ข่าวคนไทยในอเมริกา
หนึ่งปีมหาภัยโคลนถล่ม ยังไม่พบร่าง’น้องลิเดีย’


 ภาพครอบครัวของนายพินิจ, ยุภาวรรณ, น้องพาสต้าและน้องลิเดีย




ภาพของเหยื่อโคลนถล่มที่ยังคงสูญหาย







ภาพความเสียหายของเมืองมอนเทซิโต้ หลังเกิดเหตุโคลนถล่ม




แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ชาวเมืองมอนเทซิโต้ ทำพิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวตจากเหตุการณ์โคลนถล่มทั้ง 23 คนในโนวาระครบรอบหนึ่งปี โดยสองราย คือ “น้องลิเดีย สุทธิเทพา” เด็กไทยวัยสองขวบ และวัยรุ่นอเมริกัน จอห์น แคนติน วัย 17 ปี ยังคงสูญหาย

วันที่ 9 มกราคม 2019 ถือเป็นวันครบรอบหนึ่งปีของเหตุการณ์โคลนถล่มในเมืองมอนเทซิโต้ เมืองริมทะเลในซานตาบาร์บาร่า เคาน์ตี้ เป็นเหตุให้มีบ้านเรือนหลายร้อยหลังถูกทำลาย หรือได้รับความเสียหาย เพราะดินโคลน และก้อนหินขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากภูเขาหลังฝนตกหนัก โดยเหตุเกิดขึ้นในเวลาประมาณตีสี่ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ยังคงหลับไหลอยู่บนเตียง จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 23 คน

โดยยังผู้เสียชีวิตสองคนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถค้นหาศพได้ คือน้องลิเดีย สุทธิเทพา เด็กไทยวัยสองขวบ และ จอห์น แคนติน วัย 17 ปี

ข่าวบอกว่าพิธีจุดเทียน และลั่นระฆังเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์โคลนถล่มในเมืองมอนเทซิโต้ มีขึ้นในช่วงเย็นของวันพุธที่ 9 มกราคม ณ โบสถ์ ออล เซนท์ส บาย เดอะ ซี เอพพิสโคเปิล โดยมีผู้เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์โคลนถล่มนั้น บริเวณภูเขาในย่านนี้ได้รับความเสียหายจากไฟป่าชื่อ โทมัสไฟร์ ที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงในซานตาบาร์บาร่า และเวนทูร่า เคาน์ตี้ เป็นเวลาหลายวัน ดังนั้นเมื่อมีฝนตกหนัก หน้าดินซึ่งไม่มีต้นไม้และหญ้าปกคลุม จึงถูกน้ำชะลงมายังเมืองที่อยู่เชิงเขา พร้อมกับนำต้นไม้ ขยะและหินก้อนใหญ่ๆ กลิ้งลงมาด้วยเป็นจำนวนมาก จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงดังที่ปรากฎ

โดยในจำนวนเหยื่อของเหตุการณ์โคลนถล่มครั้งนั้น มีครอบครัวคนไทยรวมอยู่ด้วย คือครอบครัวของนายพินิจ สุทธิเทพา ที่มีผู้เสียชีวิตถึงสี่คน คือนายพินิจ วัย 30 ปี พร้อมด้วยลูกสองคน คือ ด.ช.พีรวัฒน์ (น้องพาสต้า) วัย 6 ขวบ และน้องลิเดีย สุทธิเทพา วัยสองขวบ นอกจากนี้ยังมีนายริชาร์ด เทเลอร์ วัย 79 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของนายพินิจ รวมอยู่ด้วย

