ตระเวนแอลเอ
ตระเวนแอลเอ 406

.

.


คดีเหยียดผิวในแคลิฟฯ ยังคงพุ่ง

คดีเหยียดผิว (Hate Crime) ในแคลิฟอร์เนีย ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สามนับจากปี 2017 เป็นต้นมา โดยบรรดานักวิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขึ้นสู่อำนาจของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำแนวคิดขวาจัดของพรรครีพับลิกัน ซึ่งแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรกับชนกลุ่มน้อยแบบไม่ปิดปัง ส่งผลให้กลุ่มเหยียดผิวในรัฐแคลิฟอร์เนีย ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง


ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานอัยการของรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่าตลอดปี 2017 มีคดีอาญชากรรมที่เกี่ยวข้องกับเหยียดผิวชังพรรณในรัฐแคลิฟอร์เนียมากถึง 1,093 คดี ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านั้นถึง 17.4 เปอร์เซ็นต์ โดยคดีเหยียดผิวเริ่มเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ นับจากปี 2014 เป็นต้นมา โดยในช่วงสามปีที่ผ่านมา คดีเหยียดผิวเพิ่มพรวดถึง 44 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ คดีอาชญากรรมที่อยู่ในข่ายเหยียดผิวนั้น ต้องมีเหตุเกี่ยวข้องกับสีผิว เชื้อชาติ, เพศ และศาสนา โดยคนผิวดำ ตกเป็นเหยื่อในคดีเหยียดผิวมากที่สุด คือ 27 เปอร์เซ็นต์.




“ชิก-ฟิเล” คว้า “ฟาสฟู้ดยอดเยี่ยม”

ดัชนีความพอใจผู้บริโภค ACSI (The American Customer Satisfaction Index) จัดทำผลสำรวจความเห็น “ร้านอาหารประเภทฟาสฟู้ดที่ดีที่สุดของปี 2018” นำออกเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบอกว่าร้าน Chick-Fil-A คือร้านฟาดฟู้ดที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากที่สุด

Chick-Fil-A ซึ่งมีแซนด์วิชไก่ เป็นจุดเด่น ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากเป็นอันดับหนึ่ง ได้คะแนนสูงถึง 87 เต็ม 100 เพราะความเป็นมิตรของพนักงาน และความหลากหลายของเมนู ที่มีไก่ เป็นองค์ประกอบหลัก

ข่าวบอกว่าร้านฟาสฟู้ดแนว แฮมเบอร์เกอร์ ที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาทั้งสี่ร้าน คือแม็กโดนัลด์, เวนดีส์, เบอร์เกอร์คิง และ อินแอนด์เอาท์ ได้รับคะแนนน้อยจนไม่ติดกลุ่ม “ท็อปเท็น” โดยรายงาน ACSI บอกว่าคะแนนความพึงพอใจ ที่ฟาดฟู้ดยักษ์ใหญ่ทั้งสี่ได้รับ ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และแทบจะไม่กระเตื้องขึ้นเลยในระยะสามปีที่ผ่านมา

โดย “ท็อปเท็น” ร้านฟาสฟู้ดที่ดีที่สุด คือ 1 Chick-Fil-A, 2 Other Small Restaurants, 3 Panera Bread, 4 Papa John’s, 5 Pizza Hut, 6 Subway, 7 Arby’s, 8 Chipotle Mexican Grill, 9 Domino’s, 10 Dunkin’ Donuts




วอร์เนอร์ฯ ขอสร้างรถรางลอยฟ้าชมป้ายฮอลลีวูด

ป้ายฮอลลีวูด (Hollywood sign) ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของลอส แอนเจลิส เพราะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ปรารถนาจะมาชมอย่างใกล้ชิด แต่ที่ผ่านมานั้น ปริมาณนักท่องเที่ยว ทั้งที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถทัวร์ ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของประชาชนสองฝั่งถนนที่ใช้เป็นทางขึ้นไปยังจุดชมป้ายฮอลลีวูด ทั้งเรื่องรถติดและเรื่องที่จอดรถ กระทั่งล่าสุด เทศบาลเมืองแอลเอ ได้ทำการปิดถนน ไม่ให้นักท่องเที่ยวใช้เส้นทางดังกล่าว ซึ่งวิเคราะห์ว่ามีผลกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเมืองแอลเอ เป็นอย่างมาก

ที่ผ่านมา มีการเสนอทางออกของเรื่องนี้หลายประเด็น รวมถึงการสร้างกระเช้าลอยฟ้า นำนักท่องเที่ยวขึ้นไปยังจุดชมป้ายฮอลลีวูด ซึ่งดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องใช้งบประมาณก่อสร้างมากี่สุดเช่นกัน

ล่าสุด วอร์เนอร์ บราเตอร์ บริษัทสร้างภาพยนตร์ระดับหัวแถวของฮอลลีวูด เปิดเผยว่าทางบริษัท มีแผนที่จะสร้าง “ฮอลลวูด สกายเวย์” ซึ่งเป็นรถกระเช้าลอยฟ้า (aerial tramway) นำนักท่องเที่ยวจากอาคารที่จอดรถของสตูดิโอ ในเมืองเบอร์​แบงก์ ขึ้นไปยังจุดชมวิวที่เรียกว่า เมาท์ ลี ไม่ไกลจากป้ายฮอลลีวูดนัก คิดเป็นเส้นทางประมาณหนึ่งไมล์ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่หกนาที และจะใช้ประมาณก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี โครงการร้อยล้านของวอร์เนอร์ฯ ดังกล่าว ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น.




จับหญิงใจเหี้ยม ทุบเฒ่า 91 ปางตาย

ผู้หญิงผิวดำ ลาคิช่า โจนส์ วัย 30 ปี ถูกเจ้าหน้าที่เชอรีฟของแอลเอ เคาน์ตี้จับกุมตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2018 ด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธร้ายแรง กับ โรดอลโฟ่ รอดริเกซ ชายแก่เชื้อชาติแม็กซิกัน วัย 91 ปีเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม โดยใช้แท่งคอนกรีตที่หยิบจากข้างถนนทุบตี จนชายแก่บาดเจ็บสาหัส

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นริมถนนในเมืองวิลโลบรู๊ส ดังกล่าว มีผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพเอาไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถตามจับตัวคนร้ายได้ในเวลาต่อมา แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจที่ทำให้สตรีผิวดำลงมือทำร้ายชายชราอย่างรุนแรงแบบนี้

ข่าวเบื้องต้นรายงานว่าเหตุการณ์เริ่มต้นจากการชายชราเดินชนลูกสาววัยทารกของ ลาคิช่า โจนส์ จึงเกิดการต่อว่า และด้วยความที่ชายชราไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ เหตุการณ์จึงเลวร้ายยิ่งขึ้น โดยข่าวระบุว่า มีช่วงหนึ่งที่ ลาคิช่า โจส์ กล่าวหาว่าชายชราพยายามลักพาตัวลูกสาวของเธอ และตะโกนไล่ชายชรากลับประเทศของตัวเองด้วย

นอกจากนี้ จากภาพในคลิปวิดีโอดังกล่าว ยังมีชายผิวดำอีกจำนวนหนึ่ง เข้ามารุมทำร้าย โรดอลโฟ่ รอดริเกซ ด้วย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมใครได้

ข่าวบอกว่าขณะนี้ ลาคิช่า โจนส์ ถูกศาลตั้งเงินประกันเอาไว้ 200,000 ดอลลาร์ ส่วนชายชราได้รับอนุญาตจากแพทยให้กลับมารักษาตัวที่บ้านแล้ว หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลายวัน เพราะบาดเจ็บถึงขั้นกระดูกกรามและกระดูกแก้มแตก กระดูกซี่โครงหักสองซี่ และมีรอยฟกช้ำทั่วตัว

ครอบครวของชายชรา ได้เปิดบัญชีขอรับบริจาคเงินผ่านเว็บไซต GoFundMe เพื่อจ่ายค่ารักษาตัวจากเหตุการณ์นี้ โดยตั้งเป้าเอาไว้เพียง 15,000 ดอลลาร์ แต่ยอดเงินที่ได้รับจนถึงเช้าวันที่ 11 กรกฎาคม 20118 นั้น สูงถึง 248,307 ดอลลาร์.



 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข