีมเด็กไทย” เริ่มเล่นบอล  หมดเรื่องไป ขอบคุณครับ


ได้พูดกันก่อนการแข่งขันว่า จะไม่มุ่งหวังกับผลแพ้หรือชนะ ไม่ต้องคำนึงถึงประตูได้-เสียของแต่ละทีม   ผมถือโอกาสแจ้งว่า การแข่งขันครั้งนี้ มีประตูเกิดขึ้นรวมทั้งหมด 7 ประตู (ขอยืนยันว่าเป็นประตูที่เกิดขึ้นจริง  จากที่ผมเป่านกหวีดให้สัญญาณนะ)  มากกว่าตามที่ตั้งไว้  มิฉะนั้นคงจะต้องลงแข่งขันกันต่อจนกว่าจะได้ครบ  6 ประตู เป็นอย่างน้อย


ในตอนค่ำ มีการเลี้ยงอาหารบุฟเฟท์ที่ร้านโอชา ในนครซานฟรานซิสโก ต้องขอขอบคุณ คุณนิว-ลลิตา สุขสำราญ(เจ้าของร้าน) จัดอาหารอร่อยๆต้อนรับให้กับทั้งสองทีม ทุกท่านที่มาได้จดจำอาหารมื้อนี้ติดตัวกลับไปทุกหนทุกแห่ง  แทนที่จะจดจำเพลง “ I Left My Heart in San Francisco”  ที่ทุกคนทั่วโลกจดจำกัน


คณะอดีตทีมฟุตบอลชาติ ออกเดินทางจากซานฟรานซิสโกตรงไปยังนครลอสแอลเจลิศ ในตอนเช้าวันที่ 31 มกราคม  มีกิจกรรมอีกหลายรายการ และลงแข่งขันกับทีม VIP อาวุโส ภายใต้การจัดการของ คุณแตน อัคคเดช ศรีพืพัฒน์ และ โคชยี่ คชเสนี ในวันอาทิตย์ ที่ 3  กุมภาพันธ์  พร้อมกับการเลี้ยงต้อนรับจากท่านกลสุลใหญ่ หลังการแข่งขันนั้นด้วย น่าอิจฉาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


พวกเราทุกคนหวังว่า ทุกท่านได้รับความปลอดภัยในการเดินทางและท่องเที่ยว ครบถ้วนตามจุดประสงค์ เดินทางกลับประเทศไทยด้วยความปลอดภัยทุกประการ ก็ยังหวังว่า “จนกว่าเราจะได้พบกันอีก”


ขอบคุณที่ติดตาม

ยงยุทธ













 




นำเสนอข่าวโดย : ทีมข่าว สยามทาวน์ยูเอส,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :
 
Detail :
 



  • ¤ÇÒÁ¤Ô´àËç¹·Õè : 1

ผลการแข่งขันที่แอลเอวันที่ 3 ก.พ. ภายใต้ลมฝนปรอยๆ ปรากฏว่าเสมอกัน 4:4 หากย้อนไปดู กุ้ง ปูยักษ์ และ อาหารอื่นๆที่ทางแอลเอต้อนรับ เล่นเอาอดีตทีมชาติไทย ไม่น่าจะลงวิ่งได้เลยนะ 555555

  • ¼ÙéÊè§: ยงยุทธ
  • 76.102.255.183 Feb 03, 2019 @07:44 PM
ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข