เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจเมืองแวนทูร่า ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระวังการหลอกลวงรับบริจาคเงินไปช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากไฟป่าวูสลีย์ (Woosley fire) ที่เผาผลาญพื้นที่ในลอส แอนเจลิส และเวนทูร่า เคาน์ตี้ มากกว่า 150 ตารางไมล์ ทำลายบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มากกว่า 480 หลัง และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อยสามราย
ประกาศเตือนประชาชนของสำนักงานตำรวจเมืองแวนทูร่า บอกว่าภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้มีหน่วยงานการกุศลเป็นจำนวนมาก ยื่นมือเข้ามาเป็นตัวกลางในการรับบริจาคเงินและสิ่งของต่างๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย รวมถึงมีการเปิดเพจรับบริจาคบนเว็บไซต์ GoFundMe เป็นจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนเป็นการรับบริจาคที่ “ไม่ชอบมาพากล”
พร้อมกันนี้ ทางสำนักงานตำรวจ ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้หลายประการ เช่นให้เลือกบริจาคกับองค์กรที่เป็นที่รู้จักและไว้ใจได้, หลีกเลี่ยงองค์กรที่เพิ่งเปิดขึ้นมาหลังเกิดเหตุการณ์ไฟป่า, อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลทางการเงิน เช่นเลขบัตรเครดิต บัญชีธนาคาร ฯลฯ จนกว่าจะแน่ใจว่าเป็นองค์กรการกุศลที่ไว้ใจได้จริงๆ, ห้ามบริจาคเป็นเงินสด, ระมัดะวังเป็นพิเศษกับองค์กรที่ใช้วิธีสุ่มโทรศัพท์ไปขอรับบริจาค หรือส่งอีเมล์พร้อมลิงค์สำหรับบริจาค ฯลฯ
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อองค์กรการกุศลที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องได้จากเว็บไซต์ของหน่วยงาน the Better Business Bureau’s Wise Giving Alliance ที่หมายเลขโทรศัทพ์ 703-276-0100 หรือที่เว็บไซต์ www.give.org.
พร้อมกันนี้ ทางสำนักงานตำรวจ ได้เตือนประชาชนให้ระวังการหลอกลวงทางโทรศัพท์ หรือ phone scams ที่ระบาดอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยบอกว่ามีอยู่ด้วยกัน 6 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1 IRS Scam (หลอกลวงว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร) ที่นักต้มตุ๋นจะโทรมาข่มขู่เหยื่อว่าติดค้างภาษี และกำลังจะพาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมหากไม่จ่ายเงิน (ทางโทรศัพท์) ทันที
2 Edison/Gas Scam (หลวงลวงว่าค้างค่าไฟฟ้าหรือค่าแก๊ส) โดยนักตุ๋นจะอ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทเอดิสัน และข่มขู่เหยื่อว่าไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้าหรือค่าแก๊สมานาน หากไม่จ่ายเงิน (ทางโทรศัพท์) ก็จะทำการตัดไฟฟ้าหรือตัดแก๊สทันที ซึ่งการหลอกลวงแบบนี้ ส่วนใหญ่จะใช้ได้ผลกับธุรกิจร้านอาหารของชาวต่างชาติ
3 Jury Duty Scam (หลอกลวงว่าไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกเป็นลูกขุน) โดยนักตุ๋นจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกร้องเงินค่าปรับฐานไม่เป็นลูกขุนตามหมายเรียก (jury duty) หากไม่ยินยอมจ่ายเงินทันที (ทางโทรศัพท์) จะมีโทษจำคุก
4 ‘Can you hear’ me Scam (หลอกให้พูด “เยส”) โดยนักตุ๋นจะสุ่มโทรหาเหยื่อ โดยแกล้งถามซ้ำๆ ว่า “คุณได้ยินไหม” พร้อมกับบันทึกเสียงบทสนทนาเอาไว้ เมื่อเหยื่อตอบรับก็จะมีการบันทึกเสียงไว้ และใช้คำตอบรับ (yes) ดัวกล่าวในการคิดเงินจากเหยื่อ อาจจะเป็นค่าน้ำค่าไฟ (utility) หรือบัตรเครดิตคาร์ดก็ได้
5 Text Message Phishing Scam (หลอกลวงโดยเท็กซ์) ถือเป็นการต้มตุ๋นที่น่าระวังที่สุด โดยนักตุ๋นจะส่งข้อความสั้น (text essage) ไปหาเหยื่อ อ้างว่าเป็นฝ่ายป้องกันการฉ้อโกงของธนาคาร เพื่อเตือนว่ามีการใช้บัตรเดบิทของลูกค้า หากลูกค้าไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตรเดบิทดังกล่าว ให้ติดต่อกับธนาคารตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุเอาไว้ ซึ่งหากเหยื่อหลงเชื่อและโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่ระบุ นักตุ๋นที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารก็จะหลอกถามข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร ซึ่งจะทำให้นักตุ๋นสามารถถอนเงินออกจากบัญชีของเหยื่อได้อย่างง่ายดายในภายหลัง
6 Grandparent Scam (ต้มตุ๋นคนแก่) วิธีนี้ นักตุ๋นจะอ้างตัวว่าเจ้าหน้าที่ของคุก โทรศัพท์หาผู้สูงอายุเพื่อบอกว่าลูกหลานกำลังติดคุกอยู่ที่ต่างรัฐหรือต่างประเทศ ต้องการเงินสำหรับการประกันตัวโดยเร่งด่วน
โดยทางสำนักงานตำรวจเมืองแวนทูร่าย้ำว่า ไม่ควรที่จะให้ข้อมูลทางการเงินกับใครทางโทรศัพท์โดยเด็ดขาด หากประสบกับตัวเองหรือสงสัยว่ากำลังถูกหลอกหลวงให้แจ้งคณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐฯ (the Federal Trade Commission) ที่หมายเลข 877-FTC-HELP หรือเว็บไซต์ ftc.gov/complaint หรือสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีแวนทูร่า ได้ที่หมายเลข 805-339-4400.
