ข่าวคนไทยในอเมริกา
ลุ้น’ปลาหมึก’แก้เกมสำเร็จ เป็นกรณีศึกษา’น้ำปลาไทย’


ขวัญนภา ผิวนิล




เชฟเจมี่ โอลิเวอร์ แฟนพันธุ์แท้น้ำปลาตราปลาหมึก




น้ำปลาตราปลาหมึก ขนาดต่างๆ




แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ผอ.ไทยเทรด แอลเอ เผย “น้ำปลาปลาหมึก” สางปัญหากับอาหารและยาสหรัฐฯ ใกล้ลุล่วงแล้ว ชี้ปัญหาอยู่แค่รายละเอียดในเอกสาร พร้อมส่งเรื่องต่อให้ สำนักงานพาณิชย์ ที่ดีซี เร่งรัดต่อ เผยลุ้นให้ “ปลาหมึก” แก้เกมได้สำเร็จ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดูแลปัญหาที่อาจจะเกิดกับน้ำปลาไทยได้ทุกชนิดต่อไป


จากกรณีที่เกิดข่าวว่าสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ​ (USFDA) ได้ออกประกาศห้ามนำเข้าน้ำปลาไทย เนื่องจากต้องการให้ไทยตรวจสอบพิสูจน์สารปนเปื้อนจากการหมักน้ำปลาว่าไม่มีส่วนผสมของสารก่อมะเร็ง เพราะใช้ปลาตัวเล็ก ซึ่งไม่มีการชำแหละเอาไส้ปลาออกได้ เป็นเหตุให้บรรดาร้านอาหารไทยและเอเชียในอเมริกา หลายแห่ง จำเป็นต้องหันไปใช้เกลือแทนนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ สยามทาวน์ยูเอส ได้ตรวจสอบกับนางขวัญนภา ผิวนิล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครลอส แอนเจลิส (ไทยเทรด แอลเอ) พบว่าเรื่องราวไม่รุนแรงดังที่เป็นข่าว โดยน้ำปลาที่มีปัญหากับทางยูเอสเอฟดีเอ มีเพียงยี่ห้อเดียวคือ น้ำปลาตราปลาหมึก ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ยังคงสามารถนำเข้าได้ตามปกติ และตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้บริหารของบริษัทโรงงานน้ำปลาไทย (ตราปลาหมึก) จํากัด ได้ต่อสู้เรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะเห็นว่าอเมริกาเป็นตลาดที่สำคัญของน้ำปลาตราปลาหมึก

ผอ.ไทยเทรด แอลเอ บอกด้วยว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผู้บริหารของนำ้ปลาตราปลาหมึก ได้เข้าพบนายนพดล ทองมี ผอ.ไทยเทรด นิวยอร์ค และตนเอง เพื่อบอกเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้ทราบว่าหลังจากเกิดปัญหาเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ทางผู้ผลิตน้ำปลาตราปลาหมึก ได้ส่งข้อมูลหลักฐานเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกระบวนการผลิตให้กับยูเอสเอฟดีเอ ตรวจว่าไม่มีปัญหาดังที่หวาดกลัวกัน โดยขณะนี้เหลือเพียงแค่ประเด็นปลีกย่อย คือเรื่องของการแก้ไขข้อความในเอกสารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“แต่ประเด็นคือ เอฟดีเอ เขาจะมีกระบวนการของเขาพอสมควร แต่ละขั้นตอนจะใช้เวลาค่อนข้างมาก  ถามมาหนึ่งเรื่อง แล้วเราตอบไป เรื่องนี้จะใช้เวลาประมาณสามเดือนกว่าเขาจะตอบกลับว่าโอเคไหม แล้วบางทีเขาอาจจะถามมาใหม่อีกเรื่องหนึ่ง เราก็ต้องส่งให้เขา แล้วก็รออีกสามเดือนกว่าเขาจะตอบกลับ มันก็เลยต้องใช้เวลาพอสมควร” นางขวัญนภา ผิวนิล กล่าว และว่าสิ่งที่ทาง ไทยเทรด สามารถช่วยเหลือได้ก็คือการประสานงานผ่านทูตพาณิชย์ ที่สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ให้ช่วยเร่งรัดกับทางสำนักงานใหญ่ของ ยูเอสเอฟดีเอ อีกแรง

ผอ.ไทยเทรด แอลเอ บอกด้วยว่ารายชื่อของน้ำปลาไทยที่ติดอยู่ในบัญชีสินค้าต้องห้ามที่เรียกว่า Import Alert นั้น นอกจากน้ำปลาตราปลาหมึกแล้ว ก็มีน้ำปลาตราทิพรสด้วย โดยน้ำปลาตราทิพรส ถูกห้ามนำเข้ามาตั้งแต่ปี 2014 นอกจากนี้ ในบัญชีดังกล่าว ยังมีสินค้าน้ำปลาของเวียดนามอีกหลายยี่ห้อ

“กระบวนการผลิตน้ำปลาของคนเอเชียเรา วิธีการส่วนใหญ่จะคล้ายๆ กัน เพราะฉะนั้นมีโอกาสอยู่แล้วที่จะโดนได้ เพราะโดยวิธีคิดของ เอฟดีเอ เขาจะต่างกับคนเอเชียเรา เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้แบนทุกยี่ห้อ ไม่ได้แบนคำว่า ‘น้ำปลา’ ทั้งหมด แต่เขาสุ่มตรวจไป หยิบขึ้นมาสักยี่ห้อแล้วเอาไปตรวจ ถ้ามีอะไรไม่เคลียร์สำหรับเขาก็จะมีการ red alert ขึ้นมา”

นางขวัญนภา ผิวนิล กล่าว และว่าด้วยเหตุนี้ ตนเองจึงลุ้นให้น้ำปลาตราปลาหมึกสามารถพิสูจน์ตัวเองจนพ้นจากบัญชีสินค้าต้องห้ามของ ยูเอสเอฟดีเอ ได้ เพื่อจะได้เป็น “กรณีศึกษา” สำหรับช่วยเหลือน้ำปลาไทยยี่ห้ออื่นๆ ที่อาจจะเจอปัญหาเดียวกันนี้ได้ตลอดเวลา

“อย่างที่เรียนนะคะว่าน้ำปลาของเวียดนามก็โดน ถึงบอกว่าตอนนี้เราพยายามลุ้นให้ปลาหมึกสอบผ่าน ถ้าผ่านได้ ต่อไปนี้ใครโดน เราก็จะได้รู้ว่าโอเค เราควรต่อสู้อย่างไร เพราะที่ผ่านมา ยังไม่มีใครสู้กับเขาเลย”

ผอ.ไทยเทรด แอลเอ บอกด้วยว่า สินค้าน้ำปลาของไทย เป็นสินค้าส่งออกที่น่าจับตาในตลาดอเมริกา  และมีตัวเลขที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเครื่องปรุงสำคัญของอาหารไทย

“ยังไม่มีใครมาสำรวจตลาดอย่างจริงจังนะคะ แต่เท่าที่เราประเมินนี่ ผู้บริโภคน้ำปลาส่วนใหญ่ คือ 90 เปอร์เซ็นต์ยังคงเป็นคนเอเชีย ตลาดเอเชีย หรือร้านอาหารเอเชีย แต่ผู้บริโภคที่เป็น นัน-เอเชียน ก็จะโตได้อีก เพราะปัจจุบันฝรั่งนิยมอาหารไทยกันมาก และบางทีเขาก็ปรุงกินเองที่บ้าน ก็เรียนรู้ว่าน้ำปลามันเป็นเครื่องปรุงสำคัญมากของอาหารไทย จริงๆ แล้วเราอยากโปรโมทมาก อยากโปรโมทคำว่า “น้ำปลา” แทนคำว่า fish sauce เลยด้วยซ้ำ เพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่าน้ำปลากับอาหารไทยมันคู่กัน และน้ำปลาจริงๆ แล้วเอาไปปรุงได้อีกหลยอย่าง ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารไทยอย่างเดียวเท่านั้น”

ทั้งนี้ ผอ.ไทยเทรด แอลเอ บอกด้วยว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าน้ำปลาไทยยี่ไหนคือเจ้าตลาดในอเมริกา เพราะตัวเลขนำเข้าเป็นตัวเลขรวมของน้ำปลาทุกยี่ห้อ แต่จากการสำรวจตามซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ พบว่า น้ำปลาตราปลาหมึก น่าจะมีสัดส่วนในตลาดมากที่สุด โดยสูสีกับน้ำปลา MegaChef ที่วางตัวในลักษณะของสินค้าพรีเมี่ยม

“อเมริกาเป็นตลาดใหญ่มากของน้ำปลาปลาหมึก ผู้บริหารเขาเล่าให้ฟังว่า เซเลบริตี้ เชฟ อย่าง เจมี โอลิเวอร์ เวลาโชว์ในรายการแกก็จะพูดถึงน้ำปลาตลอด แล้วแกจะใช้น้ำปลาตราปลาหมึกตลอดด้วย ทางปลาหมึกบอกว่าเขาได้โฆษณาโดยไม่ต้องเสียตังค์เลย ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นว่ากระแสความนิยมของน้ำปลา มันมาในระดับหนึ่งแล้ว” ผอ.ไทยเทรด แอลเอ กล่าว

นางขวัญนภา ผิวนิล กล่าวด้วยว่าความแตกต่างของวัฒนธรรมการบริโภคระหว่างไทยและอเมริกา ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหา “น้ำปลาไทยถูกแบน” นี้ อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ในอนาคต หากมีการนำสินค้าอาหารไทยเข้ามาเยอะกว่าปัจจุบัน ดังนั้นอาจจะต้องมีการหารือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

“ก็ต้องดูกันว่ามีความจำเป็นไหมที่จะต้องหยิบยกเรื่องนี้มาคุยกับทางเอฟดีเอของสหรัฐฯ ว่าจริงๆ แล้วเราก็มีมาตรฐานสูงนะ แต่ว่ากรรมวิธีการผลิตสินค้าบางอย่างของเขาเป็นกรรมวิธีแบบดั้งเดิม ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทางอเมริกาอาจจะไม่คุ้นเคย แต่ก็ไม่รู้เขาจะรับฟังไหมนะคะ หรือจะต้องมีการเชิญเจ้าหน้าที่ของ เอฟดีเอ ไปดูงานบ้านเราหรือเปล่า ซึ่งก็จะต้องมีการคุยกับทางสำนักงานพาณิชย์ ที่ ดีซี อีกทีว่าจำเป็นแค่ไหนที่เราจะต้องหยิบเรื่องนี้มาคุยต่อเนื่อง” ผอ.ไทยเทรด แอลเอ กล่าวในที่สุด.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :
 
Detail :
 



ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข