เว็บไซต์ siamblockchain.com รายงานเมื่อวันที่ 25 กันยายนว่า กสิกรไทย ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้กลายเป็นธนาคารแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการทดลองใช้ระบบ B2B Connect หรือแพลทฟอร์มที่ถูกออกแบบมาเพื่อการโอนเงินระหว่างประเทศอย่างรวดเร็ว ระหว่างบริษัทกับบริษัทด้วยกันผ่านเทคโนโลยี Blockchain ที่เป็นแบบ private ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Visa
โดยอ้างอิงจากนาย สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่าประจำประเทศไทย ได้เผยว่าแพลทฟอร์ม B2B Connect นั้นได้มีการนำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย การกำกับดูแล และเทคโนโลยีรายการเดินบัญชีแบบกระจายตัวหรือ Distributed ledger เข้ามาใช้ด้วย
“Visa B2B Connect คือแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ โดยสร้างอยู่บนพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับวิสาหกิจที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงระหว่างธนาคาร ในนามของลูกค้าองค์กร โดยขั้นตอนการทำธุรกรรมจะอยู่ภายใต้การบริหารโดยวีซ่าแบบครบวงจร” กล่าวโดยนายสุริพงษ์
นอกเหนือจากด้านความปลอดภัยแล้ว แพลทฟอร์ม B2B Connect ของ Visa ยังช่วยในด้านของความโปร่งใสของการทำธุรกรรมอีกด้วย
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารกสิกรไทยในการเสริมสร้างวิธีการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและไร้รอยต่อในตลาดธุรกิจ หรือ B2B ทั่วโลก” กล่าวเสริมโดยนายสุริพงษ์
แพลทฟอร์ม Visa B2B Connect ได้ประกาศเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 ด้วยความช่วยเหลือด้านการพัฒนากับ Chain Inc หรือบริษัทด้าน cryptographic ledger ที่มีบริษัทอยู่ใน San Francisco โดยพวกเขาใช้ระบบหลังบ้านของ Chain Core มาเพื่อพัฒนาแพลทฟอร์มดังกล่าว โดยทาง Visa และ Chain ได้เปิดเผยในขณะนั้นว่าความสามารถในการคาดการณ์และความโปร่งใสของแพลตฟอร์มนั้นได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารพาณิชย์และลูกค้าองค์กรของพวกเขาที่มีระบบการแจ้งเตือนการทำธุรกรรมในแบบเรียลไทม์
การทดสอบทำธุรกรรมระหว่างธนาคารของ Visa B2B Connect นั้นมีขึ้นเมื่อปีที่แล้วในเดือนพฤศจิกายน โดยในขณะนั้นมีธนาคาร Commerce Bank, Shinhan Bank, United Overseas Bank และ Union Bank เข้ามาร่วมทดสอบด้วย.