ข่าวคนไทยในอเมริกา
ร้านไทยบีบีคิวในคาร์สัน ถูกฟ้องไม่มีที่จอดคนพิการ





แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ร้าน “ไทย ออริจินัล บาร์บีคิว” ในเมืองคาร์สัน และธุรกิจข้างเคียง ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายโดยผู้ใช้รถเข็น ฐานไม่มีที่จอดรถสำหรับคนพิการ เรียกค่าเสียหาย 4,000 ดอลลาร์พร้อมค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมาย ขณะที่เว็บไซต์กฎหมายเตือนธุรกิจขนาดเล็ก ให้ระวังสำนักงานกฎหมายหัวหมอ ที่ใช้ “คนพิการ” ออกล่าเหยื่อ ก่อนใช้กฎหมาย เอดีเอ เป็นเครื่องมือหาเงิน


รายงานข่าวเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2018 ระบุว่า ร้าน ไทย ออริจินัล บาร์บีคิว, บริษัทตุงส อินเวสท์เมนท์ กรุ๊ป และธุรกิจอื่นๆ (Does 1-10) ที่มีสถานที่ประกอบการในพลาซ่าเดียวกัน ถูกยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายโดย คาร์เมน จอห์น เพอร์รี่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา ต่อศาลแขวงสหรัฐฯ (the U.S. District Court for the Central District of California) โดยกล่าวหาว่าไม่ได้เตรียมที่จอดรถสำหรับคนพิการที่ประสงค์จะเข้าไปอุดหนุนหรือใช้บริการ ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายสองฉบับ คือกฎหมายว่าด้วยผู้พิการของสหรัฐ  หรือ the Americans with Disabilities Act (ADA) และ the Unruh Civil Rights Act.อันป็นกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย ที่ห้ามไม่ให้ธุรกิจทุกประเทศ การเลือกปฏิบัติกับลูกค้าหรือคนทั่วไป ทั้งจากเพศ เชื้อชาติ สีผิว ศาสนา ประเทศเกิด อายุ ความพิการ ฯลฯ

โดย คาร์เมน จอห์น เพอร์รี่ ในฐานะโจทก์ ได้ระบุในคำร้องว่าเขาเป็นบุคคลที่ต้องใช้รถเข็น และมีป้ายจอดรถสำหรับคนพิการของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2018 เขาได้ไปเยือนธุรกิจของบรรดาจำเลยทั้งหลาย แต่ไม่มีสถานที่จอดรถที่กำหนดเอาไว้ให้สำหรับคนพิการ ตามที่กฎหมายว่าด้วยผู้พิการของสหรัฐฯ กำหนด นอกจากนี้ เขายังฟ้องร้องด้วยว่าบรรดาห้องน้ำของธุรกิจเหล่านี้ ก็ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้เช่นกัน

โจทก์ ได้เรียกร้องให้ร้าน ไทย ออริจินัล บาร์บีคิว, ตุงส์ อินเวสท์เมนท์ กรุ๊ป และธุรกิจอื่นๆ แสดงความรับผิดชอบ เพราะเหล่าจำเลยไม่มีนโยบายหรือการวางแผนให้ดี เพื่อให้แน่ใจว่ามีที่จอดรถสำหรับผู้พิการ อันเป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ โดยโจทก์ได้เรียกร้องให้มีการพิจารณาคดีโดยลูกขุน  และเรียกร้องความยุติธรรมจากบรรดาจำเลยให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์ต่อหนึ่งข้อหา, ค่าธรรมเนียมของทนายความ, ค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้อง และคดีความ

ทั้งนี้ คาร์เมน จอห์น เพอร์รี่ ได้แต่งตั้งทนายความชื่อ โจเซฟ อาร์ เมนนิ่ง จูเนียร์, ไมเคิล เจ เมนนิ่ง  และทีมงานของบริษัททนายความ เมนนิ่ง ลอว์ เอพีซี ในนิวพอร์ท บีช เป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้องให้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของสยามทาวน์ยูเอส พบว่า คาร์เมน จอห์น เพอรี่ มีชื่อเป็นโจทก์ฟ้องร้องธุรกิจต่างๆ ในแคลิฟอร์เนีย เป็นจำนวนมากมาย ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ หรือเป็นที่รู้จัก อย่าง Foof 4 Less, Little Caesars Pizza, Payless Shoes เรื่อยจนถึงธุรกิจขนาดเล็กทั่วไป รวมถึงมีเรื่องราวของเขา ปรากฎบนเว็บไซต์ Northern California Record เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมาด้วย

