การเยือนรัฐแคลิฟอร์เนียครั้งแรกหลังสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านพ้นไปอย่างเรียบร้อย เมื่อสายวันพุธที่ 14 มีนาคม 2018 โดยทรัมป์ ขึ้นเครื่องบิน แอร์ฟอร์ซวัน ที่สนามบินนานาชาติ ลอส แอนเจลิส เมื่อเวลา 09.10 น. ไปยังซานหลุยส์โอบิสโป้ ก่อนจะเดินทางกลับวอชิงตัน ดีซี
ทั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทาถึงแอลเอ เมื่อบ่ายวันอังคารที่ 13 มีนาคมเพื่อร่วมงานเลี้ยงหาทุนสนับสนุนพรรครีพับลิกัน ณ บ้านพักในย่านเบฟเวอร์ลี่ฮิลล์ ของ เอ็ด กลาเซอร์ นักธุรกิจ เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล แทมป้าเบย์ บุคแคนเนียร์ ซึ่งข่าวบอกว่าเป็นงานเลี้ยงอาหารเย็น ที่จำหน่ายบัตรในราคาที่นั่งละ 25,000 ดอลลาร์ หรือ 250,000 ดอลลาร์สำหรับการนั่งร่วมโต๊ะกับประธานาธิบดีทรัมป์ โดยประเมินว่างานเลี้ยงครั้งนี้ สามารถรวบรวมเงินบริจาคได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านดอลลาร์
การเยือนลอส แอนเจลิส ครั้งนี้ นอกจากจะมีการปิดถนนที่ขบวนรถของประธานาธิบดีทรัมป์วิ่งผ่านแล้ว ยังมีปิดถนนรอบบริเวณสถานที่จัดงานเลี้ยง และปิดถนนรอบโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ลอส แอนเจสลิส ซึ่งเป็นสถานที่พักของเขาเป็นบริเวณกว้าง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งมีมากมายหลายกลุ่มเข้าไปชุมนุมใกล้ๆ ได้
โดยก่อนจะเดินทางมายังลอส แอนเจลิส นั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เดินทางไปเยี่ยมกำแพงตัวอย่าง สำหรับสร้างกั้นพรมแดนแม็กซิโกกับสหรัฐฯ ณ เมืองโอเทย์ เมซ่า ในซานดิเอโก้ เคาน์ตี้ เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันอังคารที่ 13 มีนาคม โดยกำแพงดังกล่าวเป็นแท่งคอนกรีตสูง 30 ฟุต จำนวน 8 แท่ง
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวโจมตีผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เจอร์รี่ บราวน์ ว่าบริหารรัฐแคลิฟอร์เนียได้แย่มาก
“เขาเก็บภาษีสูงสุดในอเมริกา เป็นที่ๆ วุ่นวาย ไร้การควบคุม มีเมืองหลบภัย (sanctuary cities) หลายเมืองให้อาชญากรอาศัยอยู่” และว่าตัวเขาไม่มีอสังหาริมทรัพย์ในแคลิฟอร์เนีย เพราะอัตราภาษีสูงเกินไป และว่าผู้คนจะพากันย้ายไปรัฐอื่นเร็วๆ นี้
ซึ่งต่อมา ผู้ว่าการารัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ทวิตข้อความตอบโต้คำสบประมาทดังกล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับการตะโกนโหวกเหวก แต่สะพานย่อมดีกว่ากำแพงเสมอ และแคลิฟอร์เนียก็ยังคงเป็นรัฐที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหกของโลก และเป็นรัฐที่เจริญที่สุดของอเมริกา”
โดยการเยือนรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือเป็นรัฐของพรรคเดโมแครต หรือรัฐสีน้ำเงิน ซึ่งเกินเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงครั้งนี้ แอลเอไทมส์ บอกว่าเป็นการเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ นับจากการเยือนของอดีตประธานาธิบดี แฟรงค์กินส์ ดี รูสซาเวลท์ เป็นต้นมา โดยบอกว่าเป็นการ “มาดูในสิ่งที่เขาอยากดู” โดยไม่สนใจที่จะปะปนกับประชาชนคนธรรมดาแต่อย่างใด
ไทมส์บอกว่าแคลิฟอร์เนีย เป็นรัฐที่มีผู้เห็นต่างกับประธานาธิบดีทรัมป์เยอะที่สุด ทั้งกลุ่มผู้อพยพ, แรงงาน, แอลจีบีทีคิว ทำให้บรรดาองค์กรที่ทำงานเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและความเท่าเทียมของกลุ่มเหล่านี้ เตรียมทำการประท้วงการมาเยือนของเขา จนเป็นเหตุให้มีการปิดถนนเป็นวงกว้าง ในทุกที่ๆ ประธานาธิบดีทรัมป์ไปเยือน
ไทมส์บอกด้วยว่า กระทั่งบรรดานักการเมืองของพรรครีพับลิกัน ที่อยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และตำแหน่งอื่นๆ ก็เลี่ยงที่จะไปต้อนรับ หรือร่วมงานเลี้ยงกับประธานาธิบดีทรัมป์ด้วย.