ตระเวนแอลเอ
ตระเวนแอลเอ 408

.

.


สาว ดีเอ็มวี งีบเป็นอาชีพ สูญเปล่าภาษี 40,000 เหรียญ

ไทมส์รายงานข่าวผลการตรวจสอบและประเมินผล (audit) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยบอกว่าผลการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งของ ดีเอ็มวี (กรมทะเบียนยานยนต์) ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงต่อวันในการฟุบหลับที่โต๊ะทำงาน โดยไม่ได้รับการตักเตือนจากหัวหน้างาน ประเมินว่าพฤติกรรมที่ปฏิบัติต่อเนื่องเป็นเวลาสี่ปีนี้ คิดเป็นชั่วโมงในการนอนหลับระหว่างเวลางานมากถึง 2,220 ชั่วโมง คิดเป็นความสูญเปล่าเงินภาษีของประชาชนมากกว่า 40,000 ดอลลาร์

ผลการตรวจสอบบอกว่า ถึงแม้หัวหน้างานของพนักงาน คนนี้จะทราบดีถึงพฤติกรรมของเธอ แต่ก็ไม่ได้ว่ากล่าวตักเตือนหรือมีบทลงโทษใดๆ เพียงแต่ระบุในใบประเมินผลการปฏิบัติงานว่า ชอบนอนหลับในเวลางาน โดยไม่มีความพยายามใดๆ ที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

โดยหัวหน้างานยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของรัฐว่า ต้องปลุกพนักงานคนนี้สามหรือสี่ครั้งต่อวัน และบางครั้งก็ปล่อยให้เธอหลับโดยไม่อยากรบกวน ส่วนเหตุผลที่ไม่มีการว่ากล่าวตักเตือนหรือลงโทษ เป็นเพราะเข้าใจว่าผู้หญิงคนดังกล่าว อาจจะป่วยด้วยอาการบางอย่าง

หรือถึงแม้จะไม่นอนหลับ ผลการตรวจสอบพบว่าผู้หญิงคนนี้ทำงานช้ามาก โดยสามารถจัดการกับเอกสารต่างๆ ได้น้อยกว่าเพื่อนร่วมงานถึงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเท่ากัน

“พนักงานคนนี้ กำลังกีดขวางไม่ให้ ดีเอ็มวี ให้บริการกับสาธารณะชนได้ในระดับที่เหมาะสม” ผลการตรวจสอบระบุ

นอกจากนี้ ผลการตรวจสอบและประเมินผลฉบับนี้ ยังระบุว่ามีองค์กรอื่นๆ ในสังกัดของรัฐแคลิฟอร์เนีย ถึงหกองค์กร  รวมถึงสองวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ปล่อยปละละเลยให้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำงาน หรือสถานที่ของรัฐ ไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการสูญเปล่าทางเศรษฐกิจ โดยประเมินความสูญหายจากหกองค์กรนี้เอาไว้สูงถึง 200,000 ดอลลาร์

ข่าวบอกด้วยว่าผลจากการตรวจสอบและประเมินผลฉบับนี้ ทำให้ดีเอ็มวี และบางหน่วยงานของรัฐแคลิฟอร์เนีย จัดโปรแกรมฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร ให้ทราบถึงวิธีที่เหมาะสมในการดูแลพนักงานในทีม โดยหวังว่าจะท


ตั้งตู้บริการ “ครีมกันแดด” ฟรี ทั่วแอลเอ

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ศูนย์การแพทย์ ยูซีแอลเอ เฮลท์ และองค์กร IMPACT Melanoma ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่ทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งผิวหนัง ได้ร่วมกันทำพิธีเปิดตัวตู้บริการครีมกันแดดสาธารณะ (sunscreen dispenser) ที่ซานตามอนิก้าเพียร์ โดยระบุว่าตู้บริการครีมกันแดด ดังกล่าว จะทำการติดตั้งในซานตามอนิก้า, มาลิบู และแหล่งท่องเที่ยวกลางแจ้งอื่นๆ อีกหลายแห่งมในลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ รวมทั้งสิ้น 50 ตู้

ตู้บริการครีมกันแดดชนิด เอสพีเอฟ 30 ดังกล่าว จะให้บริการเฉพาะช่วงหน้าร้อนเท่านั้น คือจะให้บริการจนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้เท่านั้น.




