เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศว่าจะเพิ่มคำถามสำคัญอีกหนึ่งคำถามในแบบฟอร์มสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2020 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า นั่นคือคำถามเกี่ยวกับ “สถานะความเป็นพลเมือง” ในครัวเรือนของผู้ตอบแบบสอบถาม
คำถามเกี่ยวกับสถานภาพความเป็นพลเมืองดังกล่าวนี้ รมว.พาณิชย์ ระบุว่าเป็นไปตามคำขอที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้เพิ่ม โดยให้เหตุผลว่าจะใช้เป็นข้อมูลในการร่างกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิ์ในการออกเสียงเลือกตั้งของชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ
แต่ผู้ไม่เห็นด้วยเชื่อว่า การเพิ่มคำถามเกี่ยวกับสถานะความเป็นพลเมืองกลับเข้าไปในแบบสำรวจ หลังจากที่ถูกยกออกไปเมื่อปี 1950 จะยิ่งทำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงที่จะเข้าร่วมในการสำรวจสำมะโนประชากรมากขึ้น เพราะไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะนำข้อมูลนั้นไปใช้อย่างไร และจะส่งผลกลับมาถึงพวกเขาหรือไม่ ทำให้ข้อมูลสำมะโนประชากรที่ได้อาจจะคลาดเคลื่อน
ทั้งนี้ เหตุผลหลักของการสำรวจสำมะโนประชากรทุกสิบปี โดยต้องใช้งบประมาณมากถึง 12.5 พันล้านดอลลาร์นั้น คือการนับจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในแต่ละรัฐให้ครบถ้วนที่สุด ทั้งนี้เพื่อทำการจัดจัดสรรเก้าอี้ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (house) ให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับจำนวนประชากร นอกจากนั้น ยังเป็นเครื่องมือสำหรับจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลกลางให้ถูกต้องตามความต้องการของประชาชนอีกด้วย
ผู้ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ รมว.พาณิชย์ ยังเชื่ออีกว่าข้อเสนอดังกล่าว เป็นแผนการณ์ที่หวังผลทางการเมือง เนื่องจากว่าจากการเพิ่มคำถามเกี่ยวกับสถานภาพความเป็นพลเมืองดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้ที่อยู่แบบผิดกฎหมายส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าร่วมในการสำรวจสำมะโนประชากร เนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจส่งผลในด้านลบ ทำให้การนับจำนวนประชากร ปรากฎผลออกมาต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในรัฐที่มีผู้อพยพต่างชาติเป็นจำนวนมากอย่างรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต อีกหลายรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลให้จำนวนที่นั่งของ ส.ส.ในรัฐฐานเสียงของพรรคเดโมแครตถูกลดจำนวนลง อีกทั้งจะส่งผลให้งบประมาณช่วยเหลือในด้านต่างๆ จากรัฐบาลกลาง ที่เคยมีให้รัฐสีน้ำเงิน หรือรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต ถูกลดปริมาณลงตามตัวเลขประชากรด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้อัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซาเวียร์ เบเซอร์ร่า ทำการยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลาง ในซานฟรานซิสโก เพื่อให้ศาลยับยั้งการเพิ่มคำถามดังกล่าวในแบบสำรวจสำมะโนประชากร เพราะเชื่อว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย และมีแรงจูงใจทางการเมืองเป็นหลัก
“การนับจำนวนประชากรที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ในส่วนของประชากรที่ไม่มีสัญชาติอเมริกัน จะทำให้รัฐแคลิฟอร์เนีย มีที่นั่งในสภาคองเกรส และเสียงอีเล็คทอรัล คอลเลจ น้อยกว่าความเป็นจริงมหาศาลนานถึงสิบปี” อัยการของรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุในคำร้อง.