ตระเวนแอลเอ
ตระเวนแอลเอ 411

.

.


เมโทร เริ่มใช้เครื่องสแกนตรวจผู้โดยสารแล้ว

ขนส่งมวลชนเมโทร ของแอลเอเคาน์ตี้ เป็นระบบรถไฟแห่งแรกของอเมริกาที่ใช้เครื่องสแกนร่างกายผู้โดยสารแบบที่ใช้ในสนามบิน โดยเริ่มใช้เป็นครั้งแรกที่สถานียูเนียนสเตชั่น เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยเครื่องสแกนร่างกาย ซึ่งติดตั้งไว้ที่ด้านล่างของบันไดเลื่อนนี้ ทำหน้าที่ตรวจหาโลหะหรือสารเคมี ที่อาจเป็นส่วนประกอบของอาวุธ หรือวัตถุระเบิดบนตัวของผู้โดยสารขณะที่เดินผ่านเครื่อง โดยไม่ต้องหยุดให้ตรวจแต่อย่างใด

ข่าวบอกว่า ภาพที่ปรากฎบนจอคอมพิวเตอร์นั้น เป็นภาพคลื่นความร้อนจากร่างกายของผู้โดยสารเท่านั้น ไม่ใช่ภาพถ่ายหรือภาพเอ็กซ์เรย์ จึงไม่มีปัญหาเรื่องรังสี หรือความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสาร หากผู้โดยสารพกอาวุธ หรือสิ่งของต้องห้าม ซึ่งมีทั้งที่เป็นโลหะและไม่ใช่โลหะ ก็จะปรากฎเป็นเงาดำขึ้น และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานี ก็จะขอตรวจร่างกายของบุคคลผู้นั้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า เมโทร จะติดตั้งเครื่องสแกนร่างกายที่สถานีใดบ้าง โดยข่าวระบุว่าขณะนี้ เมโทรกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับ TSA (Transportation Security Administration) ซึ่งเป็นเจ้าของเทคโนโลยีในหลายๆ ประเด็น รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นด้วย.




“เมนโดซิโน่ คอมเพล็คซ์ ไฟร์” ยังลาม

ไฟป่า เมนโดซิโน่ คอมเพล็คซ์ ซึ่งกลายเป็นไฟป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังคงลุกลามต่อเนื่อง โดยจนถึงวันพุธที่ 15 สิงหาคม 2018 ได้ทำลายพื้นที่ไปแล้วถึง 314,925 เอเคอร์ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะควบคุมเพลิงได้แล้ว 64 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม

ไฟป่าเมนโดซิโน่ คอมเพล็กซ์ ได้ ทำลายสิ่งปลูกสร้างไปแล้วมากกว่า 147 หลัง และได้กลืนชีวิตเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหนึ่งคน คือ แมทธิว บูร์แช็ตต์ วัย 42 ปี ซึ่งเดินทางมาจากสถานีเดร็ปเปอร์ซิตี้ รัฐยูท่าห์

โดย ไฟป่าเมโดซิโน่ คอมเพล็กซ์ ในเลค เคาน์ตี้ (ทางเหนือของซานฟรานซิสโก) ประกอบด้วยไฟป่าขนาดย่อมสองลูก คือ แรนซ์ไฟร์ และริเวอร์ ไฟร์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าริเวอร์ไฟร์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว และได้อนุญาตให้ประชาชนในเมืองเคลียร์เลค กลับบ้านได้แล้ว แต่คำสั่งอพยพยังคงมีผลในหลายพื้นที่ รวมถึงสโตนนี่ฟอร์ด, โลโดก้า และพอตเตอร์ แวลเล่ย์ เป็นต้น.




482 เมืองในแคลิฟฯ ค้านส่งกัญชา “ทูโก”

 แอลเอไทมส์ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2018 ว่าเมืองใหญน้อยในแคลิฟอร์เนีย รวม 482 แห่ง ร่วมกันลงชื่อคัดค้านข้อเสนอของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่จะอนุญาตให้มีบริการจัดส่งกัญชาถึงบ้าน สำหรับเมืองที่ยังไม่อนุญาตให้เปิดร้านขายกัญชาเพื่อสันทนาการ

โดยคำคัดค้านของเมืองต่างๆ ในรัฐแคลิฟอร์บอกว่า หากยินยอมให้มีบริการส่งกัญชาถึงบ้าน ตามที่สำนักงานควบคุมกัญชาของรัฐ (Bureau of Cannabis Control) พยายามผลัดกัน จะมีผลให้กฎหมาย หรือเทศบัญญัติที่เกี่ยวกับกัญชาของแต่ละท้องที่มีปัญหา

ทั้งนี้ แม้ว่าการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ จะกลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากที่ประชาชนโหวตผ่านกฎหมาย 64 ตั้งแต่ปี 2016 แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเปิดร้านจำหน่ายกัญชา สามารถทำได้เพียงไม่กี่เมืองเท่านั้น เพราะเมืองส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมที่จะปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อีกทั้งเมืองที่ยินยอมให้มีการเปิดร้านจำหน่ายกัญชา ก็ตั้งกฎเกณฑ์ หรือค่าธรรมเนียมที่สูงมาก ทำให้รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีกัญชาเป็นจำนวนมหาศาล ต้องผิดหวัง จึงมีพยายามผลักดันให้มีการจำหน่ายกัญชา โดยไม่ต้องมีหน้าร้านขึ้น.




ตำรวจล่าตัวหนุ่มซน ตีก้นฮิปโป

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองลอส แอนเจลิส เปิดแถลงข่าวเรื่องการตามล่าตัวชายหนุ่มลึกลับ ที่ปีนรั้วเข้าไป “ตีก้น” ฮิปโปโปเตมัส ในสวนสัตว์ลอส แอนเจลิส (แอลเอ ซู) ตามที่ปรากฎเป็นคลิปวิดีโอ ที่ถูกแชร์อย่างแพร่หลายทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตลอดสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุชัดเจนว่าต้องการนำตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดี เพราะเป็นการทำผิดตามกฎหมายอาญา

ข่าวบอกว่าผู้บริหารของสวนสัตว์ ลอส แอนเจลิส รับรู้ถึงพฤติกรรมดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเกรงว่าพฤติกรรมคึกคะนองดังกล่าว จะกลายเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่น และจะเป็นอันตรายทั้งกับสัตว์ และกับผู้ที่บุกรุกเข้าไปในจนใกล้ชิดกับสัตว์ด้วย

นอกจากแจ้งความกับเจ้าหน้าที่แล้ว ทางสวนสัตว์ได้ทำการติดป้าย “ห้ามเข้า” ในบริเวณดังกล่าวด้วย

คลิปวิดีโอดังกล่าว ป็นภาพชายหนุ่มปีนข้ามรั้วเตี้ยๆ เข้าไปยังใกล้ฮิปโปสองแม่ลูก คือโรซี่และมาร่า จากนั้นได้ตีก้นโรซี่ ฮิปโปสาววัยสี่ขวบอย่างแรง ได้ยินเสียงดังชัดเจนจากวิดีโอ จนม่าร่า ฮิปโปตัวแม่ต้องผงกหัวขึ้นมามอง จากนั้นหนุ่มมือบอน ก็วิ่งกลับออกไป โดยชูสองแขนเป็นสัญลักษณ์เหมือนชัยชนะด้วย.




ทุ่ม 390 ล้าน “อัพเกรท” แม็กโดนัลด์ในแคลิฟฯ

แม็กโดนัลด์ แถลงเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ว่าจะทุ่มเงินกว่า 390 ล้านดอลลาร์ทำการปรับปรุงร้าน แม็กโดนัลด์ จำนวน 550 สาขาทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียให้แล้วเสร็จภยในปี 2019

โดยแม็กโดนัลด์ บอกว่า การปรับปรุงดังกล่าว รวมถึงการตกแต่งบริเวณรับประทานอาหาร ติดตั้งป้ายเมนูแบบดิจิตอล และตู้สั่งอาหารอัตโนมัติ (self order kiosk) ในร้าน นอกจากนั้นจะมีการขยายเคาน์เตอร์ ซึ่งพนักงานจะนำอาหารมาเสิร์ฟให้ลูกค้าด้ย

ทั้งนี้ แม็กโดนัลด์ บอกว่าแผนการ “อัพเกรท” ร้านสาขาดังกล่าว จะเกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยแม็กโดนัลด์ ตั้งงบประมาณเอาไว้สูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์.



 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :
 
Detail :
 



ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข