เอพี รายงานว่าเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2018 ว่า ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองโตรอนโต้ (the Toronto International Film Festival) ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 6-16 กันยายนนั้น ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์เกี่ยวกับปฏิบัติการช่วยเหลือและกู้ภัยทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวงนางนอนที่จังหวัดเชียงราย ในชื่อ “The Cave” กับบรรดาผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์จากทั่วโลก
โดยบนโปสเตอร์ของ The Cave ที่ถูกนำออกเผยแพร่ที่เทศกาลภาพยนตร์โตรอนโต้ มีชื่อไทยของภาพยนตร์เรื่องนี้ปรากฎอยู่ด้วย คือ “นางนอน”
เอพีบอกว่า ผู้นำ The Cave มานำเสนอในเทศกาลภาพยนตร์ที่แคนาดาครั้งนี้ คือบริษัท ไวลด์บันช์ แอนด์ ไอเอ็มอาร์ (Wild Bunch and IMR) และว่า The Cave เป็นเรื่องแรกที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยยังมีผู้สร้างนานาชาติอีกอย่างน้อยหกราย ประกาศว่าจะนำเอาเรื่องราวของหมูป่า ที่โด่งดังไปทั่วโลกไปสร้างเป็นภาพยนตร์
The Cave ซึ่งข่าวบอกว่าจะเปิดกล้องในเดือนพฤศจิกายนนี้ สร้างโดยบริษัท เดอ วอร์เรนน์ พิกเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทสร้างาภพยนตร์ในประเทศไทย กำกับโดย ทอม วอลเลอร์ ผู้กำกับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่ผลงานภาพยนตร์ไทยสองเรื่องของเขา คือ The Last Executioner และ Mindfulness and Murder ได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ หลายแห่ง
เอพีบอกว่า The Cave ดังแปลงจากปฏิบัติการกู้ภัยเด็กๆ ในทีมฟุตบอลหมูป่า 12 คน อายุระหว่าง 11-16 ปีที่ติดอยู่ในถ้ำร่วมกับโค้ชวัยรุ่น เป็นเรื่องราว “ดร่าม่า” ที่ทั่วโลกจับตาอย่างสนใจตลอด 18 วัน ก่อนที่นักดำน้ำนานาชาติ และหน่วยซีลของไทย จะนำตัวเด็กๆ ออกมาได้สำเร็จ
ความสนใจของผู้คนทั่วโลกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เชียงรายดังกล่าว ทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์จากอเมริกา อย่างน้อยหกรายให้ความสนใจที่จะดัดแปลงมาสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยรายที่โด่งดังและปรากฎเป็นข่าวมากที่สุด คือ จอน เอ็ม ชู ผู้กำกับที่กำลังโด่งดังเพราะความสำเร็จของ Crazy Rich Asians โดยเขาประกาศว่าต้องการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เกี่ยวกับหมูป่า เพราะเกรงว่าจะมีสิ่งที่เรียกว่า “ฟอกขาว” หรือ whitewash เกิดขึ้น เหมือนอย่างที่ฮอลลีวูดทำกับ Ghost in the Shell, The Great Wall และอีกหลายๆ เรื่อง
อย่างไรก็ตาม เอพีระบุว่าขณะนี้ ยังไม่มีผู้จัดจำหน่ายรายได้สนใจซื้อลิขสิทธิ์ของ The Cave ไปฉายในประเทศของตนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัท ไวลด์บันช์ แอนด์ ไอเอ็มอาร์ (Wild Bunch and IMR) ที่ข่าวระบุว่าเป็นผู้ดูแล The Cave ในตลาดนานาชาตินั้น ถือเป็นบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ขนาดใหญ่ เคยจัดจำหน่ายภาพยนตร์ระดับออสการ์มาแล้วหลายเรื่อง เช่น The Artist, The King Speech, Pan’s Labyrinth, March of the Penguins และ Spirited Away เป็นต้น
ส่วน ทอม วอลเลอร์ นั้นประวัติบอกว่าเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เกิดที่กรุงเทพฯ แต่ไปเติบโตที่ประเทศอังกฤษ จบการศึกษาจาก Northern Film School เมือง Leeds เมื่อปี 1995 มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกคือ Monk Dawson ที่เขาสร้างและกำกับเองในปี 1998
ทอม วอลเลอร์ เปิดบริษัท บริษัท เดอ วอร์เรนน์ พิกเจอร์ เพื่อผลิตและสร้างภาพยนตร์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2002 มีผลงานหลายเรื่อง เช่น Butterfly Man "ผีเสื้อร้อนรัก" (2002), Ghost of Mae Nak "นาค รักแท้ วิญญาณ ความตาย" (2005), The Elephant King (2006) และ Soi Cowboy (2008) ที่ได้ถูกคัดเลือกให้เข้าประกวดเทศกาลหนังเมืองคานส์กับรางวัล Un Certain Regard นอกจากนี้ยังได้กำกับมิวสิควีดีโอให้กับ ทาทา ยัง เพลง "El Nin-Yo!" ในปี 2006 ด้วย
ในปี 2009 ได้รับผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศหลายเรื่องทั้ง "Bitter/Sweet", "Creation" และ "The Prince & Me 4"
ปี 2010 เขากำกับภาพยนตร์เรื่อง "ศพไม่เงียบ Mindfulness and Murder" ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 5 รางวัล ในงานสุพรรณหงส์ครั้งที่ 21 เป็นผู้สร้างภาพยนตร์ทุนฮอลลีวูดเรื่อง "Elephant White" (2011) ร่วมสร้างภาพยนตร์เรื่อง "Secret Sharer" (2012) กับผู้สร้างอังกฤษ ปีเตอร์ ฟูดาโกวสกี้ และในปี 2013 ได้ผลิตภาพยนตร์แอ็คชั่นให้กับฮอลลีวู้ดอีกครั้ง เรื่อง Ninja: Shadow of a Tear
ปี 2014 ทอม วอลเลอร์ กำกับภาพยนตร์ของตัวเองเรื่อง "เพชฌฆาต (The Last Executioner)" ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเทศกาลภาพยนต์นานาชาติ นครเซี่ยงไฮ้ และได้ฉายรอบปฐมทัศน์โลกที่นั่นด้วย โดยนักแสดงนำ วิทยา ปานศรีงาม ได้รับรางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาท "เชาวเรศน์ จารุบุณย์" นอกจากนี้ "เพชฌฆาต" ยังได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานประกาศรางวัลพระสุรัสวดี (ตุ๊กตาทอง ครั้ง 30) ด้วย
ผลงานล่าสุดในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ ทอมได้ผลิตภาพยนตร์เรื่อง "Mechanic: Resurrection” (เจสัน สเตทแฮม) ให้กับบริษัท Lionsgate ที่ถ่ายทำในประเทศไทยเกือบทั้งเรื่อง และผลิตภาพยนตร์เรื่อง "Battle of Memories" ให้กับบริษัท Wanda Media ในปี 2016.