ข่าวคนไทยในอเมริกา
รายงานหน้าหนึ่ง : รู้จัก “อีริค การ์เซ็ตติ” ผ่าน 20 คำถามพิลึก

คอลัมน์ “20 คำถามพิลึก” (20 Odd questions) บนเว็บไซต์ของ วอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อวันแห่งความรักที่ผ่านมา ได้สัมภาษณ์ “อีริค การ์เซ็ตติ” ในฐานะ “นักท่องโลก” ที่เดินทางไปเยือน (และไปอยู่) ในประเทศต่างๆ มาแล้วกว่า 80 ประเทศรอบโลก รวมถึงไทยแลนด์ของพวกเราด้วย

และในคำตอบที่เต็มไปด้วยเชาว์ไวไหวพริบของเขานี้ สะท้อนความรับผิดชอบและแง่มุมความคิดทั้งในในฐานะ “นายกเทศมนตรีของเมืองลอส แอนเจลิส” และในฐานะนักการเมืองหนุ่มอนาคตไกล...​ไกลถึงทำเนียบขาว ออกมาให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน...

อดไม่ได้ที่จะนำมาถ่ายทอดให้พวกเราคนไทยได้อ่านกัน...

บทความของเจอร์นัล โดย ริโห้ กาเลียโน่ ขึ้นต้นว่า “ถามนายกเทศมนตรีของเมืองลอส แอนเจลิส ว่าเคยไปเยือนประเทศต่างๆ มาแล้วกี่ประเทศ เขาไม่สามารถตอบคุณได้ทันที...”

ในการสัมภาษณ์ที่ซิตี้ฮอลล์ของเมืองแอลเอ เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน เขาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า แล้วเรียกแอปชื่อ Counties Been ขึ้นมาดูอนิเมชั่นรูปลูกโลกแสดงให้เห็นที่ต่างๆ ที่เขาเคยไป...

“เคยไปเยือน 78 ประเทศ เคยอยู่ 5 ประเทศ” เขาตอบ “คิดว่า ทั้งหมดก็ 83 หรือไงนี่แหละ”

จะว่าเขาไม่ได้หรอก... เพราะในฐานะนายกเทศมตรี คุณการ์เซ็ตติ วัย 47 'หัวหอก' แห่งความสำเร็จของเมืองแอลเอ ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดร้อน ปี 2028 ต้องเดินทางไปทั่วโลก เพื่อล็อบบี้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ตั้งแต่เดนมาร์ค จนถึงการ์ต้า และตลอดปีที่ผ่านมา เขายังต้องวุ่นวายกับการเดินทางไปทั่วอเมริกา ทั้งฟลอริด้า อริโซน่า นิวแฮมเชียร์ และอีกหลายที่...​

พูดได้ว่า เขาเดินทางเหมือนกับคนที่กำลังคิดหาเสียงเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดี... อันเป็นตำแหน่งที่เขาบอกว่า “อาจจะ” ลงสมัครในอนาคต...

แต่ความเป็นนักท่องโลกของคุณการ์เซ็ตตินั้น มีมาตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเริ่มอาชีพนักการเมือง พ่อแม่ของเขา ซึ่งต่างก็มีเชื้อสายที่ผสมผเส (พ่อเขาสืบเชื้อสายมาจากอิตาเลี่ยนผสมแม็กซิกัน ส่วนแม่จากรัสเซียและยิว) เจอกันขณะทำงานอยู่ที่สายการบิน แพนแอม

“ถ้ามีเงินเหลือ พ่อกับแม่จะใช้มันกับรถยนตร์ หรือบ้านหรอก” คุณการ์เซ็ตติ บอก “เขาจะบอกว่า ‘เราจะเดินทางกันนะ ไม่ใช่แค่เวเคชั่นนะ ไม่เลย เดินทางกันยาวๆ ตลอด เพราะงั้นผมจึงได้ไปประเทศจีนตอนผมอายุแค่ 12 ไปอินเดียตอนเป็นวัยรุ่น... อะไรแบบนั้น”

กระนั้นก็ดี อย่างที่เราคาดเดาได้ เขาบอกว่าแคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งในสถานที่โปรดปรานของเขาบนโลกใบนี้... อีกทั้งยังเลือก ซานเฟอร์นานโด้ แวลเล่ย์ เป็น “แหล่งท่องเที่ยว” ที่คุ้มค่าที่สุดด้วย

“มันมี lahmacun (อาหารของอาร์เมเนียนหรือตุรกี ทำจากแป้ง) ที่ดีที่สุดในประเทศ.. คนเราเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อไปดูสิ่งที่เรามีอยู่ในย่านแวลเล่ย์ของเรานี่เอง”

ความแตกต่างของการเดินทางในฐานะคนธรรมดากับนักการเมืองคือ :
ในฐานะนักการเมือง เกือบตลอดเวลาคุณจะอยู่ในโรงแรมหรืออาคารของรัฐบาล และไม่เห็นอะไรเลย จริงๆ นะ ที่ไหนก็ตาม เหมือนประชุมในห้อง Virtual reality (ห้องจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริง) กับของอีกฝ่ายหนึ่งเลย

