ข่าวคนไทยในอเมริกา
บทความหน้าสาม : กฎหมาย “กัญชา” ในอเมริกา





ขณะนี้ เมืองไทยของเรากำลังตื่นตัวกับข่าว “กัญชาทางการแพทย์” ที่รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข กำลังจะประกาศให้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย

ถือว่าเป็นไปตามกระแสโลก ที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์จาก ‘กัญชา’ พืชที่เคยถูกรังเกียจเดียจฉันท์ว่ามีค่าเพียงยาเสพติดให้โทษเท่านั้น

ปัจจุบันมีอย่างน้อย 33 ประเทศที่อนุญาตให้มีการใช้ประโยชน์จากกัญชาในด้านการแพทย์ โดยจะมีรายละเอียดแตกต่างกันตามแต่ละประเทศ เช่น ฟินแลนด์ เยอรมนี สหราชอาณาจักร จะอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากรัฐ มีใบรับรองแพทย์ หรือใบสั่งยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย บางประเทศ เช่น จาเมกา ศรีลังกา จะต้องซื้อกัญชาจากร้านจ่ายยาของรัฐ หรือในบางประเทศ เช่น ไซปรัส จะอนุญาตให้ใช้กัญชารักษาอาการเจ็บป่วยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งเท่านั้น

บางประเทศ การครอบครองและบริโภคกัญชาถือเป็นสิ่งถูกกฎหมาย แต่ห้ามซื้อขาย เช่น จอร์เจียและแอฟริกาใต้ หรือบางประเทศอย่างสเปนก็มีข้อห้ามบริโภคกัญชาในพื้นที่สาธารณะ บางประเทศต้องซื้อจากตัวแทนจำหน่ายของรัฐเท่านั้น และไม่จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น อุรุกวัย
 
ในสหรัฐอเมริกานั้น ภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลาง ( Federal law) เรียกว่า The Controlled Substances Act (CSA) ที่ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ลงนามให้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 1970 ยังคงถือว่ากัญชาเป็นสิ่งเสพติดผิดกฎหมาย ผิดทั้งการใช้ การครอบครอง การซื้อขาย ขนส่ง หรือการผลิต แต่ภายใต้กฎหมายระดับรัฐ (State Law) นั้น แต่ละรัฐในอเมริกา ต่างก็มีกฎหมาย หรือกฎระเบียบว่าด้วยการใช้กัญชาเป็นของตัวเอง โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องสอดคล้องกับกฎหมายหลักของประเทศเสมอไป

ปัจจุบันมี 33 รัฐทั่วประเทศ รวมถึง ดีซี และดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐฯ อย่างหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา เปอร์โตริโก และกวม อนุญาตให้ใช้กัญชาในเชิงการแพทย์ได้

ขณะที่อีก 10 รัฐ อนุญาตให้มีการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ คือ อลาสก้า, แคลิฟอร์เนีย, โคโลราด้, เมน, แมสซาชูเส็ทท์, มิชิแกน, เนวาด้า, โอเรก้อน, เวอร์มอสท์ และวอชิงตัน รวมถึง ดีซี และหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา

14 รัฐ อนุญาตให้ใช้มีการใช้สินค้าที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม แต่ยังไม่อนุญาตให้มีการใช้กัญชาจริงๆ

มีเพียง 3 รัฐที่ยังไม่อนุญาตให้มีการใช้กัญชาโดยสิ้นเชิง (Prohibited for any use)  คือไอดาโฮ่, เนบราสก้า และเซาท์ ดาโกต้า และอีกสองเขตปกครองคืออเมริกันซามัว และยูเอสเวอร์จินไอสแลนด์

ที่น่าสนใจอีกประการก็คือ ในหลายๆ รัฐ เช่น คอนเน็กติกัต, เดลาแวร์, นอร์ธ คาโรไลน่า, มิสซูรี, มินิโซต้า, นิวยอร์ค, นิวแฮมเชียร์ รวมถึงรัฐที่ยังไม่อนุญาตให้มีการใช้กัญชาโดยสิ้นเชิง อย่างเนบราสก้า ได้ปรับความผิดเกี่ยวกับกัญชา จากคดีอาญาเป็นความผิดลหุโทษเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นรัฐแมรีแลนด์ ซึ่งยังไม่อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการ หากถูกจับกุมพร้อมกัญชาไม่ถึงสิบกรัม จะถูกปรับเพียงแค่ 100 ดอลลาร์เท่านั้น

ความลักลั่นระหว่างกฎหมายของรัฐบาลกลาง ที่เป็นเหมือนกฎหมายแม่บทของประเทศ กับกฎหมายระดับรัฐดังกล่าวนี้ ทำให้คองเกรสพยายามเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมาย CAS มาตั้งแต่ปี 2014 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แม้ทั้งสองพรรคใหญ่จะเห็นพ้องต้องกันในประเด็นนี้ก็ตาม (ข่าวบอกว่าเป็นเพราะเหตุผลเกี่ยวกับงประมาณ) ดังนั้นจึงมีบันทึกข้อตกลง (resolution) ให้ใช้ amendment หรือข้อแก้ไขเพิ่มเติมในกฎหมายตัวหนึ่ง เรียกว่า the Rohrabacher-Blumenauer Amendment ห้ามไม่ให้รัฐบาลกลาง โดยกระทรวงยุติรรม บังคับใช้กฎหมาย CAS ในระดับรัฐออกมาใช้ เพื่อให้ “กระแสกัญชา” ในอเมริกา สามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่มีอุปสรรค

โดย amendment นี้เป็นกฎหมายชั่วคราว และเพิ่งได้รับการต่ออายุ (เป็นครั้งที่แปด) โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

แม้ว่ากัญชาจะยังเป็น “ยาเสพติด” ตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง แต่คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (USFDA) ก็ยอมรับยาที่มีส่วนผสมของกัญชา (cannabinoid) หลายตัว เช่น Marinol, Syndros, Cesamet และ Epidiolex โดยยาเหล่านี้มีสรรพคุณในเชิงบรรเทาปวด คลายเครียด และรักษาอาการอักเสบต่างๆ

ปัจจุบันมีเพียง 2 ประเทศในโลกเท่านั้นคืออุรุกวัยและแคนาดาที่รัฐบาลอนุญาตให้มีการใช้กัญชาได้อย่างเสรีทั้งในเชิงการแพทย์และสันทนาการ อนุญาตให้มีการจำหน่าย ครอบครอง เคลื่อนย้าย และเก็บเกี่ยวกัญชาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบทั่วทั้งประเทศ โดยเม็กซิโกเตรียมเล็งเป็นประเทศที่ 3 ที่จะผลักดันการประกาศใช้กฎหมายนี้

ประเทศไทย กำลังจะเป็นประเทศล่าสุดที่อนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์ โดยข่าวบอกว่าจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป กล่าวคือกฎหมายฉบับนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิด (ของกระทรวงสาธารณสุข) เป็นระยะเวลา 5 ปี และจะมีการทบทวนกฎหมายฉบับนี้หลังจาก 5 ปีผ่านไปว่าจะมีการปรับปรุง เพิ่มหรือลดส่วนใดหรือไม่.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
24-04-2024 จับ (ซะที) สามโจรทุบร้านไทยและ ฯลฯ กว่า 130 แห่งในแคลิฟอร์เนีย (0/22)   
23-04-2024 เตรียมปรับผังแอลเอเอ็กซ์ครั้งใหญ่ รับ “บอลโลก-โอลิมปิก (0/56)   
22-04-2024 จับโจร “งัดแมนชั่น” นายกเทศมนตรีเมืองแอลเอ (0/155) 
19-04-2024 เอาให้ชัด! ฟาสต์ฟู้ดแคลิฟอร์เนียแพงขึ้นเท่าไหร่ หลังปรับค่าแรง 20 เหรียญ (0/230) 
17-04-2024 รายได้เท่าไหร่ ถึงจะอยู่แบบ “สบายๆ” ในแคลิฟอร์เนีย (0/260) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข