เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2018 คณะผู้บริหารของลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ ได้ลงมติเห็นชอบกับงบประมาณบริหารเคาน์ตี้ ประจำปี 2018-2019 มูลค่า 31.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวรายงานว่า การจัดสรรงบประมาณดังกล่าว สร้างความผิดหวังให้กับนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้อพยพเป็นอย่างมาก ด้วยว่ามีการจัดสรรงบประมาณสำหรับจ้างทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านอิมมิเกรชั่น สำหรับช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายแก้ปัญหาคนเข้าเมืองแบบ “ความอดทนเป็นศูนย์” หรือ zero tolerance ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เพียงพอ กล่าวคือสามารถว่าจ้างทนายความได้เพียง 4 คน แทนที่จะเป็น 15 คนอย่างที่มีการพูดคุยกันเอาไว้
ข่าวอ้างรายงานของสหภาพแรงงาน the American Civil Liberties Union ที่มีการเผยแพร่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า หน่วยงานกฎหมายของ แอลเอ เคาน์ตี้ ซึ่งมีทนายความประมาณ 700 คนนั้น มีทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอิมมิเกรชันเพียงแค่สองคนเท่านั้น ถือว่าไม่เพียงพออย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ข่าวบอกว่างบประมาณใหม่ดังกล่าว มีการจัดสรรงเงินให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้อพยพ ที่อาจจะได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายแข็งกร้าวของรัฐบาลกลางมากขึ้น เช่น Departments of Children and Family Services, Health Services and Mental Health โดยสามารถเพิ่มบุคคลากรของหน่วยงานเหล่านี้ได้มากขึ้นถึง 111,392 คน.