บทความที่เขียนโดย แครี่ บราดอน ใช้ชื่อว่า “ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ธุรกิจขนาดเล็ก ได้รับเดือดร้อนเพราะนักฟ้องอาชีพ (serial plaintiff) ที่ใช้กฎหมาย เอดีเอ” (Small business often hurt by serial plaintiffs in ADA violation suits, expert says) และว่าพฤติกรรมของสำนักงานกฎหมาย ที่จ้างผู้พิการให้ออกหน้าฟ้องร้องธุรกิจต่างๆ โดยใช้กฎหมายฉบับนี้นั้น นอกจากจะมีผลน้อยมากในเรื่องของความยุติธรรมแล้ว ยังเป็นการทำร้ายเศรษฐกิจของชุมชนอีกด้วย

บทความได้พูดถึง คาร์เมน จอห์น เพอร์รี่ ซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องร้อง ร้าน ไทย ออริจินัล บาร์บีคิว ว่า นับจากเดือนกรกฎาคม 2017 จนถึงปัจจุบัน เขาได้เป็นโจทก์ฟ้องร้องคดีแพ่งกับศาลแขวงสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกับธุรกิจอย่างน้อย 75 คดี โดยทุกคดีจะใช้ข้อกล่าวหาเดียวกัน คือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยผู้พิการสหรัฐฯ (ADA) และว่ามีธุรกิจอย่างน้อยหนึ่งแห่ง ที่ตัดสินใจยอมความกับ คาร์เมน จอห์น เพอร์รี่ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2018 คือร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสวย (Cosmetics & beauty Supply) ชื่อ Tam Doan Shop ในเมืองเวสท์มินสเตอร์ ซึ่งถูกยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา

บทความบอกด้วยว่าการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับธุรกิจต่างๆ ของ คาร์เมน จอห์น เพอร์รี่ นั้น กระทำผ่านสำนักงานทนายความ เมนนิ่ง ลอว์ เอพีซี ในนิวพอร์ท บีช

บทความบอกต่อไปว่า การฟ้องร้องโดย “นักฟ้องอาชีพ” หรือ serial plaintiff แบบนี้ ไม่ใช่เป็นที่นิยมเฉพาะในแคลิฟอร์เนียเท่านั้น แต่เกิดขึ้นในหลายรัฐที่มีกฎหมายคล้ายๆ กัน รวมถึงในอริโซน่า ที่มีการฟ้องร้องมากกว่า 1,200 คดีในช่วงปี 2016-2017

บทความได้อ้างความเห็นของ  อาร์รอน เค ฮาร์ นักกฎหมายที่เชี่ยวชาญการฟ้องร้องของ “นักฟ้องอาชีพ” แบบนี้ ที่บอกว่าเป็นพฤติกรรมของคนที่กำลังเอากฎหมายมาใช้ประโยชน์

อาร์รอน เค ฮาร์ บอกว่ากฎหมาย เอดีเอ มีกฎเกณฑ์ที่จำเป็นหลายประการเพื่อช่วยให้ผู้พิการ สามารถเข้าถึง (access) สถานที่หรือบริการต่างๆ แบบเดียวกับผู้คนทั่วไป แต่ถือเป็นเรื่องโชคร้าย ที่มีกลุ่มทนายความบางกลุ่ม ที่มีพฤติกรรมเหมือน “เด็กเลวในห้อง” คอยทำลายทุกอย่างสำหรับทุกคน

“สิ่งที่เราเห็นกันทั่วไปในคดีแบบนี้ก็คือ บรรดาทนายความเหล่านี้จะหาผู้พิการที่ยินดีมีส่วนร่วม คอยทำหน้าที่เป็น “หน้าม้า” ในการยื่นฟ้องร้อง โดยทนายความให้สัญญาว่าจะแบ่งเงินที่ได้รับจากคดีให้เป็นค่าจ้าง และจะขอให้ผู้พิการเหล่านี้ขับรถไปยังธุรกิจต่างๆ ที่ทนายความเห็นว่าไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เอดีเอ จากนั้นก็ทำเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นกระบวนการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย รวมถึงกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของคนพิการ แสดงความเห็นว่าเป็นความผิดของธุรกิจเอง ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แม้ว่ารายละเอียดของกฎหมาย เอดีเอ จะมีการเปลี่ยนแปลงแบบรายปี จนยากที่ธุรกิจขนาดเล็ก ที่มีรายได้ไม่มากนัก จะสามารถปฏิบัติตามได้ และกลายเป็น “เป้าหมาย” ของทนายความและนักฟ้องอาชีพเหล่านี้ในที่สุด.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :
 
Detail :
 



ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข