สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย กลายเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ในการจัดอันดับของอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม โดยสามารถโค่นแชมป์เก่า 7 สมัยอย่างเมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลียไปได้ และถือเป็นครั้งแรกที่เมืองในยุโรปได้ขึ้นอันดับ 1 ของการจัดอีไอยูที่จะคัดเลือกเมืองที่ดีที่สุดที่จะอาศัยอยู่และทำงาน
ทั้งนี้ การจัดอันดับเมืองน่าอยู่ของอีไอยู จะมีคะแนนเต็ม 100 และสำรวจใน 140 ประเทศ ตามปัจจัยต่างๆ เช่น มาตรฐานความเป็นอยู่ การก่ออาชญากรรม โครงสร้างการขนส่ง การเข้าถึงการศึกษาและสาธารณสุข รวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ
สำหรับกรุงเวียนนาได้คะแนนสูงถึง 99.1 เอาชนะเมืองเมลเบิร์นที่ได้คะแนนอันดับสองอยู่ที่ 98.4 และนครโอซากาของญี่ปุ่นได้อันดับ 3 โดย 10 อันดับแรก มีเมืองของออสเตรเลียและแคนาดาอยู่ถึงประเทศละ 3 เมือง โดยออสเตรเลีย มีเมืองเมลเบิร์น , ซิดนีย์ (อันดับ 5) และแอดิแลด (อันดับ 10) ส่วนแคนาดา มีเมืองคาลการี (อันดับ 4 ) , แวนคูเวอร์ (อันดับ 6) และโตรอนโต (อันดับ7 ร่วมกับโตเกียวของญี่ปุ่น) โดยเมืองที่ติด 10 อันดับแรกของออสเตรเลียและแคนาดา มีความหนาแน่นของประชากรอยู่ที่ 3.2 และ 4 คนต่อตารางกิโลเมตรตามลำดับ ขณะที่ค่าความหนาแน่นโดยเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 58 คน ต่อตารางกิโลเมตร
ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นมีเมืองติดใน 10 อันดับแรกของเมืองน่าอยู่ 2 เมืองคือ โอซากา (อันดับ 3) และกรุงโตเกียว (อันดับ 7 ร่วมกับนครโตรอนโตของแคนาดา)
โดยนอกจากกรุงเวียนนาแล้ว ยังมีกรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก อีกเมืองจากยุโรปที่ติด 10 อันดับแรกของเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก สำหรับเมืองอื่นๆ อย่างกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อยู่อันดับ 19 , กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อันดับที่ 48 และนครนิวยอร์ก สหรับอเมริกา อยู่อันดับที่ 57
ส่วนเมืองที่อยู่ 5 อันดับท้ายสุด คือ กรุงดามัสกัส ของซีเรีย ที่อยู่อันดับสุดท้าย ตามด้วยกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ , เมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย , นครการาจี ประเทศปากีสถาน และกรุงพอร์ตมอร์สบี ประเทศปาปัวนิวกินี