เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2018 ผู้บริหารจากหลายหน่วยงานของเมืองแอลเอ รวมถึงนายกเทศมนตรี อีริค การ์เซ็ตติ เปิดแถลงข่าวเรื่องห้ามไม่ให้ประชาชนจุดพลุไฟในช่วงเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพ (4 กรกฎาคม) เพื่อความปลอดภัย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเพลิงไหม้ และไฟป่า ในช่วงที่สภาพอากาศกำลังร้อนและแล้ง
“เว้นเสียแต่ว่าคุณมีใบอนุญาต หากไม่มี ถือว่าเป็นการผิดกฎหมาย ทั้งของเทศบาลเมืองแอลเอ และของเคาน์ตี้ ในการจำหน่าย มีไว้ในครอบครอง และเล่นพลุไฟทุกชนิด” นายกเทศมนตรี ประกาศ และว่าในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่จะให้ความสำคัญกับการออกตระเวนตรวจสอบร้านค้า หรือแผงลอยต่างๆ รวมถึงตรวจสอบบ้านหรือบริเวณที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้เล่นพลุไฟด้วย
โดยค่าปรับสำหรับผู้กระทำผิดกฎหมายนั้น ข่าวบอกว่าแตกต่างกันระหว่างระดับซิตี้ (เทศบาล) และเคาน์ตี้ โดยระดับซิตี้ ซึ่งบังคับใช้โดยตำรวจ (LAPD) นั้น ค่าปรับสำหรับผู้กระทำผิดเริ่มที่ 500 ดอลลาร์สำหรับการทำผิดครั้งแรก โดยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงสูงสุดไม่เกิน 50,000 ดอลลาร์ และจำคุกระหว่างหกเดือนถึงหนึ่งปี
ขณะที่ค่าปรับตามกฎหมายของเคาน์ตี้ ซึ่งบังคับใช้โดยเจ้าหน้าที่เชอรีฟนั้น อาจสูงถึง 2,500 ดอลลาร์สำหรับการทำผิดครั้งแรก และจะเพิ่มเป็น 5,000 ดอลลาร์สำหรับการทำผิดซ้ำสอง
ระหว่างการแถลงข่าวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นพลุไฟในช่วงวันชาติ มาแสดงด้วย โดยหลายรายได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ เช่นตาบอดหรือนิ้วขาด เป็นต้น
“มีกรณีหนึ่ง เด็กชายวัย 15 ปีเอาไฟพะเนียง (sparkler) มามัดรวมกันแล้วจุดไฟ มันเลยระเบิด เขาเสียตาไปข้างหนึ่ง นิ้วมือหลายนิ้วและขาหนึ่งข้าง” เจ้าหน้าที่ระบุ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของปี 2017 พบว่าในช่วงระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน จนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม ทั่วแอลเอ เคาน์ตี้ มีเหตุเพลิงไหม้ 55 ครั้งที่มีสาเหตุจากการจุดพลุไฟ โดย 23 ครั้งเป็นพลุไฟที่อยู่ในข่ายอันตรายและห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด ที่เหลือเกิดจากพลุและดอกไม้ไฟที่อยู่ในข่ายปลอดภัย (safe and sane) ที่บางเมือง เช่นคอสตาเมซ่า ยังสามารถจำหน่ายได้
ข้อมูลจากปี 2017 ระบุด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งเหตุการเล่นพลุในช่วงวันชาติ มากถึง 8,204 ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2013 ที่มีการแจ้งเพียง 5,532 ครั้ง
นายกเทศมนตรีของเมืองแอลเอ กล่าวว่า การชมพลุไฟกับการเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ เป็นของคู่กัน แต่ขอให้ยกหน้าที่จุดพลุกับผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่า โดยในแอลเอ มีการจุดพลุแบบยิ่งใหญ่ให้ชมหลายจุด สามารถตรวจสอบสถานที่ชมพลุในเขตแอลเอ ได้ที่ http://lafd.org หรือโทร 888-654-3473.
นอกจากนี้ การจุดพลุวันชาติ ทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย ยังส่งผลให้ปริมาณสัตว์ในศูนย์ดูแลสัตว์ (Aimal shelter) ทั่วแคลิฟอร์เนียตอนใต้ เพิ่มจำนวนขึ้น จนต้องประกาศขอความช่วยเหลือจากประชาชนให้ช่วยรับสัตว์ไปดูแลเป็นการชั่วคราว (foster) เป็นเวลาสี่วัน
ทั้งนี้เพราะในช่วงที่ชาวอเมริกันเฉลิมฉลองวันชาติโดยการจุดพลุกันสนั่นหวั่นไหวนั้น สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขจะตื่นตกใจ และหนีออกจากบ้าน ทำให้ปริมาณสัตว์ในศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นนับเท่าตัวในช่วงเวลาดังกล่าว
“พวกมันจะตกใจกลัวกันจนวิ่งหนีออกจากบ้านเลย หรือบางตัวที่อยู่ในบ้าน เราเคยเห็นมันกระโดดทะลุกระจกหน้าต่างออกมา และโชคร้ายคือว่าหมาเหล่านี้ส่วนหนึ่ง ต้องมาลงเอยที่ศูนย์ดูแลสัตว์ ซึ่งแออัดมากในช่วงนั้น” เคเรน แทง ผู้ประสานงาน ฟอสเตอร์ โปรแกรม ของเมืองแอลเอ กล่าว
เคเรน แทง บอกว่าการจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราว หรือ foster นั้น คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์ม ที่สามารถหาได้จากเว็บไซต์ www.laanimalservices.com หรือขอรับได้ที่ศูนย์ดูแลสัตว์ทั้งหกแห่งของเมืองแอลเอ จากนั้นก็ยื่นใบสมัครกับเจ้าหน้าทีที่ศูนย์ฯ ได้เลย
นอกจากนี้ ในช่วงนี้ ทางศูนย์ดูแลสัตว์ของแอลเอ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ต้องการรับสัตว์ไปดูแลถาวร (adopt) สามารถทำได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม โดยสัตว์ทุกตัวจะได้รับการทำหมัน ฉีดวัคซีนที่จำเป็น และฝั่งไมโครชิปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ laanimalservices.com/adopt.