วิธีที่ดีที่สุดในการทำตัวให้กลมกลืนของนักท่องเที่ยวคือ :
ต้องรู้วิธีสั่งอาหาร ผมคิดว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ลงเอยด้วยการกินอาหารที่ไม่ได้เรื่อง เพราะมันคืออาหารที่คนพื้นที่คิดว่าคุณอยากกิน แต่ถ้าเขารู้ว่าคุณชื่นชอบวัฒนธรรมของเขาล่ะก็ เขาจะยกเอาของดีที่สุดของเขามาให้ ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะตีกลับใส่คุณก็ได้ อย่างครั้งหนึ่งที่กรุงเทพฯ และผมพูดไทยได้นิดหน่อย เขาก็เลยยกต้มข่าไก่ที่เผ็ดที่สุดมาให้ มันเป็นซุปที่ผมไม่เคยกินมาก่อนในชีวิต เจอพริกเม็ดเล็กๆ ที่ผมคิดว่าแปลตรงตัวว่า ‘พริกขี้หนู’ (rat shit chiles) ซึ่งเป็นพริกที่ยังคงหลอกหลอนผมจนถึงวันนี้

ผมไม่เคยเดินทางโดยไม่มี :
ปกติก็คงเป็นซอสพริก (hot sauce) พักเรื่องเมืองไทยไว้ก่อนนะ... ผมเคยอยู่ที่พม่า สองซัมเมอร์ ในยุค ‘90s ทำงานกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารที่ต้องหนีเข้าไปอยู่ในป่า เรามีกินแค่ข้าว กับไข่อาทิตย์ละครั้ง และนานๆ ครั้งก็มีผักบ้าง... ผมเจอกับนายร้อยกองทัพบกจากเวสท์-เวอร์จิเนีย ที่พกขวดซอสพริกติดตัวทุกที่ที่เขาไป ตอนนี้ผมก็เลยพักบ้าง ไม่ Tbasco ก็ Tapatio

ผมเคยกินพิสดารที่สุดในต่างประเทศ เมื่อ :
เมื่อผมไปที่วิหารแห่งหนึ่งในประเทศเอริเทรีย  ซึ่งคุณต้องไต่เขาขึ้นไปประมาณสี่ชั่วโมงกว่าจะถึง พวกเขาเพิ่งจะล้มวัวในววันนั้น และให้ผมกินด้วย เขาถามว่าผมอยากจะได้เครื่องปรุงรสอะไรกับเนื้อวัวดิบๆ ไหม ผมบอก “แน่นอน” เขาก็จัดการเจาะรูบนถุงหน้าตาแปลกๆ แล้วโรยมันลงบนเนื้อ รสชาติมันพิลึก... อย่าให้ต้องพูดมากกว่านี้เลย เลยถามว่า ‘มันคืออะไรเหรอ’ พวกเขาบอกว่า ‘อ้อ ถุงน้ำดี’  และนั่นคือน้ำดี

สถานที่โปรดปรานที่สุดของผมคือ :
หมู่บ้านกานาทูกาถาน (Kanadukathan) อยู่ในแคว้นเชตินาถ (Chettinad) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดีย ที่พ่อค้าซึ่งเป็นเศรษฐีอินเดียได้สร้างคฤหาสน์เอาไว้ (คฤหาสน์ เฉตตีย์) มันสวยมาก เป็นที่ๆ ผสมกันระหว่างความพังทลายกับการบูรณะ

หน้าที่ของผม หากเราเดินทางกันเป็นกลุ่มคือ :
คนนำทาง (navigator) เหมือนผมมีเข็มทิศที่เยี่ยมมาก คุณจะเอาผมไปปล่อยในประเทศไหนก็แล้วที่ผมไม่ได้กลับไป 20 ปี แล้วบอกว่า “พาผมจากจุดเอ ไปจุดบี’ แล้วผมจะพาคุณไปที่นั่นได้ ผมอยากไปร่วมรายการ The Amazing Race ก็เพราะเหตุผลนี้ แต่ผมไม่คิดว่าจะทำได้กับงานของผมตอนนี้

ระหว่างเดินทาง ผมทำแบบนี้เสมอ :
ส่งโปสการ์ดมาให้ลูกสาว ผมไม่คิดว่าเด็กรุ่นนี้จะรู้จักจดหมายแล้ว อย่าว่าแต่โปสการ์ดเลย แต่ผมอยากจะให้ลูกมีของสะสมเป็นภาพสวยๆ จากที่ต่างๆ รอบโลก

ของที่ระลึกที่ผมโปรดมากคือ :
เครื่องดนตรี ไม่ใช่ว่าจะแบกกีต้าร์หรือเปียโน่กลับมาหรอกนะ แต่ผมมีคอลเลคชั่นเครื่องให้จังหวะจากทั่วโลกที่ดีมากเลย

ผมจะไม่ตามใจตัวเองกับ :
เที่ยวบิน... ผมค่อนข้างตัวเล็ก พื้นที่เล็กแค่ไหนก็นอนได้ เพราะงั้นผมจะนั่งเก้าอี้แถวกลางในชั้นประหยัด ประหยัดเงินเอาไว้ใช้ทำอย่างอื่นที่ทำได้ดีกว่า

โรงแรมที่ผมชอบที่สุดคือ :
ฮวงหงา เกสต์เฮาส์ (the Hang Nga Guest House) ในเมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม เป็นตึกที่ซับซ้อนที่ดูเหมือนตุ๊กตาเปเปอร์มาเชขนาดใหญ่ หรือโลกแฟนตาซีของดีสนีย์ สร้างโดยลูกสาวของประธานาธิบดีเวียดนาม ผมพักในห้องฮันนีมูนสูท ซึ่งทำเหมือนต้นไม้ต้นใหญ่ที่คุณต้องปีนขึ้นไป เหมือนหลุดออกจากฉากของ สโนว์ไวท์กับคนเคระทั้งเจ็ด

คำแนะนำของผมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาแอลเอ เป็นครั้งแรกคือ :
เริ่มตอนบ่ายสอง การจราจรจะคล่องตัวมาก (หัวเราะ) คำแนะนำของผมคือ ใช้ขนส่งมวลชน เรากำลังสร้างสร้างเส้นทางรถไฟใหม่ 15 สาย จริงๆ ที่นี่เป็นเมืองที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับระบบขนส่งมวลชน

แหล่งท่องเที่ยวในแอลเอ ที่นักท่องเที่ยวสามารถข้ามได้โดยไม่เสียอะไรคือ :
ร้านขายของที่ระลึกบนฮอลลีวูด วอล์ค ออฟ เฟม แต่ต้องไปดูดวงดาว

ความเชื่อเก่าๆ (myth) ที่ใหญ่ที่สุดของแอลเอ คือ :
เป็นที่ๆ อยู่ยาก... แอลเอเป็นเมืองที่ดีมากสำหรับการกลืนหายเข้าไป ที่ดีที่สุดคือการขับรถไปทางทิศไหนก็ได้ หาสตริปมอลล์เล็กๆ แล้วเข้าร้านที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม ผมรับรองเลยว่าจะเห็นการอยู่ร่วมกันของวัฒนธรรมแบบที่คุณไม่เคยคิดมาก่อน เพราะเรามีธุรกิจของเกาหลีอยู่ข้างธุรกิจของอาร์เมเนียน ถัดไปเป็นร้านของคนไทย ติดกับร้านของกัวเตมาลา ทั้งหมดอยู่ในลานจอดรถแห่งเดียวกัน

ผมจะตุนเครื่องบิน แอร์ฟอร์ซวัน ด้วย :
คลิฟ บาร์ รสช็อกโกแล็ตมินต์ (Clif Bars) ตอนอยู่ที่เอริเทรีย ที่นั่นไม่มีอาหารให้เลือกมากนัก ผมเอาเอ็นเนอจี บาร์ ไปด้วยสองลัง ผมคิดว่ามันเชื่อมโยงมันกับการเดินทางแบบรวดเร็วและงานหนัก

ภาพยนตร์ที่ผมดูเพื่อให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินทางคือ :
“Tampopo” เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น ซึ่งผมเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนตอนเรียนไฮสกูลที่นั่น เป็นหนังเรื่องแรกที่ผมดูแล้วรู้สึกว่า เราตามตัวละครตัวหนึ่งอยู่ ตามได้สักครึ่งชั่วโมง อยู่ๆ พอมีใครเดินผ่านมาเราก็ตามเขาไปเลย ซึ่งนั่นคือการเดินทางท่องเที่ยวนะ บ่อยครั้งเลยที่แต่ละบทจะไม่เกี่ยวกัน มันคือส่วนหนึ่งของการเดินทาง

ก่อนตาย ผมอยากจะไป :
ทุกๆ ประเทศในโลกนี้



อีริค การ์เซ็ตติ




1 คฤหาสน์ เฉตตีย์ ในหมู่บ้านกานาทูกาถาน 2 ฮวงหงา เกสต์เฮาส์ 3 แอป Countries Been 4 ของกินเล่นบนเครื่องบิน 5 โปสการ์ดที่ส่งกลับบ้าน 6 ภาพจากหนังญี่ปุ่น Tampopo 7 สิ่งที่ต้องพกติดตัวเวลาเดินทาง



 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
19-04-2024 เอาให้ชัด! ฟาสต์ฟู้ดแคลิฟอร์เนียแพงขึ้นเท่าไหร่ หลังปรับค่าแรง 20 เหรียญ (0/23)   
17-04-2024 รายได้เท่าไหร่ ถึงจะอยู่แบบ “สบายๆ” ในแคลิฟอร์เนีย (0/190) 
16-04-2024 ภูมิใจ! แอลเอครองแชมป์ “ยุงชุม” สุดในประเทศ (0/110) 
15-04-2024 “โคชเดี่ยว” สร้างสถิติใหม่ บอสตัน มาราธอน (0/84) 
15-04-2024 ด่วน! เข้าอเมริกา อาจไม่ต้องผ่านด่านตรวจที่สนามบินแล้ว (0/94) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข