สยามทาวน์ยูเอส ขอรวบรวมสถานที่จัดแสดงไฟที่เด่นๆ ทั่วแอลเอ เคาน์ตี้ มาไว้ ณ ที่นี้ เพื่อให้คุณผู้อ่านใช้เป็นข้อมูลสำหรับการออกไปชม “แสงสี” ในช่วงนี้
1 Moonlight Forest - Lantern Art Festival at the Los Angeles Arboretum
301 N. Baldwin Avenue, Arcadia, CA 91007
จัดแสดงระหว่าง 26 ตุลาคม จนถึง 6 มกราคม ตั้งแต่เวลา 17.30 น. จนถึงเวลา 22.00 น.
สวนพฤกศาสตร์ขนาดใหญ่ของแอลเอ เคาน์ตี้ แห่งนี้ จัดนิทรรศการโคมไฟอันวิจิตรพิศดารให้ผู้เข้าชมสวน ได้รับชมกันทุกคืนมาตั้งแต่ช่วงวันขอบคุณพระเจ้า และจะจัดแสดงต่อไปจนถึงวันที่ 6 มกราคม โดยผู้สนใจต้องเสียค่าเข้าชม (แยกต่างหากจากค่าเข้าชมสวนปกติ) ในราคาตั้งแต่ 20-28 ดอลลาร์
ดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ arboretum.org
2 Bold Holidays on Rodeo Drive,
Rodeo Drive, Beverly Hills
ระหว่าง 15 พฤศจิกายน จนถึง 22 ธันวาคม 2018
โรเดโอ ไดร์ฟ ย่านช็อปปิ้งหรูหราของเบฟเวอร์ลี ฮิลล์ ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามให้นักท่องเที่ยวและนักช็อปทั้งหลายได้เพลินตาเพลินใจ โดยนอกจากบนโรเดโด ไดร์ฟ แล้ว การประดับไฟยังกินไปถึงถนนใกล้เคียง เช่นนอร์ธ และเซาท์ เบฟเวอร์ลี่ ไดร์ฟ, แคนนอน ไดร์ฟ ระหวางเบฟเวอร์ลี แคนน่อน การ์เดนท์ กับเบฟเวอร์ลี่ การ์เดนท์ส์ ปาร์ค ด้วย... อีกทั้งร้านรวงทุกแห่งในย่านนั้นก็พร้อมใจกันประดับตกตกไฟหน้าร้านกันสวยงามด้วย
ดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ lovebeverlyhills.com
3 Chinese Lantern Festival at The Fairplex
1101 W. McKinley Avenue, Pomona
ระหว่าง 15 พฤศจิกายน ถึง 6 มกราคม 2019
ชมโคมไฟขนาดใหญ่อันสวยงาม รวมถึงการแสดงทางวัฒนธรรมนานาชาติ ที่ทางผู้จัดบอกว่าเป็นโอกาสทองของบรรดานักเซลฟี่ ที่จะได้รูปแสนสวยสำหรับโพสต์บน อินสตาแกรม
ดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ chineselanternfestival.com
4 The Americana at Brand Christmas
889 Americana Way, Glendale
ระหว่าง 16 พฤศจิกายน ถึง 25 ธันวาคม 2018
ศูนย์การค้า อเมริกาน่า แอท แบรนด์ ถือเป็นย่านช็อปปิ้งที่คนไทยในลอส แอนเจลิส รู้จักกันดี ดังนั้นเชื่อว่าพวกเราคงจะเห็นต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ และการประดับประดาไฟบนต้นไม้ในศูนย์การค้าแห่งนี้กันมาแล้ว... หากยังก็ขอให้อุ้มลูกจูงหลานไปรับชมกันได้
นอกจากการประดับประดาไฟจนสวยงามแล้ว ที่นี่ยังซานตาครอส ให้เด็กๆ ได้นั่งตักเพื่อถ่ายรูป รวมทั้งมีหิมะตกด้วย โดยหิมะที่อเมริกาน่า จะตกคืนละสองรอบ คือเวลา 19.00 น. และ 20.00 น.
