ผลการเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียรอบแรกเมื่อวันอังคารที่ 5 มิถุนายน 2018 ปรากฎว่ารองผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซั่ม วัย 50 ปี ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดตามความคาดหมาย โดยได้คะแนน 1,358,125 เสียง คิดเป็น 33 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด ส่วนอันดับสองเป็นของ จอห์น ค็อค นักธุรกิจระดับ “มัลติมิลเลี่ยนแนร์” วัย 62 ปี จากพรรครีพับลิกัน ที่ได้เสียงสนับสนุน 1,067,180 เสียง หรือ 26 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นตัวแทนจากทั้งสองพรรค จึงเข้าไป “ชิงดำ” กันอีกครั้งในการเลือกตั้งมิดเทอม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้
ผลการเลือกตั้งดังกล่าว ถือว่าสร้างความ “โล่งใจ” ให้กับพรรครีพับลิกันได้มาก เพราะก่อนหน้านี้ การคว้าชัยชนะในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐสีแดง หรือรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้ เห็นได้จากผลสำรวจความเห็นประชาชนในช่วงเดือนเมษายน ที่คะแนนนิยมของ จอห์น ค็อค ตามหลัง เกวิน นิวซัม กับ แอนโตนิโอ วิลลาไรโกซ่า อดีตนายกเทศมนตรีเมืองแอลเอ อยู่ห่างๆ ก่อนจะตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ และสามารถแซงหน้า แอนโตนิโอ วิลลาไรโกซ่า ได้ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
ขณะเดียวกัน การที่ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ผ่านการเลือกตั้งรอบแรกเข้าสู่การเลือกตั้งมิดเทอมได้เช่นนี้ ก็สร้างแรงกดดันให้กับพรรคเดโมแครต ได้มากเช่นกัน เพราะแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เรียกว่า “กระแสสีน้ำเงิน” หรือแรงสนับสนุนพรรครีพับลิกันในแคลิฟอร์เนีย รวมถึงแรงสนับสนุนนโยบายขวาสุดโต่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นั้น เชี่ยวกรากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรัฐนี้ และหากกระแสสีนำ้เงินยังคงรุนแรงเช่นนี้ต่อไป การเลือกตั้งมิดเทอม ในเดือนพฤศจิกายน ก็อาจทำให้เกิดการพลิกล็อค เหมือนคราวที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งและกลายเป็นผู้นำของประเทศได้แบบไม่มีใครคาดฝันมาแล้ว
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง บอกกับแอลเอไทมส์ ว่าการที่ จอห์น ค็อค สามารถเอาชนะอดีตนายกเทศมนตรีของเมืองแอลเอ ที่หายหน้าไปนานหลายปี นั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือชัยชนะดังกล่าว เป็นชัยชนะที่ท่วมท้น กล่าวคือจอห์น ค็อค ได้รับคะแนนเสียงถึง 26 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าคะแนนเสียงที่ แอนโตนิโอ วิลาไรโกซ่า ได้รับถึงสองเท่า
“ในช่วงสัปดาห์สุดท้าย จอห์น ค็อค ได้รับแรงกระตุ้นจากการทวิตสนับสนุนของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้คนที่ชื่นชอบนโยบายของทรัมป์ ออกมาใช้สิทธิ์มากกว่าที่ใครๆ คาดคิด” นักวิเคราะห์กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการแย่งคะแนนกันเองของบรรดาผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต คือ เกวิน นิวซัม, แอนโตนิโอ วิลลาไรโกซ่า และจอห์น เชียง หัวหน้าคลังของรัฐ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น “ดาวเด่น” ของพรรค ขณะที่ผู้สมัครเด่นของรีพับลิกันนั้น มีเพียงสองคน คือจอห์น ค็อค และทราวิส อัลเลน เท่านั้น
“อย่าลืมว่าการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียนั้น เดโมแครตมีเดิมพันสูงมาก เพราะรัฐนี้คือรัฐฐานเสียงขนาดใหญ่ หากเสียตำแหน่งนี้ไปก็ง่ายที่รีพับลิกันจะเข้ามาในตำแหน่งอื่นๆ อีก” นักวิเคราะห์กล่าว และว่าหากที่สุดแล้ว จอห์น ค็อค สามารถเอาชนะการเลือกตั้งได้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ประกาศตัวว่าเป็นรัฐหลบภัย (sanctuary state) ก็จะมีความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่อย่างแน่นอน
“การเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในช่วงปลายปี คือการแข่งขันระหว่างความฮึกเหิมของฝั่งรีพับลิกัน และความหวาดกลัวของเดโมแครต เป็นที่น่าสนใจว่าอย่างไหนจะกระตุ้นให้คนออกมาใช้สิทธิมากกว่ากัน” นักวิเคราะห์ กล่าว.