ดูโลก ดูธรรม และดูใจ
โดย ดร.พระมหาจรรยา สุทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา
เวลาภาวนา






วัดพุทธปัญญา จัดให้มีเวลาภาวนาสัปดาห์ละสองวัน คือ วันพฤหัสบดี เวลา 13.00-15.00 น. และ วันอาทิตย์เวลา 14.00 -15.00 น. เวลาภาวนาในวันอาทิตย์ที่เหลือเพียงวันเดียวเพราะเวลา 13.00 -14.00 น. เป็นเวลาแห่งการฟังธรรม กิจกรรมการฟังธรรมและการภาวนาแบบนี้มีอยู่ตลอดปี

การจัดกิจกรรมการฟังธรรมและการภาวนาตลอดปีเช่นนี้ เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของวัดในพระพุทธศาสนาว่า เป็นศูนย์การศึกษาและปฏิบัติธรรมของชุมชน ผู้มีความตั้งใจ เต็มใจและจริงใจ ตัดสินใจเดินทางมาร่วมกิจกรรมทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบุญและกุศลที่วัดพุทธปัญญาจัดให้ตามพันธกิจ ด้วยจิตใจที่ซาบซึ้งถึงอุปการคุณที่ทุกคนมีต่อกิจการงานศึกษา ปฏิบัติ และเผยแผ่พระพุทธศาสนาของวัดพุทธปัญญาตลอดมาและจะมีด้วยกันเช่นนี้ตลอดไป

เคยมีคนตั้งคำถามต่อกิจกรรมการฟังธรรมว่า การที่พระต้องสอนพุทธศาสนิกชนอยู่เป็นประจำ หมายถึงพุทธศาสนิกชนที่มาฟังธรรมมีพฤติกรรมที่แย่จนหยุดสอนมิได้ใช่ไหม

คนที่ถามปัญหานี้เลยประกาศตนว่า ตนเองปฏิบัติดีแล้ว ไม่มีอะไรแย่ๆ ไม่ต้องไปวัดให้พระต้องสอน ยิ่งไปกว่านั้น ตนเองอาจจะมีความรู้ทางธรรมดีกว่า พระที่สอนด้วยซ้ำไป

คำถามแบบนี้ แม้จะไม่ค่อยได้ยินมากนัก แต่ถ้าได้ยินแล้วก็ต้องตอบ เพื่อทำความเข้าใจว่า เมื่อผู้ถามมีสิทธิ์คิด และมีสิทธิ์ตั้งคำถาม ผู้ตอบก็มีสิทธิ์คิดและตอบคำถามตามความเป็นจริงเช่นเดียวกัน เพราะความจริงก็มีอยู่ว่า การกระทำและการพูดล้วนออกมาจากความคิด การปรุงแต่งและจินตนาการ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะดีหรือไม่นี้ ล้วนผ่านความคิดมาหลายครั้งที่จะลงมือทำลงไป

การที่ตัวอาตมาเอง แสดงธรรมเองและจัดให้พระสงฆ์ที่อยู่ร่วมภายในวัดได้แสดงธรรมในวันเสาร์ที่กริฟฟิธพาร์ค สวนสาธารณะกลางมหานครลอสแอนเจลิส และในวันอาทิตย์ที่วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ก็ล้วนมาจากความคิดเช่นกัน

ความคิดแรกเป็นความคิดเห็นเพื่อการบำเพ็ญบุญแก่ตนเองตามหลักบุญกิริยาวัตถุในข้อที่ว่า ธัมมเทศนามัย แปลว่า บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม เมื่อไรที่ได้แสดงธรรม เมื่อนั้นย่อมได้ทำบุญ เมื่อต้องการทำบุญจึงต้องแสดงธรรม จึงมีความรัก มีความตั้งใจในการแสดงธรรมไม่เคยเบื่อหน่าย ไม่ว่าจะแสดงธรรมที่วัดหรือแสดงธรรมออกสื่อ หนังสือพิมพ์และเฟสบุ๊ก กิจกรรมนี้มิใช่อื่นไกลแต่เป็นเรื่องการทำบุญ

ความคิดต่อมา คิดถึงพุทธศาสนิกชนตามหลักแห่งบุญกิริยาวัตถุ ในข้อที่ว่า ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม การจัดการฟังธรรมให้แก่พุทธศาสนิกชนมิใช่พุทธศาสนิกชน เป็นคนไม่ดี มีความประพฤติแย่ ที่พระต้องพร่ำต้องสอนกันไม่มีวันหยุดหย่อน แต่การแสดงธรรมแก่พุทธศาสนิกชนมีจุดประสงค์หลัก เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าถึงบุญ ได้รับบุญในข้อนี้ตามหลักแห่งการทำบุญที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ว่า บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม เมื่อใดที่พุทธศาสนิกชนร่วมฟังธรรม เมื่อนั้น พุทธศาสนิกชนก็ได้ทำบุญสำเร็จแล้ว เป็นการเพิ่มความดีของพุทธศาสนิกชน ผู้มีความดีพร้อมทั้งกายวาจาและใจอยู่มากแล้วให้มีมากยิ่งๆขึ้นไป เพราะความดีเหล่านี้ทำมากเท่าไรไม่ต้องอาศัยที่เก็บที่ใหญ่โตกว้างขวางแต่ประการใดเก็บไว้ในใจ ความดีไม่บูด ไม่เน่า ไม่เสีย ไม่ต้องใช้สารกันบูดในการเก็บรักษาความดี  แต่เก็บความดีไว้ที่ใจ รักษาใจให้ผ่องใสแล้ว บุญและความดีทั้งปวงก็จะอยู่คู่ใจตลอดไป ไม่ต้องหาสถานที่ปลอดภัยในการเก็บความดีและการเก็บบุญ เพราะไม่มีโจรคนไหนจะปล้นบุญและความดีที่ฝังลงในใจไปได้ ความดี เป็นทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่พกติดตัวไปได้ง่าย ให้ความสุขได้สม่ำเสมอ ไม่มีพิษ ไม่มีภัยแต่ประการใด

นอกจากการฟังธรรมจะเป็นบุญสำหรับนักแสวงบุญแล้ว การฟังธรรมยังมีอานิสงส์ที่ได้รับทันทีเมื่อฟังธรรมจบลงไปถึง 5 ประการ

1 ได้ยินได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยได้ยินได้ฟัง

2 สิ่งที่ได้ฟังแล้วแจ่มแจ้งชัดเจนมากขึ้น

3 ความสงสัยค่อยๆผ่อนคลายหายไปตามลำดับ

4 ทำความเห็นผิดให้เป็นความเห็นถูกได้ อานิสงส์ข้อนี้เป็นบุญอีกข้อหนึ่งที่อยู่ในบุญกิริยาวัตถุที่เรียกว่า ทิฏฐุชุกรรม บุญสำเร็จด้วยการทำความเห็นให้ตรง

5 จิตย่อมผ่องใส อานิสงส์ข้อนี้ก็เป็นบุญอีกข้อหนึ่งที่เรียกว่า ภาวนามัย แปลว่า บุญสำเร็จด้วยการภาวนา ผลจากการภาวนาโดยตรง ขณะที่ภาวนาและภาวนาเสร็จแล้ว คือ จิตผ่องใส

กิจกรรมการฟังธรรมที่มีอยู่โดยทั่วๆไป มิใช่กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่ออบรมคนพาลสันดานหยาบแต่ประการใด แต่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับบัณฑิตที่ปรารถนาศึกษาธรรมเป็นอาหารใจไม่เคยเบื่อหน่าย ปรารถนาความเจริญ ความสงบของชีวิต ปรารถนาฝึกฝนตนเอง ปรารถนาความสุขจากบุญและกุศลตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

“การสั่งสมบุญนำความสุขมาให้”

ส่วนท่านผู้ที่คิดต่าง ก็ต้องเคารพในความคิดซึ่งจะผลิตออกมาเป็นการกระทำนั้น เมื่อได้ยินได้ฟังความเห็นต่างนั้นก็รับฟังไว้ด้วยสติแล้วปล่อยไปตามธรรมชาติแห่งความเกิดดับแห่งสรรพสิ่ง

ส่วนกิจกรรมการภาวนาที่จัดขึ้นตามวันเวลาดังกล่าว เพื่อจะได้ทำบุญร่วมกันระหว่างคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนตามหลักบุญกิริยาวัตถุข้อที่ว่า ภาวนามัย แปลว่า บุญสำเร็จด้วยการภาวนา คือ การทำสติ สมาธิ และปัญญาให้มีมากขึ้น การภาวนาเป็นทั้งบุญและกุศลอยู่ในการทำครั้งเดียวและครั้งต่อๆไป

กุศล แปลว่า สภาวธรรมที่ทำให้บาปสั่นสะเทือน หวั่นไหว และหมดไป เปรียบเหมือนการเตรียมดินพร้อมสำหรับปลูกพืช