ดูรายละเอียด (จองเวลาพบซานตาครอส) ได้ที่เว็บไซต์ americanaatbrand.com
5 L.A. Zoo Lights
5333 Zoo Drive, Los Angeles
ระหวาง 16 พฤศจิกายน จนถึง 6 มกราคม 2019
ในช่วงตั้งแต่ 18.00-22.00 น. สวนสัตว์เมืองแอลเอ จะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชม “แสงสี” ที่ประดับตกแต่งทั่วทั้งสวนสัตว์อย่างวิจิตรตระการตา โดยจัดแสดงในหลายธีม เช่นธีมสัตว์, ธีมไดนามิกไลต์ และ ฯลฯ โดยจะใช้เวลาเดินชมประมาณ 60-90 นาที
นอกจากแสงสีที่มีการประดับประดาเอาไว้แล้ว ยังมีการแสดงมายากล และการแสดงอื่นๆ ตามมุมต่างๆ รวมถึงมีซานตาครอส และกวางเรนเดียร์ (ตัวเป็นๆ) ให้ได้ร่วมถ่ายรูปด้วย
ราคาเข้าชมมีหลายแพ็กเก็จ เฉลี่ยราคาระหว่าง 14-21 ดอลลาร์ (สำหรับผู้ใหญ่)
ดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ lazoolights.org
6 Fa La Land at ROW DTLA
787 S Alameda Street, Los Angeles
ระหว่าง 17 พฤศจิกายน จนถึง 25 ธันวาคม
ฟาลาแลนด์ เป็นมิวเซียมเคลื่อนที่แบบที่เรียกว่า Holiday Pop-up museum ที่เพิ่งเปิดแสดงในแอลเอ เป็นปีแรก และกลายเป็นจุดท่องเที่ยวช่วงคริสต์มาสที่ร่ำลือกันว่าเป็นจุดที่ “เพอร์เฟ็กซ์” ที่สุดสำหรับถ่ายรูปครอบครัวเพื่อทำเป็นบัตรอวยพรวันคริสต์มาสและปีใหม่ โดยเฉพาะครอบครัวที่ไม่อยากได้รูปที่จำเจ หรือ “เทรดดิชั่น” เกินไปนัก... หรือหากจะถ่ายรูปเพื่อโพสต์เฟสบุ๊ก อินสตาแกรม ก็ไม่ผิดกติกา
ราคาบัตรผ่านประตูค่อนข้างจะสูงสักหน่อย คือคนละ 37 ดอลลาร์
รายละเอียดอื่นๆ ดูได้จากเว็บไซต์ falaland.com
7 Enchanted: Forest of Lights at Descanso Gardens
1418 Descanso Drive, La Cañada Flintridge
ระหว่าง 18 พฤศจกายน ถึง 6 มกราคม 2019
สวนพฤกษชาติ เดสแคนโซ่ ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งชมพรรณไม้ที่ได้รับความนิยมสูงมากแห่งหนึ่งของแอลเอเคาน์ตี้ เป็นบ้านของ “ป่าคามิเลีย” ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาด้วย
กระซิบว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ดอกคามิเลียกำลังบานสะพรั่งพอดีด้วย...
แต่ในช่วงปลายปีแบบนี้ สวนพฤกษชาติแห่งนี้ กลายเป็นแหล่งชมไฟยามค่ำคืนที่มีผู้คนคราคร่ำมากที่สุดแห่งหนึ่ง แม้จะเพิ่งเริ่มกิจกรรมนี้มาเพียงสามปีก็ตาม โดยมีการประดับไฟงดงามตลอดระยะทางประมาณไมล์เศษๆ บางจุดเหมาะสำหรับยืนชมเงียบๆ แต่บางจุดผู้ชม โดยเฉพาะเด็กๆ ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย... แต่ทุกจุดบอกได้ว่า “ตระการตา” และทุ่มทุนสร้างอย่างมาก...
ราคาเข้าชมอยู่ระหว่าง 28-30 ดอลลาร์ต่อคน (ต้องซื้อบัตรล่วงหน้าทางเว็บไซต์) โดยทางสวนไม่อนุญาตให้เอาขาตั้งกล้องแบบสามขา (tripot) เข้าไป แต่อนุญาตให้เอา monopod หรือเซลฟี่สติ๊กเข้าไปได้
ชมรายละเอียดและซื้อบัตรได้ที่เว็บไซต์ descansogardens.org
8 A Winter Wonderland at The Grove
189 The Grove Drive, Los Angeles
ระหว่าง 19 พฤศจิกายน ถึง 25 ธันวาคม
ช่วงเดือนเศษๆ ก่อนถึงวันคริสมาสต์ของทุกปี เดอะโกรฟ (the Grove) ย่านช็อปปิ้งหรูของเมืองแอลเอ จะเปลี่ยนสภาพเป็น “ดินแดนมหัศจรรย์” หรือ “วินเตอร์ วันเดอร์แลนด์” ให้ครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ ได้สนุกสนานกัน
ที่นี่มีต้นคริสมาสต์ยักสูงกว่าร้อยฟุต ประดับด้วยดวงไฟใหญ่น้อยกว่า 25,500 ดวง น้ำพุเริงระบำ และที่สำคัญ มีหิมะตกอีกด้วย...
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ thegrovela.com
9 HYBYCOZO: The Shape of Light
Bank of America Plaza, 333 S. Hope Street, Los Angeles
ระหว่าง 19 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2019
เป็นการจัดแสดงงานศิลปะของศิลปินสองคน คือ Yelena Filipchuk กับ Serge Beaulieu ผลงานศิลปะรูปทรงเรขาคณิตของเขามีขนาดตั้งแต่เจ็ดฟุตจนถึง 12 ฟุต ทุกชิ้นประดับด้วยไฟภายใน สวยงามมากโดยเฉพาะในยามค่ำคืน งานนี้เปิดให้เข้าชมฟรี (ระหว่าง 08.00-23.00 น.)
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ artsbrookfield.com/event/hybycozo/
10 Holiday Light Festival Train Ride
4400 Crystal Springs Drive, Los Angeles
ระหว่าง 23 พฤศจิกายน จนถึง 30 ธันวาคม
เป็นจุดชมไฟที่เด็กๆ ชอบกันมาก เพราะต้องนั่งรถไฟขบวนน้อยๆ ไปรอบๆกริฟฟิธปาร์ค ระยะทางประมาณหนึ่งไมล์เศษๆ โดยมีดวงไฟเล็กๆ นับแสนดวงประดับสวยงามตลอดเส้นทาง...
ที่สำคัญ ค่านั่งรถไฟชมไฟที่นี่ก็แสนถูก คือคนละ 5 ดอลลาร์เท่านั้นเอง...
ดูรายละเอียดที่ griffithparktrainrides.com
12 Trees in the Bay
Alamitos Bay, Long Beach
ระหว่าง 23 พฤศจิกายนถึง 1 มกราคม 2019
การแต่งทุ่นลอยน้ำเป็นรูปต้นคริสต์มาสในอ่าวลามิโตส (Alamitos Bay) เป็นเหมือนประเพณีของเมืองลองบีช เพราะปฏิบัติต่อเนื่องมานานถึง 69 ปี โดยปีนี้ข่าวบอกว่ามีทุ่นคริสมาสมากถึง 67 ทุ่น แต่ละทุ่นประไฟมากกว่าสองร้อยดวง...
แม้จะไม่วิจิตรบรรจงเหมือนจุดชมไฟของที่อื่น แต่ก็เป็นประเพณีที่ชาวลองบีชภาคภูมิใจมาก
ดูรายละเอียดได้จากเฟสบุ๊ก Alamitos Heights Improvement Association
13 Queen Mary Christmas
1126 Queens Highway, Long Beach
ระหว่าง 23 พฤศจิกายน ถึง 6 มกราคม
ที่นี่เป็นจุดชมไฟยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง ไม่เฉพาะชาวแอลเอ หรือลองบีชเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ชมไฟที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาจากทั่วประเทศ เพราะเป็นจุดท่องเที่ยวช่วงฮอลลิเดย์แบบครบวงจร คือนอกจากมีการประดับประดาไฟอย่างวิจิตรบรรจงแล้ว บนเรือควีนแมรี ยังมีลานสเก็ตน้ำแข็ง มีหมู่บ้านขนมปังขิง (gingerbread village) ร้านจำหน่ายของที่ระลึกในธีมคริสต์มาส การแสดงแบบย้อนยุคต่างๆ รวมถึงภัตตาหรูสำหรับดินเนอร์ในบรรยากาศชวนฝันด้วย
แน่นอนว่าหรูซะขนาดนี้ ราคาย่อมไม่ธรรมดา ตรวจสอบกันได้ที่ queenmary.com
14 Lights on Miracle Hill
City Blessing Church of Walnut, 18901 Amar Road, Walnut
เฉพาะวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม เรื่อยไปจนถึง 23 ธันวาคม
เป็นการแสดงไฟคริสต์มาส ที่ระบุว่าใช้ไฟมากกว่าล้านดวง โดยทุกดวงจะกระพริบเป็นจังหวะที่ซิงค์กับเพลง... ชาววอลนัท และเมืองใกล้เคียงไม่ควรพลาด
ดูรายละเอียดได้จากเฟสบุ๊กของโบสถ์ซิตี้ เบลสซิ่ง (City Blessing Church of Walnut)
15 The 98th Annual Christmas Tree Lane Altadena
Santa Rosa Avenue between Woodbury Avenue and Altadena Drive, Altadena
ระหว่าง 8 ธันวาคมถึง 1 มกราคม 2019
แม้การแสดงไฟของเมืองอัลทาดีน่าแห่งนี้จะไม่ยิ่งใหญ่ตระการตามากนักถ้าเทียบกับที่อื่น แต่ที่นี่ก็ได้ชื่อว่าเป็นการจัดแสงไฟคริสต์มาสขนาดใหญ่แห่งแรกของอเมริกา เพราะเริ่มต้นประดับไฟตามต้นสนซีดาร์ริมถนนซานตาโรซ่า มาตั้งแต่ปี 1920 และขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ ตามความร่วมมือจากประชาชนสองฝั่งถนน ต่อมาในปี 1990 ถนนเส้นนี้ได้รับการประกาศให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของชาติ (the National Register of Historic Places) และกลายเป็นแลนด์มาร์คของรัฐแคลิฟอร์เนียมาตั้งแต่นั้น
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ christmastreelane.net