เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2018 สื่อหลายฉบับของอังกฤษ พากันรายงานข่าวการฟ้องร้องต่อศาลสูงสหรัฐฯ ของนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังชาวอเมริกัน ฮาร์โลว์ ฮิกกิ้นบอแธม (Harlow Higinbotham) ซึ่งมีผลงานบทวิเคราะห์เศรษฐกิจในหนังสือพิมพ์และนิตยสารหลายเล่มของอเมริกา เพื่อขออำนาจศาลสั่งให้อดีตภรรยาคนไทย ชื่อ วิภาพร ทีคูงาม (Wipaporn Teekhungam) ลบภาพโปรไฟน์เฟสบุ๊กของเธอ ที่เป็นภาพครอบครัว เขากับเธอ และลูกชายซึ่งเป็นแฝดสาม ซึ่งการฟ้องต้องดังกล่าว จบลงด้วยการที่ผู้พิพากษาไม่รับฟ้อง
ผู้พิพากษาศาลสูงสหรัฐฯ แมทธิว นิคลิน ให้เหตุผลของการไม่รับฟ้องว่า โจทก์ คือฮาร์โลว์ ฮิกกิ้นบอแธม แต่งงานอยู่กินกับภรรยาชาวอเมริกันเมื่อปี 1991 ก่อนจะพบ และมีสัมพันธ์กับ วิภาพร ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2001
“เขาบอกว่ารักเธอและมอบแหวนหมั้นให้เธอ บอกว่าเธออยู่ในวัยเหมาะสมที่จะมีลูก” ผู้พิพากษากล่าวในศาล และว่าโจทก์ ได้เดินทางไปหาจำเลยที่กรุงเทพฯ ทุกครั้งที่ต้องเดินทางไปทำงานในเอเชีย และที่สุดก็ได้แต่งงานกันที่ประเทศไทย ในเดือนมกราคม 2004 หลังจากที่ได้สู่ขอกับพ่อแม่ของเธอแล้ว โดยนางวิภาพร รู้ดีว่าเขามีภรรยาแล้ว ทั้งสองมีลูกแฝดสามเมื่อปี 2008 และใช้นามสกุลของพ่อ
และเมื่อความสัมพันธ์ของทั้งสองสิ้นสุดลงในปี 2009 ฮาร์โลว์ ฮิกกิ้นบอแธม ก็ยังได้จ่ายค่าเลี้ยงดูลูกๆ ให้กับอดีตภรรยามาโดยตลอด กระทั่งเวลาผ่านไปห้าปี นางวิภาพร ได้นำภาพของครอบครัวมาเป็นโปรไฟน์ เฟสบุ๊กของเธอ และสร้างความไม่พอใจให้กับ ฮาร์โลว์ เป็นอย่างมาก
แม้ว่าภรรยาชาวอเมริกันของเขาจะรับรู้เรื่องการแต่งงานซ้ำซ้อนที่ประเทศไทยก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ ฮาร์โลว์ ก็ยังไม่ชอบใจที่อดีตภรรยา เอารูปที่เขาไม่อยากให้ใครเห็นมาเปิดเผย ดังนั้นจึงตัดสินใจยื่นฟ้องศาลเมื่อปี 2016 เป็นคดีละเมิดความเป็นส่วนตัว ใช้ข้อมูลส่วนตัวไม่เหมาะสม ละเมิดสัญญา และทำผิดกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัว แต่ศาลชั้นต้นไม่รับฟัง ดังนั้นจึงยื่นฟ้องต่อในศาลสูงต่อทันที
คดีนี้กลายเป็นคดีที่ได้รับความสนใจในอังกฤษ เพราะนางวิภาพร ได้แต่งงานกับใหม่กับ วินตัน เพอร์รี่ และย้ายไปอยู่ที่เมืองนอร์ฟอล์ค ประเทศอังกฤษ
ผู้พิพากษาศาลสูง แมทธิว นิคลิน กล่าวว่าเขาเห็นด้วยกับคำตัดสินใจของศาลชั้นต้น ที่บอกว่าคำฟ้องร้องของ ฮาร์โลว์ ฮิกกิ้นบอแธม เป็นคำร้องที่ไม่มีเหตุผลสมควร อีกทั้งยังเข้าข่ายคุกคาม (harassment) หรือเป็นการแก้แค้น ด้วย เขาเห็นว่าเป็นคำร้องที่ “ไร้ค่า” อีกทั้งน่าเศร้า ที่ผู้อยู่ตรงกลางคือเด็กๆ
“แม้โจทก์ จะอ้างว่าภรรยาของเขาจะทราบเรื่อง (การนอกใจ) ก่อนที่รูปภาพพวกนั้นจะถูกโพสต์ก็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากให้เรื่องเสื่อมเสียนั้นเป็นรู้รับรู้ในวงสังคมของเขาอยู่ดี” ผู้พิพากษากล่าว และว่าเขาไม่รับคำฟ้องในคดีนี้ เพราะเห็นว่าภาพโปรไฟน์ของนาง วิภาพร บนเฟสบุ๊ก ดูแล้วผ่อนคลาย ไม่ล่วงเกินใครๆ ทั้งสิ้น
“ว่ากันว่าภาพถ่ายทุกๆ ใบมีเรื่องเล่า แต่เรื่องในภาพถ่ายใบนี้ คือเรื่องที่โจทก์ ไม่ต้องการเล่า เขาต้องการเก็บไว้เป็นความลับ ความลับที่ว่าเขามีอีกครอบครัวหนึ่ง ที่ประเทศไทย... ซึ่งคนที่มีเหตุผลทั่วไปจะต้องรู้ดีว่า โอกาสที่จะเก็บความลับเรื่องภรรยาน้อย และลูกๆ สามคนนั้น มีน้อยมาก จนแทบไม่มีเลย แต่ที่โจทส์ มั่นใจว่าเขาทำได้ อาจเป็นเพราะข้อเท็จจริงที่ว่าเธออยู่ห่างจากภรรยาหลวงในอิลลินอยส์ มากกว่า 8,000 ไมล์ ก็เป็นได้” ผู้พิพากษาศาลสูง แมทธิว นิคลิน กล่าว.