บุญ แปลว่า การเติมความดีลงไปในใจให้เต็ม  กล่าว คือ เมื่อกุศลทำใจให้ว่างจากบาป บุญก็คือ สิ่งที่นำความดีมาเติมลงไปในใจให้เต็ม  เปรียบเหมือนบุคคล เทน้ำสกปรกออกจากภาชนะใดภาชนะหนึ่ง ชำระล้างให้สะอาดดีแล้ว จึงเติมน้ำใสบริสุทธิ์ใส่ลงไปจนเต็ม

ใจที่เปี่ยมบุญ คือใจที่เปี่ยมด้วยความดี

ใจที่เปี่ยมกุศล คือ ใจที่เปี่ยมด้วยเครื่องป้องกันและกำจัดบาปมิให้เข้าไปทำร้ายจิตใจ จิตใจจึงสงบสุข

เวลาแห่งการภาวนา คือ เวลาแห่งความ ตื่นรู้และระลึกถึงทั้งกายและใจ ทั้งที่เคลื่อนไหวและหยุดอยู่ เห็นชัดว่าใจอยู่ใกล้ หรือ อยู่ไกลกาย เห็นชัดว่า ใจไหล ใจลอย ใจแตก ใจตั้ง ใจตกหรือตกใจ มองเห็นตรงๆ สดๆ ซื่อๆ ไม่ผ่านมายาภาพและจินตนาการ แต่พบได้ด้วยความรู้สึกที่เป็นปัจจุบันขณะ เห็นอาการต่างๆของจิต  ผ่านความเคลื่อนไหวและหยุดอยู่อย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่อยู่ร่วมกันกับมิตรสหาย  หรือ อยู่คนเดียว หากใจระลึกได้ถึงสิ่งที่ทำ คำที่พูด รู้สึกได้ถึงความเคลื่อนไหว ทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด กำลังทำกิจกรรมใดๆ พึงทราบว่า เวลานั้นเป็นเวลาภาวนา

ตามคำจำกัดความนี้ นำมาซึ่งคำถามว่า ถ้าอย่างนั้น การภาวนาทำที่ไหนก็ได้ ใช่ไหม ตอบว่า ใช่  ส่วนใครจะทำภาวนาที่ไหน ขึ้นอยู่กับความสะดวก ความตั้งใจ และ ความเต็มใจของผู้ที่มีความพร้อมจะทำ ไม่เกี่ยวกับความถูกความผิด ไม่มีข้อบังคับใดๆทางพระพุทธศาสนาแต่ประการใด

อาจจะมีผู้ตั้งคำถามว่า ถ้าเช่นนั้น วัดพุทธปัญญาจัดเวลาภาวนาไว้ทำไม
 
คำตอบซื่อๆตรงๆ ก็จัดขึ้น เพื่อรอคอยท่านผู้ที่มีความตั้งใจ จริงใจ เต็มใจ และปรารถนาแสวงหา เวลา สถานที่และมิตรสหายผู้ใคร่ในภาวนา ได้มาปฏิบัติภาวนาร่วมกัน ท่านเหล่านั้นจะมีกี่คนก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อมีขึ้นก็เท่ากับบัดนี้ หรือ บัดนั้นได้มีกระแสน้ำใจใสๆไหลมาบรรจบกัน กลายเป็นลำธารน้ำใจใสๆเย็นไหลเอื่อยซอกซอนไปยังลำคลองใจที่เปิดกว้างพอที่จะให้ประโยชน์แห่งการภาวนาไหลผ่านเข้าไปได้

วันเวลาแห่งการภาวนารวมกันเป็นหมู่คณะ คือ วันเวลาแห่งท่อธาราแห่งน้ำใจที่ถูกเปิดให้ไหลเข้าหากันด้วยความสุขสันต์ สงบ อบอุ่น เปี่ยมบุญกุศลทุกคราไป ขอบุญกุศลอันยิ่งใหญ่อันเกิดจากภาวนาทุกครานี้ จงเป็นพลังอันเย็นใสบ่าไหลไปสู่ห้วงดวงใจของเพื่อนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายที่กำลังเร่าร้อน ให้ผ่อนคลายสบายเย็นตามสมควรแก่เหตุปัจจัยด้วยเถิด

วันที่ 16 มีนาคม 2561 เวลา 8.49 น.
วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
12-07-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 50 สุดทางสายบาลี (0/2808) 
06-07-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 49 ฝึกฝนตนที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ (0/649) 
28-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 48 สอบได้แต่แม่เสีย (0/614) 
20-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 47 สอบเปรียญธรรม 7 ประโยคได้ (0/683) 
07-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 46 กราบหลวงพ่อปัญญานันทะ (0/671) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข