เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2018 เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ วอลสตรีทเจอร์นัลด์ เสนอข่าวของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่กำลังสอบสวนถึงความเกี่ยวข้องระหว่างนายโลว์ เตี๊ยก โจ (Low Taek Jho) หรือโจ โลว์ นักธุรกิจจากมาเลเซียที่อยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุมด้วยข้อหายักยอกเงินจากกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจมาเลเซีย (1MDB) มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ กับบุคคลหลายๆ คน ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ว่ามีส่วนช่วยเหลือให้เขาสามารถฟอกเงินจากการฉ้อโกงมาลงทุน หรือใช้ชีวิตแบบหรูหราในสหรัฐฯ หรือไม่ โดยชื่อที่ปรากฎในข่าวของวอลสตรีทเจอร์นัลนี้ รวมถึงอดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี่ คริส คริสตี้, ทนายความของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนักธุรกิจหนุ่มไทย นายเพ่งเพียร เหล่ากำเนิด ผู้บริหารของบริษัทสงขลาฟินิชชิ่ง จำกัด ด้วย

ทั้งนี้ โจ โลว์ ถูกระบุในเอกสารคำฟ้องคดีแพ่งของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ว่ามีส่วนสำคัญในการยักยอกเงินมูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์จากกองทุน 1MDB ที่ก่อตั้งโดยนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยข่าวบอกว่าการยักยอกเงินครั้งนี้ น่าจะเป็นการยักยอกเงินที่มีมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ และว่าขณะนายโจ โลว์ อยู่ระหว่างการหลบหนีการตามล่าตัวของรัฐบาลมาเลเซียและสหรัฐฯ โดยเชื่อว่าเขาน่าจะหลบหนีอยู่ในประเทศจีน

ข่าวบอกด้วยว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา นายโจ โลว์ ถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ยื่นฟ้องคดีแพ่งกับศาลในรัฐแคลิฟอร์เนียแล้วหลายสิบคดี เพื่อหาทางยึดทรัพย์สินในอเมริกา เช่นแมนชั่น งานศิลปะ และเรือยอร์ช รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,700 ล้านดอลลาร์  อันเป็นเงินที่เชื่อกันว่านายโลว์ยักยอกมาจากกองทุน วันเอ็มดีบี

วอลสตรีทเจอร์นัลด์ บอกต่อไปว่าขณะนี้ กระทรวงยุติธรรม กำลังเร่งสอบสวนเพื่อหาหลักฐานยื่นฟ้องนายโลว์ ในคดีอาญาด้วย โดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ว่า การสอบสวนมุ่งเน้นไปที่ทีมนักกฎหมายและที่ปรึกษา ที่ทำงานให้กับโจ โลว์ ที่หลายคนเป็นคนดังระดับประเทศ เช่นอดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี่ คริส คริสตี้ นักการเมืองสังกัดพรรครีพับลิกัน ซึ่งถือเป็นผู้ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีทรัมป์ และเคยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมถ่ายโอนอำนาจในช่วงเวลาสั้นๆ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้งด้วย

นอกจากนี้ ยังมีชื่อของทนายความที่ทำงานให้กับประธานาธิบดีทรัมป์มาเป็นเวลายาวนาน อย่าง มาร์ช คาโซวิทซ์, บ๊อบบี้ บูร์ชฟิลด์ และ เอ็ด โรเจอร์ ล็อบบียิสต์ที่มีความผูกพันใกล้ชิดกับพรรครีพับลิกัน ด้วย

ข่าวบอกว่านับจากปี 2016 ที่พฤติกรรมของโจ โลว์ ถูกเปิดโปง การทำธุรกรรมระดับข้ามชาติของโจ โลว์ จึงถูกจำกัดโดยความระมัดระวังของระบบธนาคาร เขาจึงไม่สามารถจ่ายเงินสำหรับการใช้ชีวิตที่หรูหรา หรือค่าใช้จ่ายสำหรับกองทัพนักกฎหมายและที่ปรึกษาของเขาได้โดยตรง ดังนั้นกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ จึงเชื่อว่ามีบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ให้ความช่วยเหลือเขา โดยทำหน้าที่ฟอกเงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในสหรัฐฯ แทน