ส่วนแม่และภรรยาของนายพินิจ คือ นางบุญเพิ่ม เทเลอร์ และนางยุภาวรรณ บัญญัติตระกูลปาน นั้น รอดชีวิตแบบหวุดหวิด เพราะขณะเกิดเหตุโคลนถล่มนั้น ทั้งสองกำลังทำงานอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ส่วนน.ส.ศิริธร จันทโธ ญาติของนายพินิจ ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย รอดตายจากโคลนถล่ม เพราะวิ่งหนีออกจากบ้านทัน และได้เกาะต้นไม้เอาไว้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลงมือสำรวจพื้นที่และพบร่างของน้องพาสต้า เป็นคนแรก ก่อนจะพบร่างของนายพินิจและนายริชาร์ด เทเลอร์ ในเวลาต่อมา แต่ไม่สามารถค้นหาร่างเล็กๆ ของน้องลิเดียได้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2018 สถานีซีบีเอส (ช่องสอง) ของลอส แอนเจลิส ได้เสนอข่าวนี้อีกครั้ง โดยบอกว่าการค้นหาผู้สูญหายทั้งสองรายกำลังจะยุติลงในช่วงปลายเดือนกันยายน หลังจากที่มีความพยายามอย่างหนักมาตลอดเก้าเดือน

ข่าวบอกว่าเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครใช้วิธีที่เรียกว่า bucket brigade คือขุดเอาดินและหินจากจุดที่ต้องการค้นหา ซึ่งมีทั้งหมดห้าจุดใหญ่ๆ แล้วเรียงแถวส่งต่อออกมา โดยมีการประเมินว่ามีการย้ายดินโคลนและหินด้วยวิธีนี้มากถึง 4 ล้านถัง รวมถึงมีการสำรวจบ้านเรือนที่พังทลายหรือถูกโคลนทับถมมากกว่า 80 หลัง

ข่าวอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ที่เชื่อว่าร่างของน้องลิเดีย สุทธิเทพา และ จอห์น แคนติน น่าจะถูกโคลนถล่มพาออกทะเลไปแล้ว

ทั้งนี้ นายจ้างของนายพินิจ สุทธิเทพา คือดีลเลอร์รถยนต์โตโยต้า เมืองซานตาบาร์บาร่า ได้เปิดเพจ Pinit's Family Recovery Fund เพื่อเรี่ยไรเงินทุนช่วยเหลือครอบครัวของนายพินิจขึ้นบนเว็บ gofundme เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 โดยตั้งเป้าว่าจะเรี่ยไรเงินได้ให้อย่างน้อย 150,000 ดอลลาร์ แต่ปรากฎว่ามีผู้ร่วมบริจาคเงินสูงถึง 167,652 ดอลลาร์ (ถึงวันที่ 9 มกราคม 2019) โดยยังคงมีผู้ใจบุญบริจาคเงินเป็นระยะ รวมถึงสมาคมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงแห่งเมืองซานตาบาร์บาร่า ที่บริจาค 1,000 ดอลลาร์ด้วย

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นางยุภาวรรณ บัญญัติตระกูลปาน ได้โพสต์ข้อความขอบคุณผู้บริจาคเงินบนเพจ Pinit's Family Recovery Fund ความว่า ตนขอขอบคุณทุกๆ คนสำหรับความเอื้ออาทรและกำลังใจที่มอบให้ ขณะนี้ตนกำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่มหาวิทยาลัยแคพลัน และทำงานพาร์ทไทมส์ที่ตลาดวอนส์

“ดิฉันยังคงคิดถึงครอบครัวอยู่เสมอ ดิฉันสูญเสียความอบอุ่นจากครอบครัวที่ถูกพรากไปจากภัยธรรมชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ดิฉันยืนหยัดอยู่ได้คือความรักจากคนที่อยู่รอบข้างดิฉัน และจิตใจอันสวยงามของทุกๆ คนที่ให้กับดิฉัน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือที่ให้ดิฉันมา รัก อ้อ”.


 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
19-04-2024 เอาให้ชัด! ฟาสต์ฟู้ดแคลิฟอร์เนียแพงขึ้นเท่าไหร่ หลังปรับค่าแรง 20 เหรียญ (0/26)   
17-04-2024 รายได้เท่าไหร่ ถึงจะอยู่แบบ “สบายๆ” ในแคลิฟอร์เนีย (0/190) 
16-04-2024 ภูมิใจ! แอลเอครองแชมป์ “ยุงชุม” สุดในประเทศ (0/110) 
15-04-2024 “โคชเดี่ยว” สร้างสถิติใหม่ บอสตัน มาราธอน (0/84) 
15-04-2024 ด่วน! เข้าอเมริกา อาจไม่ต้องผ่านด่านตรวจที่สนามบินแล้ว (0/94) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข