แอลเอ ได้เชอรีฟคนใหม่ (ค่อนข้างแน่)

อเล็กซ์ วิลลานเนว่า เจ้าหน้าเชอรีฟที่เกษียณอายุแล้ว กำลังจะกลับมาเป็นหัวหน้าเชอรีฟ ของสำนักงานเชอรีฟแห่งแอลเอ เคาน์ตี้ อันเป็นตำแหน่งที่มีกำลังพลใต้บังคับบัญชามากถึง 18,000 คน หรือมากที่สุดในประเทศ แทน จิม แม็คโดนนัลด์ หัวหน้าเชอรีฟคนปัจจุบัน

ทั้งนี้เป็นเพราะการนับคะแนนเลือกตั้งที่มีการแถลงออกมาล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 20 พฤศจิกายนนั้น ระบุว่า อเล็กซ์ วิลลานเนว่า มีคะแนน,193,670  เสียง หรือมากกว่าขณะ จิม แม็คโดนนัลด์ เกือบ 87,000 เสียง เพราะ จิม แม็คโดนนัลด์ มีคะแนน 1,106,750 เสียงเท่านั้น

ข่าวบอกว่ายังคงมีบัตรคะแนนที่รอการรับอีกอีกมากถึง 261,000 ใบ แต่ อเล็กซ์ วิลลานเนว่า ก็ได้ประกาศชัยชนะเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่จิม แม็คโดนัลด์ ยังไม่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้แต่อย่างใด.

ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะสามารถประกาศผลการเลือกตั้งที่มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน  อย่างเป็นทางการได้เมื่อไหร่ แต่คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณสองสัปดาห์เป็นอย่างน้อย.

ควันจากไฟป่า ปกคลุมทั่วแคลิฟอร์เนีย

กระแสลมได้พัดควันจากไฟป่า ที่กำลังโหมไหม้อย่างหนักในแคลิฟอร์เนีย ทั้งตอนเหนือและใต้ ให้กระจายไปทั่วทั้งรัฐ รวมถึงเมืองซาคราเมนโต้ (ดังภาพ) ทำให้คุณภาพของอากาศทั่วทั้งรัฐ อยู่ในเกณฑ์ต่ำ และเป็นอันตรายต่อประชาชน

ทั้งนี้ สำนักงานเขตควบคุมคุณภาพอากาศ ได้ออกคำแนะนำประชาชนทั้งในแอลเอ เคาน์ตี้และออเรนจ์ เคาน์ตี้ เกี่ยวกับอันตรายที่อาจจะได้รับจากสภาพอากาศที่เป็นพิษจากควันไฟ และสารเคมีที่เกิดจากการเผาไหม้ของบ้านเรือน หรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือน โดยเน้นไปที่กลุ่มเสี่ยง (sensitive group) เช่น ผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคปอด และหัวใจ โดยให้อยู่แต่ในบ้าน หรือหากยังคงได้กลิ่นควัน ให้หาที่พักชั่วคราวที่ปลอดภัย ซึ่งคำแนะนำอันตรายดังกล่าวมีผลจนถึงวันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ไฟป่าทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ที่เรียกว่า แคมป์ไฟร์ เผาไหม้พื้นที่ไปแล้วมากถึง 151,000 เอเคอร์ เผาผลาญบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างไปแล้วถึง 13,000 หลัง รวมถึงบ้านเรือนเกือบทุกหลังในเมืองพาราไดซ์ โดยตัวเลข ณ วันที่ 20 พฤศจิกายนนั้น พบผู้เสียชีวิตแล้ว 79 คน ขณะที่ตัวเลขผู้สูญหายยังมีอีกร่วมร้อยคน โดยในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์

ส่วนไฟป่าทางตอนใต้ของรับแคลิฟอร์เนีย ชื่อว่าวูลซี่ไฟร์ ที่โหมไหม้อยู่ในเวนทูร่า เคาน์ตี้ และบางส่วนของแอลเอ เคาน์ตี้ นั้น เผาหลายพื้นที่ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 97,000 เอเคอร์ แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วถึง 96 เปอร์เซ็นต์ (เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน)

โดยไฟป่าทั้งสองจุด เกิดขึ้นพร้อมกันเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา.

วัยรุ่นติดคุกยาว ใช้ ‘ปืนยิงสี’ แกล้งคน

กลุ่มวัยรุ่นในลอส แอนเจลิส สามคน ประกอบด้วย ไทเลอร์ วอลเตอร์ วัย 20 จากเมืองทอร์แรนซ์ (ซ้าย) ลีน จอห์นสัน วัย 20 จากฮอว์ทรอน (กลาง) และกาเบรียลล่า ซีมาน่า วัย 18 จากโลมิทต้า ซึ่งตระเวนขับรถ และใช้ปืนยิงสี หรือ paintball gun ยิงใส่เหยื่ออย่างน้อยสองคนในเมืองทอร์แรนซ์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ไม่ปฏิเสธขอสู้คดี (pleaded no contest) ในคดีอาญาที่ได้รับจากพฤติกรรมดังกล่าว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผลจากการยิงเหยื่อที่เดินอยู่ริมถนนดังกล่าว ทำให้เหยื่อรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่ตาและไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ข่าวไม่ได้ระบุว่าเป็นการมองไม่เห็นชั่วคราว หรือตาบอดถาวร

โดยทั้งสามถูกตั้งข้อหาที่รุนแรงแตกต่างกันไป เช่น ไทเลอร์ วอลเตอร์ ซึ่งยอมรับว่าเป็นคนลงมือยิงเหยื่อสองราย ถูกตั้งข้อหาอาญาหนึ่งกระทงว่าด้วยการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธร้ายแรง (deadly weapon) และข้อหาที่เรียกว่า mayhem ซึ่งในแคลิฟอร์เนียหมายถึงการก่อการวุ่นวายใดๆ ที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บถึงขั้นไม่สามารถใช้อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งแบบถาวร หรือผิดรูปร่างแบบถาวร ซึ่งเป็นข้อหาอาญาเช่นกัน ส่วน ลีน จอห์นสัน ถูกตั้งข้อหา mayhem และ กาเบียลล่า ซีมาน่า ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธร้ายแรง

ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งสามถูกพิพากษาโทษ โดยศาลตัดสินให้ ไทเลอร์ วอลเตอร์ ติดคุกหกปี, ลีน จอห์นสัน ติดคุกสี่ปี ส่วนกาเบรียลล่า ซีมาน่า ติดคุกหกเดือน และต้องทัณฑ์บนต่อไปอีกสามปี.

หนุ่มนัดเดทสาว “กินแล้วชิ่ง” เจอคุก

ข่าววันที่ 20 พฤศจิกายน 2018 สำนักงานอัยการของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ แถลงว่า พอล กัวดาลูเป้ กอนซาเลส หนุ่มวัย 45 ซึ่งได้รับฉายาว่า dine-and-dash-dater (คู่เดทที่กินแล้วชิ่ง) ไม่ขอสู้คดี (pleaded no contest) ในคดีลหุโทษว่าด้วยการลักเล็กขโมยน้อย (petty theft) สามกระทง อันเป็นความผิดที่เขาก่อโดยการนัดผู้หญิงออกไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารหรูในเมืองพาซาดีน่า เมื่ออิ่มแล้วก็หลบหนี ปล่อยให้ฝ่ายหญิงต้องรับภาระค่าอาหาร

สำนักงานอัยการของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ แถลงว่าผู้ต้องหานิสัยไม่ดีคนนี้ ก่อคดีหลายต่อหลายครั้ง ในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม 2016 ถึงเดือนเมษายน 2018 โดยเลือกเหยื่อผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ และเว็บไซต์หาคู่หลายแห่ง เช่น Plenty of Fish และ Bumble เป็นต้น โดยบางรายเหยื่อไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร และทางร้านต้องรับภาระเอง โดยร้านอาหารแห่งหนึ่งในพาซาดีน่า ต้อบรับภาระเรื่องนี้ถึงสองครั้ง

ทั้งนี้ สำนักงานอัยการ เตรียมเสนอโทษให้กับ พอล กัวดาลูเป้ กอนซาเลส เป็นโทษจำคุก 120 วัน, ภาคทัณฑ์ 3 ปี และต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับเหยื่อ นอกจากนี้ ยังถูกห้ามใช้แอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์หาคู่ที่เคยใช้ และห้ามเข้าใกล้ร้านอาหารห้าแห่ง รวมถึงต้องยอมให้มีการตรวจ หรือยึดอุปกรณ์อิเล็คโทรนิกได้ตลอดเวลาด้วย

ทั้งนี้ “คู่เดทที่กินแล้วชิ่ง” รายนี้ มีกำหนดขึ้นศาลเพื่อรับฟังคำพิพากษาดังกล่าวในวันที่ 14 มกราคม ศกหน้า.