ทนายความของ คริส คริสตี้ กล่าวกับวอลสตรีทเจอร์นัลด์ว่า อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี่ เคยทำงานให้กับ โจ โลว์ เพียงครั้งเดียว คือดูแลคดียึดทรัพย์ในแคลิฟอร์เนีย โดยไม่เคยทำงานอื่นใดให้กับ โจ โลว์ เลย และว่าลูกความของเขาไม่เคยได้รับการติดต่อจากกระทรวงยุติธรรมในเรื่องนี้แต่อย่างใด

ขณะที่โฆษกของสำนักงานทนายความ คาโซวิตซ์ เบนสัน ทอร์เรซ แอลแอลพี (Kasowitz Benson Torres LLP) ซึ่งเป็นบริษัททนายความของ มาร์ช คาโซวิทซ์ ยอมรับว่าบริษัทเป็นทนายความของ โจ โลว์ ในคดีแพ่งที่เขาถูกกระทรวงยุติธรรมฟ้องร้องจำนวนหลายสิบคดี และว่าบริษัทปฏิบัติกับลูกความทุกคนเหมือนกัน คือดูแลผลประโยชน์ของลูกความให้เต็มที่

ส่วน บ๊อบบี้ บูร์ชฟิลด์ ตอบคำถามผ่านอีเมล์มายังวอลสตรีทเจอร์นัลด์ ว่าบริษัท คิงแอนด์ สปาลดิ้ง ของเขาในแอทแลนต้า ทำหน้าที่ให้คำแนะนำกับ โจ โลว์ เกี่ยวกับเรื่องที่เขากำลังถูกสอบสวน อีกบอกว่าทำงานเท่าที่เหมาะสมเท่านั้น อีกทั้งยืนยันว่าตัวเขาและสำนักงานทนายความของเขาไม่เคยได้รับการติดต่อจากกระทรวงยุติธรรม เกี่ยวกับการสอบสวนคดีของ โจ โลว์ หรือคดีไหนๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ วอลสตรีทเจอร์นัล ยังอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับเรื่องนี้ต่อไปว่า กระทวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังตรวจสอบนักธุรกิจไทยชื่อ เพ่งเพียร เหล่ากำเนิด ผู้บริหารของบริษัท สงขลาฟินิชชิ่ง จำกัด และศิลปินเพลงแร็ปชาวอเมริกัน พราส มิเชล สมาชิกผู้ก่อตั้งวงฮิปฮอป “ฟูจีส์” (Fugees) ด้วยว่ามีความเกี่ยวพันใดๆ ในเชิงผิดกฎหมายกับนายโลว์หรือไม่

ข่าวบอกว่า เป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี ที่นายโลว์ต้องพึ่งนายเพ่งเพียร เหล่ากำเนิด ในการจ่ายค่าที่พักและค่าอำนวยความสะดวก (accommodation) ในฮ่องกงและมาเก๊า ค่าที่ปรึกษาทางกฎหมาย และค่าใช้จ่ายในการดูแลเรือยอร์ชมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ของนายโลว์ ซึ่งเพิ่งถูกยึดเมื่อต้นเดือนนี้ และว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนของกระทรวงยุติธรรม กำลังศึกษาหลักฐานข้อมูล และความเคลื่อนไหวทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับบริษัทหลายๆ แห่งที่อยู่ในความดูแลของนายเพ่งเพียร ทั้งในฮ่องกง และแหล่งฝากเงินในต่างประเทศ เช่นในบริทิช เวอร์จิน ไอส์แลนด์ เพื่อพิจารณาว่ามีเงินของนายโลว์เกี่ยวข้องอยู่ด้วยหรือไม่

แหล่งข่าวอ้างต่อไปว่า นักธุรกิจไทย ยังทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลการจ่ายเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ให้บริษัททนายความ และที่ปรึกษาของนายโลว์ ชื่อ โคบรี แอนด์ คิม แอลเอพี (Kobre & Kim LLP) ซึ่งอยู่ในนิวยอร์ค และบริษัททนายความในสหราชอาณาจักร ชื่อชิลลิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล แอลเอพี (Schillings Inernational LLP) อีกด้วย

วอลสตรีทเจอร์นัลด์ บอกว่าเมื่อสอบถามไปยังสำนักงานกฎหมาย โคบรี แอนด์ คิม ถึงเรื่องนี้ ก็ได้รับคำตอบจาก โรบิน แรทห์เมลล์ ซึ่งแจ้งว่าตัวเองเป็นที่ปรึกษากฎหมายทั่วโลก (global counsel) ของนายโลว์ ว่าจะไม่ขอแสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับข้อตกลงทางการเงินกับลูกความ ขณะที่บริษัทชิลลิ่ง อินเตอร์ฯ ผู้สื่อข่าวไม่สามารถติดต่อได้

ขณะที่ตัวแทน ซึ่งข่าวใช้คำว่า representative ของนายเพ่งเพียร เหล่ากำเนิด บอกว่าลูกความของเขา เป็นนักธุรกิจอิสระที่มีฐานะมั่นคงอยู่แล้ว แหล่งรายได้ของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับนายโลว์ และไม่เคยรับเงินจากนายโลว์ด้วย

ตัวแทนของนักธุรกิจไทยบอกด้วยว่า การใช้เงินทุนโจ โลว์ เป็นเรื่องของโจ โลว์ แต่เพียงผู้เดียว และว่ากระทรวงยุติธรรมไม่เคยติดต่อลูกความชาวไทยของเขา ไม่ว่าเรื่องใดๆ อีกทั้งไม่เคยถามเขาเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สินของลูกความเขาด้วย

ส่วนศิลปินเพลงแร็ป พราส มิเชล นั้น แหล่งข่าวกล่าวว่ามีส่วนพัวพัน เพราะเป็นผู้นำที่ปรึกษาอีกรายเข้ามาทำงานให้กับนายโลว์ คือ อีเลียท โบรอิดี้ (Broidy) ผู้บริหารของบริษัทระดมทุน (venture-capital) ในลอส แอนเจลิส ซึ่งเป็นนักระดมทุนให้กับพรรครีพับลิกัน อีกทั้งยังเป็นผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายการเงินของคณะกรรมาธิการพรรครีพับลิกัน ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016

ซึ่งทนายความของ อีเลียท โบรอิดี้ เคยกล่าวว่าลูกความของเขาและภรรยา ได้รับการว่าจ้างโดย พราส มิเชล เพื่อทำหน้าที่ให้คำแนะนำด้านกลยุทธ และเป็นส่วนหนึ่งในทีมงานขนาดใหญ่ของนายโลว์

ด้านทนายความของ พราส มิเชล บอกว่าตนไม่ทราบว่าลูกความของตนถูกกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบ หรือตรวจสอบเรื่องอะไร แต่ตนเองมั่นใจว่าลูกความไม่ได้ทำอะไรที่ไม่เหมาะสม

ในช่วงท้ายของข่าว วอลสตรีทเจอร์นัลด์ บอกว่า พร้อมกันนี้ แผนกอาชญากรรมของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โดยหน่วยงานที่ชื่อว่า the public-integrity section (PIN) ซึ่งดูแลเรื่องพฤติกรรมคอรัปชั่นของนักการเมืองเป็นหลัก ก็กำลังสอบสวนบรรดาล็อบบี้อิสท์ ที่ทำงานในนามของนายโลว์ (ซึ่งทำหน้าที่เหมือนผู้แทนของรัฐบาลมาเลเซียและรัฐบาลจีน) รวมถึงนาย อีเลียท โบรอิดี้ ว่ามีความพยายามที่จะ “ขายอิทธิพล” ที่ตัวเองมีต่อคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ ให้กับนายโลว์ ซึ่งแหล่งข่าวบอกว่าได้พยายามติดต่อกับผู้มีอิทธิพลในคณะทำงานของทรัมป์ เพื่อช่วยยุติการสอบสวนเขาและกองทุน 1MDB ด้วย.