ข่าวคนไทยในอเมริกา
บทความหน้าสาม : แฟชั่นโชว์ “ผ้าโบราณ” ผสานงานดีไซน์ของ “ใหญ่ อักษราภัค”

โดย : กฤติยา รักแต่งาม

ไม่เคยหยุดเปิดประตู “กาลเวลา” นำภูษาไทยในอดีตมากรีดกรายอวดความงามนอกประเทศอยู่เสมอ จัดแฟชั่นโชว์ครั้งล่าสุดนี้ อักษราภัค (ใหญ่) เกตุทอง ดีไซเนอร์ชื่อดังของสังคมไทย เจ้าของ “เดอะ ภูเขา”  หยิบเอาผ้า “ลายอย่าง” และ ผ้า”โขมพัสตร์” มาจัดแต่งนางแบบ-นายแบบ นุ่งห่มให้ชมงานศิลป์สมัยอโยธยา

ให้ยิ่งใหญ่สมกับเป็น “แกรนด์ แฟชั่นโชว์” Haute Couture Los Angeles ครั้งที่ 14 ขนเอาดีไซเนอร์จากห้าชาติมาประชันผลงานกัน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ของ เดอะ ฮิลตัน โฮเทล ลอส แอนเจลิส-ซานเกเรียล

งานนี้ คุณใหญ่เธอวางแผน “เสก” ลมหายใจใน “ลายผ้า” ให้มีชีวิต “เนรมิต” วัฒนธรรมเก่าก่อนร่อนชะไรให้เคลื่อนไหวแวววาวหวือหวาบน “แค็ทวอล์ค” อย่างเหมาะสมตามอดีตแห่งผ้าพิมพ์ “เซ็ท” นี้มานานตั้งแต่ปีที่แล้ว งานแฟชั่นครั้งนี้ เธอกะจะให้ตระการตาในการผสานผสมผ้าโบราณในสไตล์ใหม่ และล้ำสมัยในการนำเสนอ ด้วยลีลาแห่งจินตนาการสามมิติ

“...การทำแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ ต่อเนื่องมาตั้งแต่สองปีที่แล้ว คือพี่ได้รับเชิญมาจากบริษัทจัดแฟชั่นโชว์ Virgelia Productions โจทย์ของพี่ที่เขาให้มาก็คือว่า ขอให้ทำชุดไทยที่เป็นแฟนซี ใส่หัว ใส่หาง กางปีก ใส่ความเป็นแฟนซีเข้าไปเยอะๆ ซึ่งพอทำออกมาฝรั่งก็ฮือฮากันเยอะมาก เป็นแนวปีกทั้งหมด ผู้ชายก็มีปีก ผู้หญิงก็มีปีก เป็นเทวดา ส่วนผู้หญิงธีมจะเป็นแบบ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีพญานาค แต่ว่ามันเหมือนมังกรที่มีปีก ทุกคนมีปีกหมดเลย ปรากฎว่ามันประสบความสำเร็จมาก...
   
...พอปีต่อมาเขาก็ขอมาอีก เป็นปีที่สอง คือการทำแฟชั่นโชว์ในอมเริกานี่ขอบอกไว้เลยนะว่ามันเสียเงิน แต่พี่ไม่เคยเสีย เพราะเป็นดีไซเนอร์ที่เขาเชิญมา ดีไซเนอร์ที่มีทั้งหมด 5 ชาติในงานนี่เขาจะเสียเงินหมด ไม่ว่าจะเป็น เกาหลี ญี่ปุ่น อเมริกัน เม็กซิกัน อินเดีย แล้วก็ไทย พอปีที่สองก็มี เชลเค (Shail K.) ของอเมริกัน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย แล้วก็ขอไทยมาอีก...

...ปีที่สองนี่ พี่ก็เลยมาท้าทายความสามารถของตัวเอง โดยใช้อุปกรณ์ที่มีในร้าน “เดอะ ภูเขา” อยู่แล้ว คือใช้ผ้าแม้วเก่าๆ ของพี่ที่มีเป็นสิบๆ ลัง แล้วพี่ไม่ได้ใช้ มันเป็นตัวสำเร็จรูปอยู่แล้วนะ เอามาเลาะออกหมด ทำใหม่ ซึ่งพวกนี้เป็นชุดสำเร็จรูปที่พี่ลงทุนซื้อมาเป็นแสนๆ บาท เป็นของเก่า ของโบร่ำโบราณ เป็นผ้าชนเผ่า แม้ว อีก้อ มูเซอ อาข่า อะไรพวกนี้ พี่ก็เที่ยวซื้อของพี่มาเรื่อย ขึ้นเขาลงห้วยอะไรของพี่ ก็ซื้อมาเก็บๆ เอาไว้ พี่ก็มานั่งคิดว่า อันเนี้ย มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องเอาออกมาใช้ พี่ก็เลยเลาะออกมาเป็นชิ้นๆ แล้วก็มาสร้างแบบกับช่างของพี่ คือคุณวรรณนะคะ...

