สาระสำคัญของการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของเขาในตำแหน่งหัวหน้าเชอรีฟของ แอลเอ เคาน์ตี้ ก็คือการบอกกล่าวถึง “ผลงาน” ที่ได้ลงมือกระทำไปแล้วตลอดระยะเวลาสี่ปีแรกของการอยู่ในตำแหน่ง โดยที่มีการเน้นย้ำเป็นพิเศษก็คือผลงานเกี่ยวกับสวัสดิภาพของนักโทษในระบบคุกของเคาน์ตี้ ที่ปลอดภัยจากการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ ถึงระดับเป็นที่พอใจของรัฐบาลกลาง
เรื่องเลวร้ายที่เกี่ยวพันกับระบบคุกของเคาน์ตี้ ถือเป็นรอยด่างดวงใหญ่ของสำนักงานเชอรีฟแห่งแอลเอ เคาน์ตี้ เพราะเลวร้ายถึงขนาดทำให้อดีตหัวหน้าเชอรีฟ ลี แบ๊กก้า และรองเบอร์ต้นๆ อีกหลายคน ต้องกลายเป็นนักโทษอาญาข้อหาคอรัปชั่น ถึงขั้นติดคุกติดตะราง หมดอนาคตกันมาแล้ว
กระนั้นก็ตาม เขาบอกว่าระยะเวลาเพียงไม่ถึงสี่ปีของเขา คงไม่สามารถทำให้ความปลี่ยนแปลงปรากฎเห็นชัดเจนจนคนทั่วไปมองเห็นหรือยอมรับได้... เพราะการแก้ไขทั้งระบบที่ได้ลงมือทำไปแล้วนั้น จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบปีจึงจะปรากฎผลให้เห็นได้ชัดเจน...
เขาบอกว่าหลังจากพ้นตำแหน่งไปแล้ว เขายินดีสนับสนุนการทำงานของเชอรีฟคนใหม่ อเล็กซ์ อเล็กซ์ วิลลานเนว่า แต่ขณะเดียวกันหากมีอะไรที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ เขาก็จะ “ไม่ยั้ง” เหมือนกัน
“ขณะที่กำลังรู้สึกผิดหวัง ผมก็รู้สึกว่าได้รับความรักแบบมหาศาลไปพร้อมกัน” เชอรีฟขวัญใจชุมชนไทยในแอลเอ กล่าว “สำหรับเวลา 38 ปีที่ผ่านมา ผมได้ใช้ชีวิตอยู่ในความฝัน ผมมีโอกาสเป็นส่วนร่วม เป็นผู้เล่นในเวทีผู้รักษากฎหมายที่ดีที่สุดของอเมริกา ถ้าไม่ใช่ของโลก ผมมีโอกาสเป็นผู้นำของสามหน่วยงาน ทั้งสำนักงานตำรวจของเมืองลอส แอนเจลิส, สำนักงานตำรวจของเมืองลองบีช และที่จะทำหน้าที่เป็นวันสุดท้ายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ คือสำนักงานเชฟรีฟของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้”
จิม แม็คโดนัลด์ บอกต่อไปว่า การพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าเชอรีฟ ที่มีกำลังพลในอาณัติมากที่สุดในอเมริกานั้น เขาไม่ได้รู้ว่าคือ “บทจบ” ของเขา แต่เขาจะยังคง “แอ๊คทีฟ” อยู่ในวงการผู้รักษากฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จิม แม็คโดนนัลด์ ได้แถลงยอมรับการพ่ายแพ้การลือกตั้ง และแสดงความยินดีกับชัยชนะของ อเล็กซ์ อเล็กซ์ วิลลานเนว่า เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน หลังจากที่ผลการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์และบัตรที่มีปัญหาต่างๆ ปรากฎชัดเจนว่าเขามีคะแนนตามหลังคู่แข่ง ซึ่งเป็นอดีตเชอรีฟยศ “ลูเทนเนนท์” อยู่เกือบ 126,000 เสียง และมีบัตรรอการนับอยู่อีกเพียงไม่ถึง 100,000 ใบเท่านั้น
เขาบอกว่าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักประวัติศาสตร์ในการวิเคราะห์วิจัยว่า เหตุใดเขาจึงพ่ายแพ้การเลือกตั้ง และกลายเป็นหัวหน้าเชอรีฟคนแรกในประวัติศาสตร์กว่าร้อยปีของ ลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง
แต่ในความเห็นของเขา ความผิดพลาดน่าจะมาจากแคมเปญหาเสียง ที่ไม่สามารถถ่ายทอดสาระเกี่ยวกับควาสำเร็จ รวมถึงผลงานที่เกิดขึ้นในระหว่างอยู่ตำแหน่งออกไปยังประชาชนได้มากพอ
“สิ่งที่เราสามารถทำได้ดีกว่านั้น ถ้าทำได้ก็คือจะต้องมีเครื่องมือที่ดีกว่า ในการแบ่งปันความสำเร็จที่มีมากมายมหาศาลขององค์กรเรา ในรอบสี่ปีที่ผ่านมาให้มากขึ้น”
จิม แม็คโดนนัลด์ กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา มี “การเมือง” เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมาก ทั้งที่เป็นการเลือกตั้งในตำแหน่งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง รวมถึงกล่าวเตือนว่าที่เชอรีฟคนใหม่ที่กำลังจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยว่า ไม่ควรจะผูกพันตัวเองกับพรรคใดพรรคหนึ่ง
“ผมมีความเชื่อมั่นว่า ใครก็ตามที่เข้ามาดูแลองค์กรเชอรีฟที่มีกำลังพลมากที่สุดในประเทศ ควรเป็นคนที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด” จิม แม็คโดนัลด์ กล่าว “เราไม่ควรผูกมัดตัวเองกับพรรคใด เราอยู่ที่นี่เพื่อคนทุกคน เพื่อสิ่งเดียวคือความปลอดภัยของสาธารณชน”
ทั้งนี้ อเล็กซ์ อเล็กซ์ วิลลานเนว่า จะเข้าพิธีสาบานตัวเพื่อรับตำแหน่งเป็นหัวหน้าเชอรีฟของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ คนใหม่อย่างเป็นทางการ ในวันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม นี้...
ล้อมกรอบ :
จิม แม็คโดนนัลด์ พูดถึงชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส
ระหว่างมาพบปะชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส ที่จัดขึ้นในลักษณะ “ทาวน์ฮอลล์ มีทติ้ง” ณ ไทยแลนด์พลาซ่า ถนนฮอลลีวูด เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2018 หรือไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2018 เชอรีฟ จิม แม็คโดนัลด์ ได้ให้สัมภาษณ์สยามทาวน์ยูเอส ถึงเรื่องราวต่างๆ หลายเรื่อง
รวมถึงได้ฝาก “ความปรารถนาดี” ถึงชุมชนไทยในเมืองแอลเอ โดยตรงด้วย
“ขอขอบคุณ ขอบคุณสำหรับการเป็นเพื่อน ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณทำ ไม่ใช่แค่ในระยะสี่ปีที่ผมอยู่ในตำแหน่งเชอรีฟ แต่สำหรับความเป็นมิตรที่มีให้กันตลอดหลายๆ ปีก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ผมอยู่กับแอลเอพีดี และลองบีช พีดี ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้านทุกครั้งที่อยู่ร่วมกับชุมชนไทย รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางเพื่อน และคนที่พร้อมจะทำงานไปด้วยกัน เพื่อทำให้ชุมชนของเราปลอดภัยขึ้น ดีขึ้นสำหรับลูกหลานของเราที่จะตามมา และอยากจะทำงานต่อไปอีกสี่ปีในการทำงานกับพวกคุณ และรับใช้พวกคุณในฐานะเชอรีฟครับ”