เกี่ยวกับเรื่องนี้ สยามทาวน์ยูเอส เคยได้รับการบอกเล่าประสบการณ์จากผู้อ่านหลายราย เช่นเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านนอร์ธ ฮอลลีวูด ที่หลงเชื่อกลลวงเรื่องค้างค่าไฟฟ้า จนเสียเงินไปเกือบหนึ่งพันดอลลาร์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา
“คือผมไม่ได้เป็นคนจ่ายบิลในร้านเอง ก็เลยตกใจ มันโทรมาขู่เอาๆ จะตัดไฟเดี๋ยวนี้แล้ว ลูกค้าก็เต็มร้าน เอาไงดี ก็เลยให้บัตรเครดิตมันไป มารู้ทีหลังว่าเอดิสันไม่เคยโทรทวงหนี้ ถ้าติดค่าไฟจริงจะส่งจดหมายมาทวง”
เหยื่อนักตุ๋นรายนี้บอกด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฟังดูว่าเป็นเรื่องโง่ๆ แต่ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันจากคำข่มขู่ต่างๆ ทำให้ตนหลงเชื่อ และต้องเสียเงินไปแบบไม่น่าเชื่อ
ผู้อ่านรายเดียวกันยังได้เล่าถึง “กลโกงทางเฟสบุ๊ก” ที่ตนประสบมาเมื่อไม่นานมานี้ด้วย โดยบอกว่าเคยเกิดขึ้นสองกรณี กรณีแรกเพื่อนบนเฟสบุ๊ก ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางและมีชื่อเสียงในลอส แอนเจลิส ส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือ บอกว่าถูกล้วงกระเป๋าที่ปารีส
“โป๊ะแตกเพราะว่าพอเราถามไปเป็นภาษาไทยว่าไปปารีสตั้งกะเมื่อไหร่ เมื่อวานยังมายังกินข้าวที่ร้าน มันก็ตอบไม่ได้ คงอ่านภาษาไทยไม่ได้” ผู้อ่านสยามทาวน์ฯ เล่า
ส่วนกรณีที่สอง ผู้อ่านสยามทาวน์ฯ เล่าว่าตนถูกแอบอ้างชื่อเสียเอง โดยนักตุ๋นซึ่งเป็นคนไทย ได้เปิดบัญชีเฟสบุ๊กในชื่อของเขา อีกทั้งได้นำรูปของตนเองไปใช้ด้วย
“มันเอารูปของผมไปเปิดเฟสบุ๊กใหม่ ชื่อผมนี่แหละ แล้วก็ไล่ขอแอดเฟรนส์กับเพื่อนๆ ของผม ก็มีเพื่อนที่เมืองไทยกดรับสองสามคน มันก็บอกทุกคนเลยว่าผมกำลังจะถึงเมืองไทย ไม่ได้แลกเงินหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ จี้ให้เพื่อนผมไปโอนเงินให้ด่วนเลยที่เซเว่นฯ ไม่เยอะหรอก พันเดียวหรือไงนี่แหละ แต่เร่งชนิดไม่ต้องอาบน้ำนะ ไปทั้งชุดนอนเลย อะไรแบบนี้ เพื่อนมันก็ชักเอะใจ ถามว่า ‘แล้วลูกชายมาด้วยไหม’ มันตอบว่าไม่มา มาคนเดียว ก็เลยรู้ว่าโดนแล้ว เพราะผมไม่มีลูกชาย” ผู้อ่านสยามทาวน์ฯ เล่า.