“พี่วรรณ” ก็ดื้อบ้าง ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่พี่ก็บังคับแกจนแกทำได้ แกบอก คุณใหญ่ชอบออกแบบบ้าๆ บอๆ ไม่มีใครเขาใส่กัน...พี่ก็บอก แฟชั่น ไม่มีใครเขาใส่กันหรอก เขาทำให้เห็นว่าผ้าของเราเนี่ยทำอะไรก็ได้ เราจะขายผ้าให้คนประเทศไทย เราจะส่งเสริมเรื่องการทอผ้า งานฝีมือ ไม่ใช่มาขายชุดคุณใหญ่ หรือแฟชั่นโชว์คุณใหญ่ ซึ่งปีก่อนนั้นทำออกมาแล้วเนี่ย กลายเป็นว่ามันดังมาก คือพูดง่ายๆ ว่าพอเสร็จงานแฟชั่นโชว์ปั๊บ คนที่ดูอยู่ฟร้อนท์โรวล์เนี่ยวิ่งออกมาถ่ายรูปข้างนอกหมด จนกระทั่งทีมงานต้องไล่ ต้องมาต้อนคนดูกลับเข้าไปดูแฟชั่นโชว์ชุดต่อไป ซึ่งเป็นอะไรที่พี่ภูมิใจมาก...

มันเป็นอะไรที่ประสบความสำเร็จมากเมื่อปีที่แล้ว ทีนี้ก็กลายเป็นว่าปีนี้ทางโปรดักชั่นเขาก็เรียกพี่ไปคุย เขาบอกครั้งนี้พี่ต้องเสียเงินในการที่จะเข้ามา “เก๊ท อิน” กะเขา คือเขาบอกว่าตอนนี้เวทีเขายิ่งใหญ่มากขึ้น มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ดีไซเนอร์จะร่วมก็ต้องเสียค่าฟี (fee) ซึ่งแพงมาก สูงสุดที่เราต้องจ่ายกันเนี่ย เป็นเงินสองหมื่นเหรียญ เท่ากับเงินไทยประมาณหกแสนกว่าบาท...

...แต่ของพี่เขาเรียกไม่ถึง เขาบอกว่าเธอเป็นตัวที่ทำให้ฉันอยากมาโชว์ ก็เลยลดราคาให้ พี่ก็บอกโน พี่ไม่จำเป็นต้องมาเสียเงินเพื่อโชว์ตัวเอง เพราะร้านพี่เป็นร้านขายเสื้อผ้าไทยเล็กๆ ในชุมชนไทยเล็กๆ พี่ไม่ได้เป็นดีไซเนอร์ใหญ่ พี่เป็นดีไซเนอร์ local ของคนไทย ซึ่งคนอเมริกันอาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำไป ทำไมพี่จะต้องมาเสียเงินเป็นพันๆ เหรียญเพื่อที่จะมาเปิดตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง พี่เลยไม่ทำ...

เวลาผ่านไป สองสามเดือนให้หลัง ก็เกิดมีสปอนเซอร์คนนึงบอกว่าเขาเสียดาย ถ้าพี่ไม่ทำ เพราะเขารู้ว่าปีนี้พี่ต้องเตรียมตัวทำอะไรดีๆ แน่นอน ซึ่งมันก็จริง เพราะปีนี้พี่ใช้ผ้า “ลายอย่าง” กับผ้า “โขมพัสตร์” ซึ่งเป็นผ้าโบร่ำโบราณของคนไทย...”

ผ้า “ลายอย่าง” ที่เธอว่านั้นคือผ้าที่ “ลาย” แปลว่า การพิมพ์ลายลงบนเนื้อผ้า และคำว่า “อย่าง” คือ “อย่างสยาม” เพราะสมัยนั้นช่างทำลายเมื่อทำลายแล้วก็ส่งไปพิมพ์ลายที่ประเทศอินเดีย พอไปถึงเขาก็พิมพ์ลายลงผ้าคอตต้อนเกรดเอ ที่ทอจากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และเป็นอันรู้กันว่าลายที่ได้รับไปพิมพ์นั้น พิมพ์ให้สยามที่เดียวเท่านั้น และเป็นลายที่ทำเฉพาะใช้ในรั้วในวัง สำหรับเจ้านายชั้นสูง แต่หากว่าเห็นบุคคลที่ไม่ได้มียศศักดิ์สูงนุ่งใส่ นั่นหมายถึงได้รับพระราชทานมา

ผ้า “ลายอย่าง” เป็นผ้าที่มีพระยศสูงสุดในกระบวนผ้าสูงศักดิ์ทุกแบบ เป็นผ้าประจำเมืองเพชรบุรีที่ส่วนมากลายผ้าจะเป็นศิลปะจากโบสถ์ ผนัง ของวัด เช่น ลายเทพชุมนุม, ลายดอกบัว, ลายกนก, ลายอัปสร นอกจากเจ้าขุนมูลนายท่านจะใช้นุ่งห่มแล้ว สมัยก่อนยังมีการใช้ผ้าลายอย่างนี้ห่อหุ้มพระไตรปิฎกอีกด้วย

สมัยต่อมาช่วงรัชกาลที่ 5 ปรากฎว่าผ้า “ลายอย่าง” สูญหายไปพักหนึ่ง คาดว่าการสูญหายไปนั้นน่าจะเป็นเรื่องของการไม่แพร่หลายให้คนทั่วไปได้ใช้กัน ต่อมาจึงเกิดผ้า “นอกอย่าง” ขึ้น ซึ่งเป็นผ้าที่ทำเหมือนผ้า “ลายอย่าง” เพียงแต่ลวดลายเป็นแบบธรรมดา เช่น ดอกไม้ ใบไม้ ทั่วไป  เพื่อให้บุคคลทั่วไปได้นุ่งห่ม เป็นการอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้เห็นผ้า “ลายอย่าง” สะท้อนภูมิปัญญาที่แฝงฝังวัฒนธรรมสมัยอโยธยาอยู่ในเนื้อผ้า ตราบจนทุกวันนี้

ส่วนผ้า “โขมพัสตร์” นั้น โขม แปลว่า ละเอียด, พัสตร์ แปลว่า ผ้า...โขมพัสตร์ จึงแปลว่า ผ้าที่ละเอียดอย่างยิ่ง “โขมพัสตร์” เป็นแบรนด์ผ้าพิมพ์ลายสัญชาติไทยที่ยังคงทำด้วยมือทั้งหมด ตั้งแต่วาดลายลงบล๊อค สกรีน ผสมสี และเลือกคู่สีที่ใช้กับผ้าจนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นฝีมือเก่าแก่ที่หาได้ยากแล้วในยุคปัจจุบัน โดยลวดลายไทยโบราณและลายพิมพ์ดั้งเดิมส่วนใหญ่ยังคงได้รับความนิยม เช่น ลายดอกจิก,  ลายเทพพนม, ลายหัวโขน และลายผ้าเกี้ยวพิมพ์ทอง

อักษราภัค เกตุทอง เล่าต่อถึง “คุณเท” ของเธอที่สนองเสนออย่างสนิทสนมมาเป็นสปอนเซอร์ค่า “ฟี” ให้
                
“...พี่ไม่อยากที่จะเอามาเสียเงินตรงนี้ ก็เลยไม่ทำ แต่บังเอิญมีสปอนเซอร์คนนึงชื่อ “คุณเท” (จูดี้ จุรี) ซึ่งเป็นนางงามจากประเทศดูไบ มาประกวดมิสซิสเอเชีย ยูเอสเอ ที่นี่ บริษัทมิสซิสเอเชีย ยูเอสเอ ส่ง “คุณเท” มาให้พี่ทำเสื้อให้ในการประกวด และ “คุณเท” ก็เชิญพี่ไปดูไบ แต่พี่ไปไม่ได้ สุดท้ายก็เจอกันที่เมืองไทย และได้คุยกัน พี่ก็เลยเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เธอเลยขอเป็นสปอนเซอร์จ่ายเงินค่าฟีให้ในการโชว์ บอกว่าอยากจะให้พี่ได้โชว์ผ้าไทยให้คนต่างชาติได้เห็น...

...แต่ “คุณเท” จ่ายเงินให้เฉพาะค่า “ฟี” นะคะ ค่าทำชุดทั้งหมด 27 ชุดของพี่เนี่ย หมดเป็นล้านนะ พี่ออกเอง พี่ยอมทุ่มทุนตรงนี้เพื่ออยากให้ฝรั่งได้เห็นว่าผ้าไทยเนี่ยไม่ใช่แค่นำมานุ่งจีบหน้านางแล้วห่มสไบเท่านั้น มันสามารถเป็นอะไรก็ได้ ใส่กับอะไรก็ได้ เพื่อเปิดตลาดให้กับประเทศไทย เพื่อให้ทุกคนสามารถเห็นความงามของผ้าไทยได้ทั่วโลก โดยไม่ต้องมาซื้อผ้าจาก “เดอะ ภูเขา”

...แล้วทุกคนก็จะได้เห็นว่ามันทำได้เนาะ มันสวย อันนี้คือสิ่งที่พี่อยากทำ มันก็เลยเป็นที่มาของแฟชั่นโชว์ชุดนี้ ซึ่งพี่คิดว่าชุดนี้มันจะเป็นแฟชั่นโชว์ที่แตกต่าง เหมือนเป็นแฟชั่นโชว์ชุด “มิวสิเคิ่ล วาไรตี้ ไทยแลนด์” จากอดีตสู่ปัจจุบันและอนาคต อุปกรณ์ในการแต่งตัวพี่ก็สั่งทำพิเศษ เช่น ปกติชฎาจะเป็นสีทองใช่มั้ย พี่สั่งชฎาเป็นสีดำ สีขาว สีน้ำตาลแดง แล้วก็สั่งทำชฎาเป็นโลหะ คือเป็นโครงชฎาแต่ไม่ใช่ชฎา แล้วก็ใช้ฝีมือจากเด็กที่จบช่างศิลป์ เป็นเด็กไทยในเรื่องของงานอาร์ท คือสร้างงานให้เด็ก เป็นการทำงานที่ผสมผสานงานอาร์ทกับผ้าชุดไทยของพี่...

พี่ทำผ้าสองสเต็ป คือสเต็ปแรกทำที่แอลเอ สเต็ปที่สองทำที่เมืองไทย โดยการที่มี “คุณวัฒน์” ที่เคยทำงานให้พี่ไม่ว่าจะเป็นงานประกวด หรือทำชุดแต่งงาน อะไรก็ดี ทำให้เซ็ทนึง พี่ทำที่นี่เซ็ทนึง แล้วใช้โครงสร้างของการทำงานแบบผสมผสานระหว่างไทยกับสากลเข้าด้วยกัน เพราะแฟชั่นโชว์เนี่ยจะเปิดตัวด้วยชุดไทยจากอดีตเมื่อสักสองสามร้อยปีที่แล้ว ด้วยการใช้เพลงไทย ส่วนจะเป็นเพลงอะไรนั้นก็ต้องติดตามดูนะคะ แล้วหลังจากนั้นก็จะเป็นการเดินสวนกันระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต...

“ชฎา” เป็นตัวแทนแห่ง “อดีต” และ “อนาคต” บนศีรษะนางแบบและนายแบบที่เดินสวนกัน ชฎาทองมากับผ้าโบราณแบบนุ่งห่มทรงเก่า ส่วนชฎาที่เป็นเพียงโครงลวด สีขาว สีดำ สีน้ำตาลแดง จัดแต่งให้กับนางแบบ นายแบบ ที่ใส่ผ้าโบราณที่ตัดแต่งแบบทรงสมัยใหม่แล้วใช้ผ้ากับลูกไม้ฝรั่งเศสบ้าง ผ้าเครปญี่ปุ่นบ้าง แซมเสริมเข้าไปในผ้าโบราณ...
              
...แฟชั่นโชว์ครั้งนี้ อาจจะเป็นแฟชั่นโชว์ที่พี่ทิ้งทวน ต่อไปอาจจะเป็นแฟชั่นโชว์ที่ไม่เยอะขนาดนี้แล้ว อาจจะทำสักสิบชุดพอ ไม่ทำเยอะอีกแล้ว คราวนี้ทำทั้งหมดยี่สิบเจ็ดชุด เป็นชุดไทยโบราณ กับชุดค้อกเทล ชุดราตรียาว แล้วก็ชุดแฟนซี

...ใครจะไปดูแฟชั่นโชว์ ไปให้กำลังใจคนไทยด้วยกัน ซื้อบัตรได้ที่ “เดอะ ภูเขา” นะคะ บัตรราคาต่ำสุด เจ็ดสิบห้าเหรียญ ตอนนี้เหลือเก้าใบ กับหนึ่งร้อยเหรียญ วีไอพี (แถวที่สอง) เหลือสามใบ คนไทยจองบัตรกันแล้วกว่าหกสิบคน

...พี่คิดว่ามันเป็นแอ๊คติวิตี้ของคนไทย ที่พี่โชคดีที่ได้มีโอกาสเข้าไปในกลุ่มคนทำงานด้านนี้ ถึงแม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆ ก็ตาม มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีถ้าเกิดมีคนอายุน้อยๆ อย่างยี่สิบกว่า แล้วมาเรียนดีไซน์ พี่ก็ยินดีบอกนะว่ายูเข้าไปตรงนี้ๆ แบบนี้ แต่จำไว้เลยว่าไม่ว่าจะทำงานอะไรก็แล้วแต่ยูต้องมีทุนในการทำงานพอสมควร...

สำหรับคนไทยที่ไปดูแฟชั่นโชว์ของพี่ ขอฝากเรียนไว้ล่วงหน้าว่าถ้าทักทายไม่ทั่วถึงก็อย่าโกรธกันนะคะ เพราะวันนั้นพี่คงวุ่นวายน่าดู พี่คงไปดูแลเทคแคร์ไม่ทั่วถึง เข้าไปแล้วก็หาที่นั่งดู ถ่ายรูป  พี่จะออกมาถ่ายรูปด้วยได้ก็ต่อเมื่อแฟชั่นโชว์ทั้งหมดจบลงแล้ว...

...พี่ฝากขอบคุณสำหรับสปอนเซอร์ทุกท่านนะคะ ซึ่งมี คุณบุญส่ง อนันตสุคนธ์, คุณลาวัลย์ พันธุ์อร่าม, คุณโสภารัตน์ พอลลาร์ด, คุณเต้ย กมลวัฒน์ สุรวัลลภ, คุณปุ๊ก จีน่า ปรีชา, คุณป๊อบ ตัน พัฒนะ, คุณเท จูดี้ จุรี จากดูไบ, คุณดีดี้, เชฟปลา-เชฟเฟิร์น จากห้องอาหาร Luv2eat และเพื่อนๆ อีกหลายคนที่เอ่ยนามไม่หมด รวมทั้งทุกท่านที่ซื้อบัตรไปให้กำลังใจกันเยอะแยะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ...”

แฟชั่นโชว์ชุด “Musical Varity Thailand” โดย อักษราภัค (ใหญ่) เกตุทอง จะปรากฎความอลังการของผ้าโบราณผสานงานฝีมือสมัยใหม่ในวันที่ 30 กันยายนนี้ เวลา 4 โมงเย็น ที่ The Hilton Hotel ห้อง Grand Ballroom เลขที่ 225 West Valley Blvd., San Gabriel, CA 91776 โทร.จองบัตรได้ที่ “เดอะ ภูเขา” 323-599-8609 บัตรมี 2 ราคา 75 และวีไอพี 100 ดอลลาร์

ผ่านความ “วิบาก” ต่างๆ มาถึงตรงนี้ได้ อักษราภัค เกตุทอง พิสูจน์แล้วว่า...ไม่มีอะไรอยู่สูงกว่า “ความพยายาม” จริงๆ.


อักษราภัค (ใหญ่) เกตุทอง




ตัวอย่างของแฟชั่นที่ใช้ผ้าโขมพัสตร์มาออกแบบตัดเย็บ




ภาพจากงานแฟชั่นโชว์ของ Virgelia Productions  ที่เข้าร่วมเป็นครั้งแรก เมื่อสองปีก่อน




อีกชุดที่ใช้ผ้าโขมพัสตร์




บางส่วนของผลงานในแฟชั่นโชว์ครั้งที่ 2




โปสเตอร์รายละเอียดของงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้




แฟชั่นโชว์คอลเล็คชั่นแม้ว (แฟชั่นโชว์ครั้งที่สอง)




ชฎาหลากสี ส่วนประกอบสำคัญของแฟชั่นโชว์ครั้งล่าสุด




ตัวอย่างของผ้าลายอย่าง ที่นำมาใช้ในแฟชั่นโชว์ครั้งที่สาม ในวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้




เครื่องประดับที่สั่งนายช่างทำจากเมืองไทย เพื่อแฟชั่นโชว์ครั้งนี้โดยเฉพาะ



 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
22-04-2024 จับโจร “งัดแมนชั่น” นายกเทศมนตรีเมืองแอลเอ (0/33)   
19-04-2024 เอาให้ชัด! ฟาสต์ฟู้ดแคลิฟอร์เนียแพงขึ้นเท่าไหร่ หลังปรับค่าแรง 20 เหรียญ (0/158) 
17-04-2024 รายได้เท่าไหร่ ถึงจะอยู่แบบ “สบายๆ” ในแคลิฟอร์เนีย (0/255) 
16-04-2024 ภูมิใจ! แอลเอครองแชมป์ “ยุงชุม” สุดในประเทศ (0/126) 
15-04-2024 “โคชเดี่ยว” สร้างสถิติใหม่ บอสตัน มาราธอน (0/106) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข