โมฮัมเหม็ด ดิวจี นักธุรกิจ มหาเศรษฐีหนุ่มที่สุดในทวีปแอฟริกา พ้นอันตราย ได้กลับบ้านแล้ว หลังถูกแก๊งคนร้ายลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ กักขังไว้นานนับ 10 วัน


เมื่อ 20 ต.ค.61 สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซี รายงาน นายโมฮัมเหม็ด ดิวจี นักธุรกิจ มหาเศรษฐีหนุ่มชาวแทนซาเนีย วัย 43 ปี รอดพ้นอันตราย กลุ่มคนร้ายยอมปล่อยตัวแล้ว หลังจากโดนลักพาตัวเรียกไปค่าไถ่ นานถึง 10 ขณะเดินทางไปทำงานในเมืองดาร์เอส ซาลาม ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยนิตยสารฟอร์บส์ ได้ประเมินความร่ำรวยของนายดาจีว่า มีทรัพย์สินมหาศาลถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4.8 หมื่นล้านบาท และยังเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 17 และมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในทวีปแอฟริกา


‘ขอขอบคุณองค์อัลเลาะห์ ผมกลับมาบ้านโดยปลอดภัยแล้ว’นายดิวจี ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ จากบัญชีทวิตเตอร์ของบริษัท MeTL บริษัทในเครือของตระกูล ซึ่งนายดิวจี หรือคนในพื้นที่เรียกเขาว่า ‘โม’(Mo)ได้เข้ามารับผิดชอบดูแล นอกจากนั้น นายดิวจียังได้ขอบคุณตำรวจแทนซาเนียและทุกคนทั่วโลกที่ร่วมสวดภาวนาให้เขาปลอดภัย


รอยเตอร์ แจ้งว่า ผู้บัญชาการตำรวจเมืองดาร์ เอส ซาลาม เผยกับนักข่าวรอยเตอร์ว่า กลุ่มคนร้ายได้ปล่อยนายดิวจี ทิ้งไว้ที่บ้านหลังหนึ่งในย่านGymkhana ของเมืองดาร์ เอส ซาลาม เมื่อตอนประมาณ 02.30 น.ของวันที่ 20 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่น โดยตำรวจพบนายดิวจี ระหว่างการค้นหาตามบ้านแต่ละหลัง โดยเขาถูกมัดขา มัดมือทั้งสองข้าง และถูกคลุมหน้าตลอดเวลาที่ถูกกักขังไว้ในบ้านหลังนี้ จึงทำให้นายดิวจีไม่สามารถระบุรูปพรรณสันฐานหน้าตากลุ่มคนร้ายได้ อย่างไรก็ตาม นายดิวจี บอกกับตำรวจว่ากลุ่มคนร้ายได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีมากและให้อาหารกินทุกมื้อ


ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของนายดิวจีได้ตั้งเงินรางวัลให้แก่ผู้บอกเบาะแสในการติดตามค้นหานายดิวจี เป็นเงินถึง 440,000 ดอลลาร์ หรือราว14.5 ล้านบาท และจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยว่ากลุ่มคนร้ายเรียกเงินค่าไถ่แลกกับชีวิตของนายดิวจีเป็นเงินเท่าใด นอกจากนั้นก็ไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้กลุ่มคนร้ายยอมปล่อยตัวนายดาจี และไม่ทราบว่ามีการจ่ายเงินค่าไถ่ให้กับกลุ่มคนร้ายหรือไม่


ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทในเครือMeTL ประกอบธุรกิจที่หลากหลาย ทั้ง อุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร ขนส่ง การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ไปจนถึงธุรกิจโทรคมนาคม ที่ได้ขยายสาขาไปลงทุนใน 11 ประเทศในทวีปแอฟริกา