ดวงดาวของ “ทรัมป์” ถูกทุบ ​(อีกแล้ว)

ดวงดาวของ โดนัลด์ ทรัมป์ บน ฮอลลีวูด วอล์ค ออฟ เฟม ถนนฮอลลีวูด (กับไฮแลนด์) ได้ถูกทำลายลงอีกครั้ง โดยครั้งนี้ ผู้ลงมือใช้อีเต้อ (pick ax) ทุบจนแหลก อีกทั้งใช้สีดำฉีดพ่นด้วย ก่อนจะโทรศัพท์รายงานตำรวจด้วยตัวเอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีฮอลลีวูด กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุทำลายทรัพย์สินดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. โดยผู้แจ้งบอกว่าเป็นคนลงมือเอง พร้อมปิดท้ายบทสนทนาว่า “แล้วเจอกัน”

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้ลงมือซ่อนอีเต้อขนาดใหญ่มาในกระเป๋ากีต้าร์  และว่ายามของธุรกิจในบริเวณนั้นพยายามห้ามปราม แต่ไม่สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง คนร้ายได้หลบหนีไปแล้ว โดยทิ้งอุปกรณ์คืออีเต้อ เอาไว้ ณ จุดเกิดเหตุ แต่ในเวลาต่อมา เขาได้เดินเข้าไปยังสถานีตำรวจ ที่เบฟเวอร์ลี่ ฮิลล์ และแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเขาชื่อ ออสติน เคลย์ วัย 24 ปี เป็นผู้ลงมือทุบดวงดาวของโดนัลด์ ทรัมป์ เอง จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมด้วยข้อหาทำลายทรัพย์สิน

เหตุการณ์ทุบทำลาย ดวงดาวของโดนัลด์ ทรัมป์ บนถนนฮอลลีวูด ครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่สองของปีนี้ ทำให้ถือได้ว่า ดวงดาวของเขาเป็นดวงดาวที่ถูกทำลายบ่อยครั้งที่สุดในบรรดาดวงดาวของ “คนดัง” ทั้ง 2,600 ดวงบนฮอลลีวูด วอล์ค ออฟ เฟม.




เบฟเวอร์ลี่ ฮิลล์ แบน “สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า”


ไทมส์ รายงานเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ว่า สภาเมืองเบฟเวอรี่ ฮิลล์ มีมติ 4 ต่อ 1 ให้ “แบน” สกู๊ตเตอร์แบบใช้มอเตอร์ (motorized scooter) เป็นเวลาหกเดือน โดยอ้างเหตุผลของความปลอดภัยของสาธารณะชน โดยเทศบัญญัติฉบับนี้ มีผลคลุมไปถึงการห้ามวางสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเอาไว้บนทางเท้าหรือที่สาธารณะด้วย

ข่าวบอกด้วยว่า ความนิยมของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเบฟเวอร์ลี่ฮิลล์ เพราะบริการ “สกู๊ตเตอร์-แชร์” เช่น Bird และ Lime โดยนอกจากจะเป็นอันตรายกับคนเดินถนน หรือตัวผู้ใช้เองแล้ว การวางสกู๊ตเตอร์เกะกะริมถนน ยังส่งผลกระทบกับทัศนียภาพของ “เมืองคนรวย” แห่งนี้ด้วย
 
ก่อนหน้าที่จะมีการ “แบน” ห้ามใช้อย่างสิ้นเชิงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจของเบฟเวอร์รี่ฮิลล์ ได้ “เอาจริง” กับผู้ใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าโดยไม่ใช่หมวกกันน็อค หรือไม่มีใบขับขี่มาแล้วตั้งแต่ต้นเดือน โดยในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม มีการออกใบเตือน (warning) และใบสั่งมากกว่า 100 ใบ รวมถึงได้ตระเวนเก็บสกู๊ตเตอร์ที่ของบริการ สกู๊ตเตอร์-แชร์ ที่ถูกวางทิ้งริมถนน หากเข้าข่ายกีดขวางการสัญจรของประชาชนด้วย

ทั้งนี้กฎหมายกำหนดว่า ผู้ใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จะต้องมีใบขับขี่ และต้องใส่หมวกกันน็อคเช่นเดียวกับการขี่จักรยาน แต่ไม่ต้องมีอินชัวรันซ์ อีกทั้งห้ามไม่ให้ขับเร็วเกินกว่า 15 ไมล์ต่อชั่วโมงด้วย.



 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข