เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2018 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ ได้แถลงถึงการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของประเทศแคนาดา เพื่อยุติการแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไลในผักกาดโรเมน ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยแล้วถึง 32 รายใน 11 รัฐ รวมถึงแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีผู้ป่วยมากถึง 10 ราย และอีก 18 รายในออนทาริโอ และควิแบ๊ก ของแคนาดา และว่าเชื้ออีโคไลที่กำลังระบาดนี้ เป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างจากเชื้ออีโคไลที่ระบาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่คล้ายกับสายพันธุ์ที่ระบาดเมื่อปีที่แล้ว โดยการระบาดใหญ่ทั้งสามครั้งดังกล่าว มีใบผักกาดโรเมนเป็นสื่อกลางทุกครั้ง
ทั้งนี้ ผักกาดโรเมน เป็นผักที่นิยมกินเป็นผักสด จึงมีอันตรายอย่างมาก เพราะเชื้ออีโคไล ไม่สามารถกำจัดได้จากการล้างน้ำสะอาด ไม่ว่าจะล้างหลายๆ ครั้งก็ตาม
สำนักงานอาหารและยาฯ บอกด้วยว่าขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าผักกาดโรเมนที่มีปัญหามีต้นตอจากที่ไหน จึงไม่สามารถออกประกาศเรียกคืน (recall) ได้ ดังนั้นจึงได้แต่ออกประกาศเตือนผู้บริโภคให้ละเว้นการกินผักกาดชนิดนี้เป็นการชั่วคราว รวมถึงขอความร่วมมือไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารทั่วไปว่าให้หยุดขาย หรือใช้ผักกาดโรเมนในร้านอาหารเป็นการชั่วคราว อย่างน้อยก็จนว่าทางเจ้าหน้าที่จะสามารถระบุได้ว่าที่มาของผักกาดปนเปื้อนเชื้อโรคอันตรายดังกล่าวนี้ได้
ทั้งนี้ ผู้ป่วยเพราะเชื้ออีโคไล รายสุดท้ายในอเมริกา พบเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ส่วนผู้ป่วยในแคนาดานั้น รายล่าสุดพบเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน
ข่าวบอกด้วยว่า ท่าทีของสำนักงานอาหารและยาฯ ดังกล่าวนี้ เป็นไปอย่างเร่งรีบ เพราะเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันจะถึงวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งถือเป็นวันสำคัญที่ครอบครัวจะรับประทานอาหาร “มื้อใหญ่” ร่วมกัน ซึ่งจะทำเชื้อโรคร้าย มีโอกาสแพร่ระบาดได้ในวงกว้างมากขึ้น
ส่วนในประเทศแคนาดานั้น ข่าวบอกว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ออกประกาศเตือนอันตรายประชาชนที่มีเนื้อหาคล้ายๆ กัน ในพื้นที่ที่พบว่ามีผู้ป่วยจากเชื้ออีโคไล ซึ่งจนถึงขณะนี้ พบว่ามีเพียงสองพื้นที่เท่านั้น คือที่ออนทาริโอ้ และควิแบ๊ก เท่านั้น
แม้การแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไลในผักกาดโรเมนครั้งล่าสุดนี้ จะยังไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ก็ทำให้ผู้ป่วยถึง 13 คนในอเมริกา และอีก 6 คนในแคนาดา มีอาการป่วยหนักถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ผักกาดโรแมนที่จำหน่ายในช่วงนี้ของปีเกือบทั้งหมด จะมาจากแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ผักที่ปนเปื้อนเชื้ออีโลไล ที่เป็นเหตุให้มีผู้ป่วยประมาณ 200 คนและเสียชีวิตถึง 5 คนเมื่อต้นปีที่ผ่านมานั้น มาจากแหล่งเพาะปลูกในยูม่า รัฐอริโซน่า โดยเชื้อโรคมาจากน้ำที่ใช้รดผัก
เชื้ออีโคไล เป็นแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปในลำไส้ของสัตว์เลือดอุ่น รวมถึงมนุษย์ สายพันธุ์ส่วนใหญ่ไม่มีอันตราย มีเพียงบางสายพันธุ์เท่านั้นที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วย และภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ผู้ติดเชื้อดังกล่าว จะมีอาการปวดท้องรุนแรง ถึงขั้นเป็นตะคริว, ท้องร่วงและอาเจียร ส่วนใหญ่แล้วอาการเหล่านี้จะหายเองในเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่ในบางรายอาการเหล่านี้จะหายช้า หรืออาจจะรุนแรงมากถึงขึ้นทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้
นอกจากออกประกาศเตือนให้ประชาชนละเว้นการรับประทานผักกาดโรเมนแล้ว สำนักงานอาหารและยาฯ ยังเตือนให้ประชาชนปรุงไก่งวง สำหรับเป็นอาหารในวันขอบคุณพระเจ้าให้สุกด้วย เพราะมีการระบาดของเชื้อ ซัลโมนีล่า ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อไก่งวงด้วย โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทฮอร์เมล (Hormel) ได้เรียกคืนไก่งวงบดยี่ห้อ เจนนี่ โอ (Jennie-O) เพราะเชื่อว่าปนเปื้อนเชื้อซัลโมนีล่า และทำให้มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง แต่ข่าวไม่เปิดเผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน.