เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยการประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ที่สำนักหอสมุดแห่งชาติ ถึงความคืบหน้าในการทวงคืนทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว จากสหรัฐอเมริกาว่า ขณะนี้สำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigator หรือ HSI) ได้ตั้งอัยการขึ้นมาต่อสู้เรื่องนี้ เพราะทางพิพิธภัณฑ์ผู้ครอบครองโบราณวัตถุก็ตั้งอัยการสู้ โดยขอให้ไทยส่งหลักฐานเพิ่มเติม 4 ข้อ
โดยหลักฐานที่สหรัฐฯ ขอมานั้น อธิบดีกรมศิลปากรกล่าวว่าประกอบด้วย 1.ให้จัดทำหนังสือแจ้งว่าราชอาณาจักรไทยมีความพยายามอย่างจริงจังที่จะทวงคืน ซึ่งเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการติดตามทวงคืนขึ้นมา 2.ให้วิเคราะห์เนื้อหินในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยกรมศิลปากรได้นำตัวอย่างหินจากปราสาทหนองหงส์ และปราสาทเขาโล้นเพื่อรายงานผลต่อไป 3.นอกจากพยานหลักฐานภาพถ่ายแล้ว ให้จัดหาพยานบุคคลที่เคยเห็นทับหลังทั้งสองชิ้น ซึ่งตนสั่งการสำนักศิลปากรที่ 5 และสำนักศิลปากรที่ 10 ลงพื้นที่สัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านเพื่อหาพยานบุคคลยืนยัน และ 4.ให้จัดส่งเอกสารแจ้งการครอบครองโบราณวัตถุ ต้องป้อนข้อมูลให้ครบ
“ทั้งนี้ การต่อสู้เป็นเรื่องปกติ เพราะทางสหรัฐเองก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นของไทยจริงหรือไม่ ซึ่งทั้งทับหลังปราสาทหนองหงส์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น ค่อนข้างชัดเจน โดยกรมศิลปากรจะทำหน้าที่ยืนยันไปว่าทับหลัง 2 ชิ้นนี้ มีแหล่งกำเนิดในไทย และนำออกนอกประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนจะได้คืนเมื่อไรนั้น คงไม่สามารถบอกได้” นายอนันต์ กล่าว
ข่าวเรื่องทับหลัง ซึ่งเป็นโบราณวัตถุของไทยในพิพิธภัณฑ์อเมริกันปรากฎเป็นข่าวครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2016 โดยนายทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระ ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการทวงคืนทับหลังของไทย จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ชง-มูน ลี (Chong-Moon Lee Center for Asian Art and Culture) ในซานฟรานซิสโก โดยนายทนงศักดิ์ บอกว่าภาพของทับหลังบนเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ ตรงกับทับหลังที่สูญหายไปจากปราสาทหนองหงส์ อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์
นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า ทับหลังชิ้นดังกล่าว มีการสำรวจพบโดยนักโบราณคดีไทย เมื่อปี พ.ศ. 2503-2504 และได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ว่าการอำเภอ ซึ่งตนเชื่อว่าถูกลักลอบนำออกจากประเทศไทยในช่วงปีพ.ศ. 2508 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ภายใน ปราสาทหินพนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกลักลอบนำออกไปจากประเทศไทย
และเมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีการตรวจสอบพบอีกว่า ในพิพิธภัณฑ์ Chong-Moon Lee ยังมีวัตถุโบราณของไทยอีกหลายชิ้น โดยที่สามารถยืนยันได้ก็คือ ทับหลัง ตอนกุมภกรรณสู่สนามรบ จากปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ 2. ทับหลังรูปบุคคลนั่งเหนือแนวหงส์จากปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา 3. ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว
และเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยประสบความสำเร็จในการทวงคืนโบราณวัตถุจากอเมริกาได้แล้วถึง 705 รายการ และอยู่ระหว่างดำเนินการทวงคืน ผ่านสำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา อีก 41 รายการ จากบัญชีรายชื่อวัตถุโบราณที่เชื่อว่าเป็นของไทยทั้งหมด 133 รายการ.